บทบาทของMedicalHub

Medical Hub หรือศูนย์กลางสุขภาพระดับนานาชาติ เป็นหนึ่งในเป้าหมายของการพัฒนาพื้นที่ระเบียงเศรษฐกิจภาคตะวันออกหรืออีอีซี เนื่องจากเห็นว่าวงการแพทย์และบริการของไทย ได้รับคำชื่นชมจากทั่วโลก โดยที่ผ่านมาสร้างรายได้เข้าประเทศกว่าปีละ 1 แสนล้านบาท ประเทศไทยมีศักยภาพมากพอในการพัฒนาเป็น Medical Hub เพราะมีจุดเด่นที่ราคาสมเหตุสมผล การบริการครบวงจร บุคลากรมีความเชี่ยวชาญ และแหล่งท่องเที่ยวในไทยมีความหลากหลาย

ดังนั้น อุตสาหกรรมการแพทย์ครบวงจรจึงเป็น 1 ใน 10 อุตสาหกรรมเป้าหมายที่จะเป็นกลไกสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศผ่านอีอีซี นั่นคือ อุตสาหกรรมการแพทย์ครบวงจร ที่ต้องมีคำว่าครบวงจรก็เพราะไม่ได้มีเพียงแค่เรื่องการบริการที่ประเทศไทยได้รับการยอมรับจากนานาชาติอยู่แล้วเท่านั้น หากแต่ยังรวมถึงการเป็นผู้ผลิตเครื่องมือแพทย์ และยารักษาโรค ซึ่งก็จะไปตอกยํ้าการเป็นเมดิคัล ฮับได้เป็นอย่างดี

เมื่อโครงสร้างพื้นฐานสามารถรองรับอุตสาหกรรมการแพทย์ ให้ประเทศไทยเดินหน้าสู่การเป็นเมดิคัลฮับ แต่โจทย์ของอีอีซี ยังหมายรวมถึงการเติมเต็มให้เป็นอุตสาหกรรมที่ครบวงจร อย่างการเป็นฐานการผลิตชั้นนำของการผลิต ยารักษาโรค/เป็นแหล่งพบปะของบุคลากรทางการแพทย์ ผ่านเวทีสัมมนา ในศูนย์ประชุมระดับนานาชาติ หรือแม้แต่การพัฒนาโรงพยาบาลในพื้นที่ ที่ต้องรับมือการหลั่งไหลของประชากร ผ่านการเติบโตของอีอีซีด้วย

ความฝันที่กำลังใกล้เป็นจริงของวงการแพทย์ ที่จะไม่เติบโตเพียงแค่ด้านการบริการทางการแพทย์ ที่ประเทศไทยได้รับการยอมรับจากนานาชาติเท่านั้น หากแต่อีอีซี จะมีส่วนผลักดันให้วงการแพทย์ของไทย ก้าวสู่การเป็นอุตสาหกรรม ที่ขณะนี้ผู้พัฒนานิคมอุตสาหกรรมพร้อมที่ต่อแขนขา ผ่านการตระเตรียมพื้นที่รองรับไว้ ทั้งที่จังหวัดชลบุรีและระยอง ในเฟสแรก รวมกว่า 30 ไร่

ด้วยขีดความสามารถทางการแพทย์ที่เพิ่มขึ้น พร้อมๆ กับต้นทุนทางการแพทย์ที่ลดลง เป็นเสมือนความคาดหวังของอุตสาหกรรมการแพทย์ครบวงจร บนพื้นที่เศรษฐกิจสำคัญ อย่างอีอีซีจะช่วยผลักดันให้คนไทยได้รับการดูแลสุขภาพอย่างมีประสิทธิภาพและทั่วถึง ไปพร้อมๆ กับการตอกยํ้า การเป็น เมดิคัล ฮับ จากนานาชาติ ที่มีดีทั้งการบริการ และคุณภาพ ในราคาที่เหมาะสม

จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 37 ฉบับที่ 3,311 วันที่ 5 - 8 พฤศจิกายน พ.ศ. 2560