ดันวาระร้อน ตั้ง ‘กระทรวงการข้าว’ ของขวัญชาวนา

19 ก.ค. 2562 | 10:55 น.

 

 

สัมภาษณ์

 

จากปัญหาราคาพืชผลทางการเกษตรตกตํ่าที่ประชุมกรรมาธิการ วิสามัญพิจารณาศึกษาปัญหาราคาพืชผลทางการเกษตรตกตํ่า ที่มีนายวีระกร คำประกอบ เป็นประธาน ได้แบ่งการทำงานอนุกรรมาธิการออกเป็น 6 คณะ ประกอบด้วย อนุกรรมาธิการด้านข้าว อนุกรรมาธิการด้านสับปะรดและมะพร้าว อนุกรรมาธิการด้านผักและผลไม้ อนุกรรมาธิการด้านอ้อย อนุกรรมาธิการมันสำปะหลังและข้าวโพด อนุกรรมาธิการด้านยางพาราและปาล์มนํ้ามัน โดยมีกรอบระยะเวลาทำงาน 60 วัน ฐานเศรษฐกิจสัมภาษณ์พิเศษ อุบลศักดิ์ บัวหลวงงาม.. พรรคเพื่อไทย ในฐานะประธานคณะอนุกรรมาธิการด้านข้าว

 

ค้านแจกเงินไร่ละ 3 พัน

นายอุบลศักดิ์ กล่าวว่า การวางแนวทางแก้ไขปัญหาสินค้าข้าว จะกำหนดเป้าหมายระยะสั้น กลาง และยาว ทั้งนี้จะใช้ประสบการณ์ที่เคยมีจากที่เคยอยู่ในคณะทำงาน ทั้งด้านการรวบรวมข้าวเปลือก จำนำข้าวเปลือก และประกันราคาข้าวเปลือก มาใช้ในการวางแผนงาน ถามว่ารัฐบาลมีงบประมาณหรือไม่ ไม่มีอีกด้านหนึ่งไม่เห็นด้วยที่จะนำเงินภาษีประชาชนไปใส่มือให้กับเกษตรกรโดยตรง ทั้งที่มีทางเลือกอื่นในการสร้างรายได้เพิ่มทั้งการเพิ่มผลผลิต การแปรรูป และการตลาด เพราะไม่เช่นนั้นแล้วสุดท้ายก็จะเกิดการทุจริตไม่ว่าจะเป็นโครงการรับจำนำข้าวเปลือก หรือประกันราคาพืชผล ดังนั้นต้องเปลี่ยนวิธีคิดใหม่

 

ดันวาระร้อน  ตั้ง ‘กระทรวงการข้าว’  ของขวัญชาวนา

                               อุบลศักดิ์ บัวหลวงงาม

 

นโยบายนาแปลงใหญ่ยังล้มเหลว จากพื้นที่โดดไปโดดมาไม่สามารถบริหารจัดการได้ วันนี้รัฐบาลกำลังเตรียมเงินให้กับเกษตรกรผู้ปลูกข้าว 3,000 บาทต่อไร่ ครอบครัวละไม่เกิน 20 ไร่ แบบให้เปล่า ผลที่จะเกิดขึ้นคือส่วนใหญ่เป็นนาเช่า คนที่ได้ก็คือเจ้าของนา กลายเป็นเศรษฐีไปหมดผมได้เตือนสติไปแล้วว่าจะมีปัญหาตรงนี้ให้ระวัง เพราะเป็นการแก้ปัญหาที่ปลายเหตุ

