ถุงมือพลิกโลก ของ โอ.เจ.ซิมป์สัน (ตอน-1)

18 ก.ค. 2563 | 00:10 น.

เวลานี้ผู้คนเกิดการ “เหยียด” กันมาก ก็ไม่รู้ว่ามันเกิดอะไรกันขึ้นมา แต่สันนิษฐานว่า ระบบสื่อสารใต้ดินอย่างที่เรียกว่าโลกโซเชียล อันเปนโลกเสมือนคู่ขนานไปกับโลกข่าวสารบนดินนั้น มีความเข้มแข็งและรวดเร็วกว่าโลกข่าวสารดั้งเดิมบนดินซึ่งเคลื่อนที่ช้าแถมว่ามีการกลั่นกรองคุมข่าว อันส่งผลให้สัญชาตญาณดิบของสิ่งมีชีวิตสายพันธุ์โฮโมเซเปี้ยนสองขาอย่างเราท่านนี้เมื่อเสพเข้าไปมากๆถี่ๆเข้าแล้วก็ถูกกระตุ้นกระตุกออกมาอาละวาดได้ง่ายและ_รุนแรง

ในอดีตก่อนนั้นใครๆบ้านเราไปเมืองมะกันทันสมัยแล้วทำอะไรงกๆเงิ่นๆ เราก็จะหันมาตำหนิตัวเองว่า ‘กระเหรี่ยงเอ๋ย’ อย่างไม่กระมิดกระเมี้ยนกระดากอาย เพราะในใจหยาบกร้านของปวงเรานั้นมีความเหยียดชนเผ่าปกาเกอญอผู้ห่างไกลความสมัยใหม่บนป่าไร่ราวดอยอยู่โดยกมลสันดาน จึงพาลนำความเหยียดนั้นมาใช้เปนเรื่องตลกด่าตัวเอง (แน่จริงลองปลูกข้าวหาปลาแข่งกับปวงเขาดู)

คนเอเชียร่วมยุคสมัยเวลานั้นเจ้าของประเทศผมสีทองเขาก็เหยียด ยิ่งพวกผมสีดำหยิกหยอยผู้ถูกเหยียดมาอีกทอดเขายิ่งเหยียดเราไปใหญ่ เจอหน้าเราเผ่า Mongoloid ปวงผู้เหยียดทั้งหลายก็เรียกตะโกนใส่หน้าว่า chink_(มาจากคำว่า Chinese) บ้าง

บางที่ก็ว่า ‘เฮ้ yellow’ บ้าง เพราะเราผิวเหลือง บางย่านเเถบบล็องซ์ ในมุมมืดของนิวยอร์ค แมนฮัตตัน คำทักว่า yellow นี่จะถูกเติม monkey ใส่เข้าไปด้วย เพราะเราอาจจะตัวเล็กและเคลื่อนที่คล่องแคล่วเหมือนลิง กระมัง

ยามนี้ไวรัสโคโรน่าที่ว่าถ้าส่องกล้องขยายแล้วเห็นเซลล์มันมีวงรัศมีพิมพ์ประพายคล้ายมงกุฏพระอาทิตย์จึงเอามาตั้งเปนชื่อเรียก corona เกิดแพร่ระบาดเข้าไปยังโลกตะวันตกโดยเปนที่รู้กันว่ามาจากเมืองหวู่ฮั่น สธร.ประชาชนจีน ก็กระตุกให้ปฏิกิริยาหยาบหยามกลับมาเยือนโลกใบนี้อีกครั้ง นักเรียนไทยในอังกฤษจบเเล้วทำงานในบริษัทฝรั่งเดินกลับห้องพักก็โดนต่อยเสียดั้งหัก ค่าที่ฝรั่งคิดว่าเปนคนจีนพาเชื้อ เด็กหญิงหน้าไทยเกิดในคาลิฟอร์เนียวันก่อนก็ถูกก่นด่าและคุกคามบนรถสาธารณะด้วยข้อหาเหยียดๆทำนองเดียวกัน

แต่ว่าเรื่องเหยียดๆอย่างนี้ถ้าใครหัวไวล่ะก็_จะได้ประโยชน์มหาศาล นอกจากรอดแล้วจะยิ่งรวย

ยุค 1990s ผู้มีประสบการณ์บันเทิงทางกีฬาในอเมริกา ไม่มีใครไม่รู้จัก โอ.เจ.ซิมป์สัน ยอดนักอเมริกันฟุตบอลผิวสี ผู้มีลีลาการเล่นเฉียบขาด โด่งดังเปนซุปเปอร์สตาร์ แบบว่าไทเกอร์ วู้ด นักกอล์ฟเลือดไทยต้องชิดซ้าย

 

โอ.เจ.ซิมป์สัน ลงสนามใส่เสื้อ 32

ถุงมือพลิกโลก ของ โอ.เจ.ซิมป์สัน (ตอน-1)

