กพอ.แถลงการประชุมครั้งที่ 10 รฟท.เผยพร้อมส่งพื้นที่ - รื้อย้ายสาธารณูปโภคครบภายใน ม.ค.65
วันนี้( 16 ต.ค.62) ที่ตึกนารีสโมสร ทำเนียบรัฐบาล มีการประชุมคณะคณะกรรมการนโยบายเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (กพอ.) ครั้งที่ 10/2562 โดยมีพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เป็นประธาน ได้พิจารณาและรับทราบความคืบหน้า โดยมีรายละเอียดสำคัญ โครงการรถไฟความเร็วสูงเชื่อม 3 สนาม (ดอนเมือง-สุวรรณภูมิ-อู่ตะเภา) นายคณิต แสงสุพรรณ เลขาธิการคณะกรรมการนโยบายเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก เผยว่า การประชุมในวันนี้ กพอ.เห็นชอบ แผนการส่งมอบพื้นที่และการรื้อย้ายสาธารณูปโภค โดยแผนการส่งมอบพื้นที่ทางการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) จะส่งมอบพื้นที่ให้เอกชนคู่สัญญาในระยะเวลาดังนี้
1.พื้นที่โครงการฯ พญาไท - สุวรรณภูมิ หรือเส้นทางแอร์พอร์ต เรลลิงก์ ระยะทาง 28 กม.พร้อมส่งพื้นที่ทันทีในวันที่เอกชนคู่สัญญาชำระค่าให้สิทธิร่วมลงทุนแก่ รฟท. โดยต้องชำระภายใน 2 ปี (ภายในตุลาคม 2564)
2.พื้นที่โครงการฯ สุวรรณภูมิ - อู่ตะเภา ระยะทาง 170 กม.พร้อมส่งพื้นที่ภายใน 1 ปี 3 เดือน หรือไม่เกิน 2 ปีหลังจากลงนามสัญญาร่วมทุน (ภายในมกราคม 2564)
3.พื้นที่โครงการฯ พญาไท - ดอนเมือง ระยะทาง 22 กม.พร้อมส่งพื้นที่ภายใน 2 ปี 3 เดือน หรือไม่เกิน 4 ปีหลังจากลงนามสัญญาร่วมทุน (ภายในมกราคม 2565)
โดยหากเป็นไปตามแผนโครงการดังกล่าวจะแล้วเสร็จในช่วงปลายปี 2566 ถึงต้นปี 2567 สอดรับกับการสร้างสนามบินอู่ตะเภาอย่างไรก็ตามหากกรณีส่งคืนพื้นที่ช้าและรื้อย้ายไม่ทันตามกำหนด จะขยายเวลาให้เอกชนทำงาน
นายวรวุธ มาลารองผู้ว่าการ ในฐานะรักษาการผู้ว่าการการรถไฟแห่งประเทศไทย(รฟท.) เผยว่า ด้านแผนการรื้อย้ายสาธารณูปโภค หน่วยงานในพื้นที่เขตทางรถไฟ ต้องรับผิดชอบรื้อย้ายโดยเร็ว ซึ่งแผนดังกล่าวจากพญาไท - สุวรรณภูมิ และจากลาดกระบัง - อู่ตะเภา จะเร่งรัดให้แล้วเสร็จภายใน 1 ปี 3 เดือนหรือไม่เกิน 2 ปี หลังจากลงนามสัญญา โดยหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในพื้นที่นี้ได้แก่ กปน. กปภ. กฟผ. กฟน. กฟภ. ปตท. และบริษัท ท่อส่งปิโตรเลียมไทย จำกัด ต้องรับผิดชอบรื้อย้าย
ด้านพื้นที่จากพญาไท - ดอนเมือง จะเร่งรัดดำเนินการรื้อย้ายแล้วเสร็จภายใน 2 ปี 3 เดือน หรือไม่เกิน 4 ปี หลังจากลงนามสัญญา โดยหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในพื้นที่นี้ได้แก่ กปน. กทม. กฟน. กฟผ. ปตท. บริษัท ขนส่งน้ำมันท่อ จำกัด และ รฟท. ต้องรับผิดชอบรื้อย้าย ทั้งนี้ทุกการรื้อย้ายสาธารณูปโภคจะอยู่ภายใต้การกำกับดูแลอย่างใกล้ชิดของ กบอ. โดย สกพอ. และ รฟท.
“การประชุมเพื่อพิจารณาโครงการรถไฟความเร็วสูงเชื่อม 3 สนามบิน จะช่วยให้เกิดความชัดเจนในการส่งคืนพื้นที่และรื้อย้ายสาธารณูปโภคที่เป็นอุปสรรคสำคัญในโครงการ ที่สำคัญการประชุมในครั้งนี้ยังเป็นแผนแรกของไทยที่มีรายละเอียดการส่งพื้นที่และการรื้อย้ายที่ชัดเจน และจะเป็นโมเดลให้โครงการในอนาคตนำไปปรับใช้ เราเชื่อมั่นว่าสามารถเซ็นสัญญาร่วมกับเอกชนได้ตามกำหนด” นายคณิต เผยทิ้งท้าย
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
● รฟท.ไม่กังวลเซ็นไฮสปีด ยันเดินตามTOR
● รฟท.ยันไม่แก้สัญญาไฮสปีดทำไปจ่ายไป