สำหรับคณะอนุกรรมาธิการด้านข้าว มีแนวทางให้เกษตรกรสามารถผลิตและแปรรูปสร้างรายได้เพิ่ม เช่นข้าวเปลือก 1 ตันจะสามารถทำรายได้กว่า 2 หมื่นบาท จะทำอย่างไร (ดูกราฟิกประกอบ) จากวันนี้มีกลุ่มองค์กรเกษตรกร และสหกรณ์ที่เป็นนิติบุคคลอยู่ตั้งแต่ระดับอำเภอเป็นตัวขับเคลื่อนตั้งแต่รวบรวมข้าวเปลือก มีโรงสีสีแปรเอง หรือถ้าไม่มีก็ไปจ้างโรงสีสีแปร ซึ่งจะได้ข้าวสาร ปลายข้าว รำข้าว และแกลบซึ่งในส่วนของปลายข้าวและรำข้าวสามารถเอาไปขายให้กับโรงงานอาหารสัตว์ได้ทำให้มีรายได้เพิ่มขึ้นโดยจากการประเมินมูลค่าเพิ่มจากการแปรรูปขั้นต้น ข้าวเปลือก 1 ตัน ขายเป็นข้าวสารได้ 35 บาทต่อกิโลกรัม (กก.) ปลายข้าวขายได้ 12 บาทต่อกก. รำข้าว 8.50 บาทต่อกก.และแกลบ 5 บาทต่อกก. เมื่อคำนวณแล้วเกษตรกรจะมีรายได้ถึง 2.09 หมื่นบาท และถ้าแปรรูปขั้นสูงจะมีรายได้ถึง 1.63 แสนบาท

ดันวาระร้อน  ตั้ง ‘กระทรวงการข้าว’  ของขวัญชาวนา

 

ชงตั้งกระทรวงข้าว

นายอุบลศักดิ์ กล่าวอีกว่า เพื่อสร้างความยั่งยืนในอาชีพชาวนา และทำให้เกษตรกรมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น ตนได้ทำหนังสือถึงนายชวน หลีกภัย ประธานสภาผู้แทนราษฎร เพื่อเสนอให้สภาตั้งกรรมาธิการวิสามัญ พิจารณาศึกษาโครงการจัดตั้งกระทรวงการข้าว โดยหวังให้เป็นของขวัญชาวนา เช่นชาวนาอายุ 60 ปีต้องมีบำนาญ และสวัสดิการ (เงินมาจากค่าธรรมเนียมการส่งออกข้าว) ขณะที่ภารกิจของกระทรวง เช่น แก้ไขปัญหาหนี้สินของชาวนา บริหารจัดการข้าวครบวงจรลดช่องว่างของภาคการผลิต แปรรูป และการตลาดให้มีความยั่งยืน สร้างความเป็นธรรมให้กับผู้ผลิต พัฒนา เทคโนโลยีด้านข้าวให้เข้มแข็งและเป็นหนึ่งในโลกในด้านข้าว

ดันวาระร้อน  ตั้ง ‘กระทรวงการข้าว’  ของขวัญชาวนา

ประเทศไทยมีพื้นที่ 321 ล้านไร่ เป็นพื้นที่ทำการเกษตร 150 ล้านไร่ มีพื้นที่ปลูกข้าวไม่เกิน 69.25 ล้านไร่ นาปี 60.79 ล้านไร่ นาปรัง 8.46 ล้านไร่ ชาวนา 4.16 ล้านครัวเรือนสามารถผลิตข้าวเปลือกได้ 31-32 ล้านตันต่อปี ส่งออกข้าวสาร ทำรายได้เข้าประเทศปีละประมาณ 2 แสนล้านบาท ถือเป็นความจำเป็นที่ต้องมีการตั้งกระทรวงการข้าวขึ้นมาดูแล

ทั้งนี้โครงสร้างกระทรวงการข้าวมี 4 กลุ่ม ได้แก่ 1.กลุ่มภารกิจยุทธ ศาสตร์และอำนวยการ 2. กลุ่มภารกิจวิจัยและนวัตกรรมข้าว 3. กลุ่มภารกิจการผลิต และ 4. กลุ่มภารกิจการตลาดและการค้า โดยจะมีการจัดตั้งหน่วยใหม่ขึ้นมาในแต่ละกลุ่มภารกิจ ขณะที่จะมี 3 รัฐวิสาหกิจในสังกัดประกอบด้วย องค์การค้าข้าว องค์การคลังสินค้าข้าว และองค์การสินค้าเมล็ดพันธุ์ข้าว ซึ่งจะเกิดขึ้นในอนาคต

 

หน้า 13 หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 39 ฉบับ 3,488 วันที่ 18-20 กรกฎาคม 2562

ดันวาระร้อน  ตั้ง ‘กระทรวงการข้าว’  ของขวัญชาวนา