ร่วมประณามระเบิดป่วนเมือง ทำลายประเทศ

บทบรรณาธิการ ฐานเศรษฐกิจ ฉบับ 3493 หน้า 6 ระหว่างวันที่ 4-7 ส.ค.2562

ร่วมประณามระเบิดป่วนเมือง

ทำลายประเทศ

เหตุระเบิดต่อเนื่องหลายจุดทั่วกรุง และไล่เลี่ยกันระหว่าง 08.00-09.00 น. เมื่อเช้าวันศุกร์ที่ 2 สิงหาคมนี้ เป็นที่แน่ชัดว่า เกี่ยวเนื่องเชื่อมโยงกัน จากผู้บงการคนเดียวที่สั่งการทีมงานหรือเครือข่ายออกปฏิบัติการ ทั้งจุดที่เป็นเส้นทางสัญจรไปทำงานของชาวกรุง คือ บริเวณสถานีรถไฟฟ้าช่องนนทรี หน้าคิงเพาเวอร์ ตึกมหานคร บริเวณหน้าศูนย์ราชการ แจ้งวัฒนะ จนถึงในซอยพระราม 9 สร้างความหวาดกลัวไปทั่ว

เจ้าหน้าที่ตำรวจกำลังเร่งตรวจสอบว่า เหตุการณ์นี้เชื่อมโยงกับเหตุชาย 2 คน ลอบวางวัตถุต้องสงสัยหน้าป้ายสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ใกล้สี่แยกราชประสงค์ เมื่อบ่ายวันที่ 1 สิงหาคม จนต้องปิดถนนพระราม 1 เพื่อเข้าเก็บกู้ แม้พบว่าเป็นสิ่งเทียมระเบิด แต่ก็สร้างความตื่นตระหนกแก่ประชาชน จากนั้น จ้าหน้าที่เร่งสืบสวนจนจับกุมผู้ต้องสงสัยได้ในคืนเดียวกัน ขณะกำลังหลบหนีลงภาคใต้

ระเบิดกลางเมืองหวนกลับมาอีกครั้ง โดยเหตุหน้าสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เกิดขึ้นตัดหน้าวันนัดประชุมคณะกรรมการข้าราชการตำรวจ (ก.ตร.) ที่พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ จะมาเป็นประธาน โดยเป็นการประชุมนัดแรกของรัฐบาลใหม่ นอกจากนี้จุดเกิดเหตุเป็นย่านใจกลางเมือง ที่มีรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศของสมาชิกกลุ่มอาเซียน เข้าพำนักในโรงแรมโดยรอบเพื่อร่วมประชุมที่ไทยเป็นเจ้าภาพ

อีกทั้งเหตุระเบิดกลางเมืองครั้งนี้ เกิดขึ้นในช่วงเปลี่ยนผ่านประเทศ จากรัฐบาลคสช.ที่มีอำนาจเด็ดขาดตามม.44 สู่รัฐบาลพลเรือนจากกระบวนการเลือกตั้งตามรัฐธรรมนูญใหม่ โดยรัฐบาลเพิ่งผ่านพ้นการแถลงนโยบายต่อที่ประชุมรัฐสภาเมื่อวันที่ 25-26 กรกฎาคมที่ผ่านมา ปฏิบัติการวางระเบิดป่วนเมืองครั้งนี้ จึงเป็นการตีแสกหน้าท้าทายรัฐบาลใหม่

พลานุภาพของระเบิดกลางเมืองนี้ แม้ไม่ทำให้ตึกพังอาคารถล่มหรือมีผู้เสียชีวิต แต่ก็ระเบิดทำลายความเชื่อมั่นศรัทธารัฐบาล ที่มีหน้าที่ต้องดูแลความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินให้ประชาชน ที่ร้ายแรงยิ่งกว่าคือทำลายความหวังที่ว่าประเทศจะเดินหน้าต่อได้ กลายเป็นฉุดสู่หล่มความขัดแย้งที่ยืดเยื้ออีกครั้ง

ขณะที่ในเวทีโลกที่กำลังปั่นป่วน เราเจอคลื่นลมจากพิษสงครามการค้าของ 2 มหาอำนาจ ที่ฉุดเศรษฐกิจโลกชะลอตัวลง ส่งแรงกระแทกถึงภายในที่การเติบโตกำลังถดถอย กำลังซื้อเหือดหายจากหลายภาคส่วนของธุรกิจ ล่าสุดคลื่นสึนามิจากสงครามการค้า ระลอก 2 กำลังไล่กวดขึ้นกระแทกฝั่งประเทศต่าง ๆ เป็นลำดับแล้ว สถานการณ์เช่นนี้ทั้งภาครัฐ เอกชน ประชาชน ต้องร่วมแรงร่วมใจเป็นหนึ่ง หากมีเอกภาพจะเป็นจุดแข็งช่วยให้เราฝ่าฟันไปได้

แต่ระเบิดป่วนเมืองครั้งนี้ ทำลายภาพลักษณ์ประเทศย่อยยับ ไม่ว่าใคร หรือฝ่ายไหนเป็นผู้บงการ สมควรถูกประณามอย่างถึงที่สุด

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

● ระเบิดหลายจุดทั่วกทม.BTS ช่องนนทรี-พระราม 9-ศูนย์ราชการ

● รวมเหตุป่วนกรุง2วัน4ครั้ง เย้ย “บิ๊กตู่” ประชุมสตช.

● “บิ๊กตู่”สั่งยกระดับมาตรการรปภ. หลังบึ้มป่วนกรุง

● “ประวิตร” ขอเวลาตรวจสอบเหตุป่วนกรุง เชื่อเป็นการสร้างสถานการณ์

● เร่งตรวจสอบความเชื่อมโยงหลังเหตุบึ้ม 3 จุด

● หุ้นร่วง 22 จุด หวั่นระเบิดกลางกรุง

● บีทีเอส –รฟม.-ทางหลวงเฝ้าระวังเข้มแหล่งชุมนุมคน

● เร่งกู้ระเบิดลูกที่4 หน้ากองบัญชาการกองทัพไทย

● สรุป Timeline จนท.รับแจ้งเหตุป่วนกทม.รวม 5จุด

● ตร.เร่งตรวจสอบระเบิดป่วนกรุงฯ ที่ศูนย์ราชการพร้อมใช้งาน