การประสบความสำเร็จในอาชีพอย่างล้นหลามนี้นำพากระแสความมั่งคั่งหลั่งไหลเข้าหา โอ.เจ. หลังจากค่อยๆวางมือจากสนาม โอ.เจ. แต่งงานใหม่ มีลูกเพิ่มกับสาวผมบลอนด์ ซึ่งคุ้นเคยกันมาแต่คราวยังไม่หย่าเมียเก่า

 

เหตุระหองระแหงอะไรก็ไม่รู้แต่เดากันว่า ด้วยอารมณ์เพชรหึงส์บางประการ อยู่มาวันหนึ่งหลังจากหย่ากันแล้ว ก็มีคนพบศพผู้สาว กับกิ๊กหนุ่มผิวขาววัยกระเตาะ ถูกปาดคอแทบหลุด ตามตัวมีรอยมีดแทงเสียยับ เลือดท่วม ถึงแก่มรณกรรมอยู่ในคอนโดมิเนียมใกล้ บ้าน โอ.เจ.

ผู้ตายทั้งสองคน

ตำรวจผิวขาวรับแจ้งเหตุแล้ว ตรวจพบพิรุธหลายประการในที่เกิดเหตุ  หนึ่งในนั้นคือถุงมือสีดำที่เปื้อนคราบเลือด “หนึ่งข้าง” ตกอยู่ นัยว่าจะไปแจ้งข่าวการตายของอดีตภรรยา, ตำรวจผิวขาวผู้นั้น_มาร์ค เฟอร์แมน อาศัยจังหวะชุลมุน เข้าไปบ้าน โอ.เจ. อันเปนที่รโหฐานโดยไม่รอหมายศาล ก็ให้บังเอิญ ได้พบถุงมือ “อีกข้างหนึ่ง” ซึ่งเปนคู่กัน และบังเอิญเหนือบังเอิญ ที่ถุงมือเปื้อนเลือดทั้งสองนั้น เปนคู่เดียวกันพอดีพอดิบ!!

แม้ว่างานนี้ตัวเจ้าของบ้านจะไม่อยู่ อ้างว่าออกเดินทางไปมลรัฐอื่นระหว่างช่วงเวลาเกิดเหตุแล้วก็ตาม แต่ว่าวัตถุพยานหลายประการที่บ่งชี้ได้ว่า โอ.เจ.ซิมป์สัน ไอดอลนักบอลของชาตินี่แหละ เปนผู้ก่อเหตุฆาตกรรมสยองขวัญ ทั้งเลือด_เลือดในที่เกิดเหตุ และเลือดในรถ_รถตรวจการณ์ยี่ห้อฟอร์ด สีขาว ของ โอ.เจ. ไปยันเลือดในถุงมือปริศนา มันตรงกันหมด ไหนจะประวัติการลงมือทำร้ายร่างกายผู้ตายตั้งแต่สมัยอยู่กินด้วยกัน

ถุงมือพลิกโลก ของ โอ.เจ.ซิมป์สัน (ตอน-1)

ขับรถสติหลุด

สถานการณ์เช่นนี้ทำให้ โอ.เจ. เครียดขึงถึงกับประสาทแตก คว้ากุญแจได้ก็ไขสตาร์ทรถตรวจการณ์คู่ใจ ดิ่งออกไปไม่มีจุดหมายกับเพื่อนนักบอลคู่หู พลางว่าจะฆ่าตัวตาย พล่ามบ่นว่าทำลงไปด้วยความรัก ตำรวจเปนกุรุสต้องวิ่งรถไล่ตาม ฮือฮากันอย่างว่า ต้องมี เฮลิคอปเตอร์ถ่ายทอดสดรายงานข่าวการซิ่งรถสติแตกครั้งนี้ โดยมีผู้ชมเฝ้าจอรอดูกันเปนล้านๆคน

ทว่าในความสิ้นหวังก็ยังมีทนายเถื่อนผู้หนึ่ง ลี ไบลี่ย์ มาจากฟลอริด้า แกชำนาญนักเรื่องคดีครอบครัวแบบว่าฆ่ากันตายในครอบครัว โดยนิยามความหมายของเถื่อนนี้คือตะแกถูกถอนใบอนุญาต เพราะสู้คดีแบบนอกกรอบผิดจริยาว่าความ(แต่ชนะ)

ลี ไบลี่ย์ นี้เปนที่พึ่งสำคัญของโอ.เจ. คอยฟอร์มทีมทนาย “สายเหยี่ยว” เข้ารับมือคดีฆาตกรรมหฤโหดที่คนดังตกเปนจำเลย

คาเดเชียนนั่งกลาง

หนึ่งในนั้นมีโรเบิร์ต คาเดเชียน พ่อแท้ๆของคิม คาเดเชียน ผู้อื้อฉาวคราวเทปลับหลุดมาพร้อมๆกับปารีสฮิลตัน แต่คดีพลิก

-ต่อตอน 2-

นสพ.ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 40 หน้า 23 ฉบับที่ 3,593 วันที่ 19 - 22 กรกฎาคม พ.ศ. 2563