หลังกล้องไซบีเรีย | "LINE" บนบัญชีดำรัสเซีย
"เดินทางถึงแล้ว 'ไลน์' มานะ"
ปฏิเสธไม่ได้เลยว่า แอพพลิเคชันสัญชาติญี่ปุ่น "LINE" คือ เครื่องมือสื่อสารที่ได้รับความนิยมสูงสุดจากชาวไทยในช่วงหลายปีที่ผ่านมา จนชื่อของแอพพลิเคชันได้กลายเป็นหนึ่งในคำกริยาแทนคำว่า "ส่งข้อความ" และเป็นคำพูดติดปากในชีวิตประจำวันของหลายคนไปแล้ว
ทว่า... ทันทีที่เดินทางมาถึงแดนหมีขาว เปลี่ยนซิมมือถือเป็นหมายเลขของท้องถิ่น จึงพบว่าการ 'ไลน์' ได้กลายเป็นเรื่องยุ่งยากเสียแล้ว เพราะ "LINE" ได้กลายเป็นแอพพลิเคชันต้องห้ามในบัญชีดำของรัฐบาลรัสเซียตั้งแต่ปีที่แล้วไปแล้ว
นั่นหมายความว่า ภายใต้โครงข่ายอินเตอร์เน็ตของรัสเซีย "LINE" จะถูกบล็อก ไม่สามารถส่งข้อความได้ โดยแอพพลิเคชันต่าง ๆ ในเครือ เช่น LINE TV และแอพพลิเคชันอื่น ๆ ที่ต้องผูกกับบัญชีผู้ใช้ LINE ก็ไม่สามารถเข้าถึงได้เช่นกัน (หากใช้ระบบโรมมิ่งสัญญาณอินเตอร์เน็ตจากไทยจะยังสามารถใช้งานได้ตามปกติ)
แอพพลิเคชันที่ "ไม่ปฏิบัติตามกฎหมาย" จะต้องถูก "บล็อก" ไปตามระเบียบ ซึ่ง "LINE" ก็เป็นหนึ่งในบริษัทที่ไม่ยอมทำตามกฎหมายว่าด้วยข้อมูลส่วนบุคคลของรัสเซียฉบับใหม่ ที่ระบุให้ทุกบริษัทที่มีข้อมูลส่วนตัวของผู้ที่มีสัญชาติรัสเซียอยู่ในมือ จะต้องโอนข้อมูลเข้ามาเก็บไว้ในเซิร์ฟเวอร์ภายในประเทศก่อนอย่างน้อยครึ่งปี และต้องส่งมอบข้อมูลดังกล่าวให้แก่เจ้าหน้าที่ หากมีการร้องขอ เพื่อความปลอดภัยและความมั่นคงของประเทศ โดยเมื่อรัฐบาลแจ้งเรื่องไปแล้ว บริษัทไม่ปฏิบัติตามก็จะโดน "แบน" ไปตามระเบียบ
ทว่า "LINE" ไม่ใช่แอพพลิเคชันเดียวที่โดนแบนในลักษณะนี้ เพราะยังมีเพื่อนร่วมชะตาอีกหลายรายชื่อ ไม่ว่าจะเป็น BlackBerry, Imo, หรือ Vchat โดยมี LinkedIn เครือข่ายสังคมธุรกิจ และการจ้างงานรายใหญ่ที่สุดในโลก ประเดิมกฎหมายฉบับนี้เป็นเจ้าแรกเมื่อปี 2016 ซึ่งขณะนั้น LinkedIn มีผู้ใช้งานที่ลงทะเบียนในรัสเซียแล้วกว่า 5 ล้านคน
จนถึงปัจจุบัน รัฐบาลรัสเซียยังคงเดินหน้าตรวจสอบแอพพลิเคชันสื่อสารและเว็บไซต์ต่าง ๆ ทั้งสัญชาติรัสเซียและต่างชาติ ทางด้านบริษัทเจ้าของธุรกิจต่างก็พยายามแสดงจุดยืนของตัวเองออกมาเช่นกัน
กรณีล่าสุดที่ทำให้เกิดความเคลื่อนไหวเป็นวงกว้าง คือ การประกาศแบนแอพพลิเคชันสื่อสารยอดนิยมของชาวรัสเซีย "Telegram" เมื่อเดือน เม.ย. ที่ผ่านมา ซึ่ง Telegram มีจุดขายอยู่ที่การรักษาข้อมูลส่วนตัวของผู้ใช้งาน ไม่ยอมส่งข้อมูลของผู้ใช้งานให้กับรัฐบาล จนนำมาสู่การประกาศว่า แอพพลิเคชันดังกล่าวไม่ปลอดภัยต่อความมั่นคงของประเทศ ก่อให้เกิดกระแสประท้วง รณรงค์ให้ชาวรัสเซียออกมาร่อนเครื่องบินกระดาษ เรียกร้องอิสรภาพในการสื่อสารตามมุมต่าง ๆ ทั่วประเทศ
เเม้กฎเหล็กหลายเรื่องที่ชาวรัสเซียต้องปฏิบัติตั้งเเต่ยุคที่ผ่านมาจนถึงวันนี้จะมีการปลดล็อคไปบ้างเเล้ว เเต่ "ความมั่นคงเเละปลอดภัยเเห่งมาตุภูมิ" ที่เสมือนเป็นกำเเพงน้ำเเข็งบนเเดนหมีขาวนั้น
... กำเเพงน้ำเเข็งนี้ยังคงตระหง่านอยู่เสมอ จนคล้ายว่าจะไม่มีวันทลายลงได้ง่าย ๆ ...
……………….
คอลัมน์ : หลังกล้องไซบีเรีย โดย ยลรดี ธุววงศ์
ข่าวที่เกี่ยวข้อง :
● หลังกล้องไซบีเรีย | ชะตา "12 สเตเดียม" หลังบอลโลก
● หลังกล้องไซบีเรีย | ทำไมชาวรัสเซียถึงตามติดข่าว 'ถ้ำหลวง'?
