ถมทะเล3พันไร่ เติมเชื้อไฟ หรือใครหาเงิน

23 ส.ค. 2562 | 11:33 น.

คอลัมน์ข่าวห้ามเขียน ฐานเศรษฐกิจ ฉบับ 3499 หน้า 20 ระหว่างวันที่ 25-28 ส.ค.2562 โดย...พรานบุญ

 

ถมทะเล3พันไร่

เติมเชื้อไฟ

หรือใครหาเงิน!

 

                  อื้ออึงไปทั้งป่าเขาลำเนาไพร เมื่อ ส.สุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รมว.อุตสาหกรรม ออกมาจุดพลุทางนโยบาย “ถมทะเล 3,000 ไร่ ที่อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี” ภายหลัง “ปีเตอร์ เฮย์มอนด์” อุปทูตรักษาการแทน เอกอัครราชทูต สถานเอกอัครราชทูตสหรัฐอเมริกา ประจำประเทศไทย เข้าพบและหารือความร่วมมือในการลงทุน เมื่อวันที่ 14 สิงหาคม 2562

                  ไม่เฉพาะพรานฯ นังบ่าง อีเห็น นังชะมดเช็ด ยันแม่นางนกเป็ดนํ้า เท่านั้นที่อ้าปากค้าง แม้แต่เสือ สิงห์ กระทิง แรด ยังอ้าปากค้างตะโกนก้อน ร้องกันระงม..

                  ร้องระงมเพราะอะไร? เพราะเสนาบดีกระทรวงอุตสาหกรรม สุริยะ ออกมาระบุว่า “อุปทูต” ขอให้รัฐบาลไทยสนับสนุนแผนการลงทุนของบริษัท เอ็กซอน โมบิล คอร์ปอเรชั่นฯ ที่สนใจจะตั้งโรงงานปิโตรเคมีส่วนต่อขยาย จากโรงกลั่นเอสโซ่ในพื้นที่อีอีซีใกล้ท่าเรือแหลมฉบัง โดยได้ขอให้รัฐบาลไทยหาที่ดินให้ 1,000 ไร่ และจะมีการถมทะเลมูลค่าลงทุน 3 แสนล้านบาท สหรัฐฯจึงต้องการให้กระทรวงอุตสาหกรรม ซึ่งกำกับการนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทยให้การสนับสนุนโครงการนี้”

                  อีเห็นแปลให้ทุกคนฟังว่า....ยักษ์ใหญ่นํ้ามันสหรัฐฯ ส่งเจ้าหน้าที่ทูตมาล็อบบี้รัฐมนตรีไทยอย่างเป็นทางการไม่มีอ้อมค้อม และเป็นการขอกันตรงๆ อย่างเป็นทางการกับเจ้ากระทรวง..เชียวนะเธอ!

                  นังบ่างได้ทีสาธยายความให้เห็นว่า ในวันนั้นเสนาบดีสุริยะบอกชัดว่า “ผมยังไม่ทราบรายละเอียด ความคืบหน้าของโครงการนี้มากนัก จึงขอให้ เอ็กซอน โมบิลส่งตัวแทน ในไทยเข้ามาให้ข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับโครงการนี้ และจะให้ กนอ.ส่งตัวแทนเข้ามาให้ข้อมูลด้วย ทั้งผลศึกษา ผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมและสุขภาพ เกณฑ์การส่งเสริมการลงทุน” ดูดี มีสาระสมกับบทบาทของเสนาบดีที่มาจากการเลือกตั้ง..

                  บ่าง...นิ่งพักนึงก่อนทุบโต๊ะเปรี้ยงเข้าให้ว่า แต่ในตอนท้ายที่รัฐมนตรีส่งสัญญาณออกมานั้นชัดเจนแน่นอนยิ่งกว่าแช่แป้งว่า “เสนาบดีสุริยะ”รับไม้ถมทะเลไปเดินเครื่องทางนโยบายแน่นอน

 

ถมทะเล3พันไร่ เติมเชื้อไฟ หรือใครหาเงิน

 

                  คำพูดที่ระบุว่า “ทั้งหมดจะเร่งดำเนินการ เพราะจากการหารือ พบว่าทางสหรัฐฯมีความสนใจโครงการนี้อย่างมาก”เท่ากับรัฐมนตรีสุริยะ บอกว่าจะทำ

                  นังบ่างพูดไม่ใช่ยุยงแต่อย่างใด วันที่ 20 สิงหาคม 2562 ผ่านมาไม่ถึงสัปดาห์ รัฐมนตรีสุริยะบุกไปมอบนโยบายให้กับผู้บริหาร การนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (กนอ.) และออกมาบอกกับนักข่าวว่า...

                  ได้สั่งการมอบหมายให้ กนอ.ว่าจ้างสถาบันปิโตรเลียมแห่งประเทศไทย ไปศึกษาถึงความเหมาะสมในการถมทะเล บริเวณท่าเรือแหลมฉบัง รวม 3,000 ไร่ เพื่อพัฒนา จากเดิมที่บริษัท เอ็กซอนโมบิล คอร์ปอเรชั่นฯ มีการขอโครงการเข้ามาเพื่อขยายการลงทุนโครงการปิโตรเคมี 1,000 ไร่ มูลค่า 3.3 แสนล้านบาท เพราะเห็นถึงแนวทางที่จะพัฒนาพื้นที่บริเวณนี้ เพื่อรองรับอุตสาหกรรม โดยให้นำเสนอผลศึกษาต่อคณะกรรมการขับเคลื่อนและประสานการลงทุนพิจารณาให้แล้วเสร็จภายใน 6 เดือนนับจากนี้ไป

                  ชัดเจน ไร้ข้อกังขาใดๆ รัฐมนตรีอุตสาหกรรมของไทย รับไม้ทางการสหรัฐฯมาทำงานแล้ว...พ่อแม่พี่น้องจ๋า

                  แม้รัฐมนตรีสุริยะ จะให้ความสำคัญกับเสียงคัดค้านผ่านการยืนยันว่า ไม่ว่าอย่างไรก็ต้องรอดูผลการศึกษาที่ชี้ชัดก่อน ถ้าผลการศึกษาพบว่า ทำแล้วคุ้มทุน มีประโยชน์กับประเทศ ไม่กระทบสิ่งแวดล้อมก็พร้อมเดินหน้า แต่ถ้าไม่คุ้มค่า ไม่เกิดประโยชน์กับประเทศ และมีผลกระทบมากเกินไป ก็จะไม่ทำ!

                  อีเห็นว่า ถ้าเป็นเช่นนี้ ในทางกลเกมทางการเมือง การผลักดันนโยบายและโปรเจ็กต์นั้น ถือว่า รัฐมนตรีสุริยะ “Kick Off” แล้ว

                  นโยบายนี้ต้องบอกว่าในทางธุรกิจและการทำมาหากินแล้วต้องบอกว่า ระเบิดเถิดเทิงมากกว่านโยบายปิดผับตี 4 ในเมืองท่องเที่ยวของ “โกเกี๊ยะ-พิพัฒน์ รัชกิจประการ” รมว.ท่องเที่ยวและการกีฬาจากพรรคภูมิใจไทยเสียอีก

                  ทุกวง ทุกโต๊ะ ถามกันดังๆ ว่า ทำไมต้องถมทะเล ถมเพื่อใคร ใครได้ ใครเสีย! ขนาดบรรดาเอ็นจีโอ กระทรวงทรัพย์บอกว่ากระทบกับปัญหาสิ่งแวดล้อม และกระแสนํ้าแน่

                  พรานฯพามาดูให้หูตาแจ้งกันเถอะป้อแม่ปี้น้อง...ประเทศไทยมีพื้นที่ 513,115 ตารางกิโลเมตร

                  ข้อเสนอถมทะเล 3,000 ไร่ นั้นทำเพื่อใคร คำตอบไม่น่าจะเกินจากกลุ่มนี้  1.เอ็กซอนโมบิล คอร์ปอเรชั่น ปี 2561 เสนอ 600-700 ไร่ ปี 2562 เพิ่มเป็น 1,000-1,500 ไร่ เพื่อนำมาขยายกิจการต่อเนื่องจากโรงกลั่นเอสโซ่และเพื่อสร้างปิโตรเคมีคอมเพล็กซ์วงเงินลงทุน 2.5-3 แสนล้านบาท

                  2.กลุ่มเชลล์ 3.ไทยออยล์ 4.อุตสาหกรรมเป้าหมาย (S-curve) 5.นักลงทุนรายใหญ่ที่จะมาสร้างฐานด้านพลังงานเหลว

                  คำถามต่อมาคือ ถมทะเล 3,000 ไร่ ใช้เงินเท่าใด

                  พรานฯไปท่องป่าติดตามสอบถามบรรดานักขุด มือระเบิดหิน ดิน ทราย ทำให้ทราบว่า ปัจจุบันราคาและต้นทุนในการหาหิน ทราย ดิน มาถมทะเลนั้นจะมีต้นทุนเฉลี่ย 16,500-18,000 บาทต่อตารางวา

                  พื้นที่ 1 ไร่ มี 400 ตารางวา ค่าถมจะตกไร่ละ 6.5-7.2 ล้านบาท ถ้ารัฐมนตรีสุริยะสั่งให้ถมพื้นที่ทะเลเนื้อที่ รวม3,000 ไร่ เท่ากับ 1,200,000 ตารางวา ต้นทุนค่าใช้จ่ายการถมทะเลจะอยู่ในช่วง 19,800-21,600 ล้านบาท

 

ถมทะเล3พันไร่ เติมเชื้อไฟ หรือใครหาเงิน

 

                  อะแฮ่ม...วงการถมดิน ระเบิดหิน ขุดทราย แถวพนัสนิคม เมืองชล เขาบอกว่า ในการดำเนินการทางนโยบายสำหรับการดำเนินโครงการแบบนี้ ปกติแล้วเป็นที่รับรู้กันว่าจะต้องมีค่านํ้าร้อนนํ้าชา ค่าหัวคิว หรือค่าพิเศษให้กับคนพิเศษตั้งแต่ 5-8-10% เพราะเป็นคนเปิดประตูออกมา ส่วนเจ้าของดิน ทราย หินนั้น มีต้นทุนธรรมชาติอยู่ในมือขอเพียงให้มีผู้สั่งซื้อก็พอเลี้ยงตัวไหว

                  ไอ้ค่าดำเนินการ ค่าหัวคิว 5-8-10% ของโครงการถมทะเล 3,000 ไร่นั้น จะมีเบี้ยบ้ายรายทางตกหล่นให้กับคนที่พอใจร่วม 1,000-2,000 ล้านบาท นี่ไม่นับเงินพิเศษสำหรับคนพิเศษ...นักถมตัวฉกาจรายหนึ่งอรรถาธิบายความจริงให้พรานไพรฯได้หูผึ่งอ้าปากค้าง ว่าทำแค่ 1 โครงการถมดินมีกลิ่นประโยชน์มากโขขนาดนี้

                  แค่อุตสาหกรรมตั้งต้นถมดินขนาดนี้ ไม่นับการจัดการโครงการนี้ที่จะต้องมีขั้นตอนจิปาถะในโครงการถมทะเล ซึ่งหากทางเอ็กซอนโมบิลลงทุน 1,000-1,500 ไร่ ต้องใช้เงินร่วม 300,000 ล้านบาท แล้วส่วนที่เหลือจะมีการลงทุนอีกเท่าใด เขาว่ากันว่าทำโครงการแบบนี้เอกชน นักลงทุนเขาพร้อมจ่ายอย่างน้อย 5-10% ไปหาลูกคิดมาดีดนับตัวเลขก็แล้วกัน ใครไม่มีลูกคิดก็เอามือถือมากดคูณดูก็แล้วกันว่าเท่าใด

                  พรานไพรฯ นั่งสมาธินึกย้อนกลับไปสมัยปี 2554 ตอนนั้นทักษิณคิด ยิ่งลักษณ์ทำ สร้างฝันมหึมาบิ๊กโปรเจ็กต์ถมทะเล อดีตนายกฯ ทักษิณ ชินวัตร เสนอนโยบายให้รัฐบาลยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ถมทะเลบริเวณปากนํ้า - จ.สมุทรสาคร พื้นที่ 3 แสนไร่ ต้นทุนถม 1.25 หมื่นบาทต่อตารางวา

                  จัดสรรเป็นพื้นที่สาธารณะ 2 แสนไร่ ที่เหลือ 1 แสนไร่ ขายให้เอกชนในราคาไร่ละ 25-28 ล้านบาท ต้นทุนไร่ละ 5-6 ล้านบาท ได้กำไรไร่ละ 20 ล้านบาท

                  คุณทักษิณบอกว่าได้เงินเข้าประเทศ 2 ล้านล้านบาท แล้วจะนำเงินไปพัฒนาประเทศแหล่งนํ้า วางผังเมืองกรุงเทพมหานครใหม่ได้สบายๆ

                  เวลา เนื้อหาในสาระอาจแตกต่างกัน แต่ที่เหมือนกันเป๊ะ คือถมทะเลก็หาเงินได้