ผุดแอพฯโมบายมาร์เก็ตเพลส ส่งไอเลิฟเพย์เจาะคนรุ่นใหม่-ต่อยอดธุรกิจตู้เติมเงิน

บางกอกบิซิเนสออนไลน์ เปิดแอพ มาร์เก็ตเพลสออนโมบาย พร้อมบริการเคาน์เตอร์เซอร์วิส รับชำระสินค้า-บริการ เติมเงินมือถือ ชูจุดขายลูกค้าได้สินค้าตามคำสั่งซื้อ ผู้ขายถึงได้เงิน เล็งดึงลาซาด้า อีเลฟเว่นสตรีทปตท.ขายผ่านระบบ พร้อมเปิดเกษตรกรโพสต์ขายฟรี

นางสาววีรสุรางค์ ศศิอานนท์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท บางกอกบิซิเนส ออนไลน์ จำกัด พัฒนาระบบชำระเงินแบบครบวงจร ทั้งตู้เติมเงินและชำระบิล “BBTOPUP” และ แอพพลิเคชั่น” ไอเลิฟเพย์” (ilovePAY) เปิดเผยว่าบริษัทได้พัฒนาแอพพลิเคชั่น”ไอเลิฟ เพย์” ซึ่งเป็นตลาดกลางซื้อขายสินค้าผ่านสมาร์ทโฟน ที่มีบริการเติมเงิน ชำระเงินค่าสินค้าและบริการ ที่บริษัทเป็นตัวแทนให้บริการ ทั้ง เอ็มเปย์ , ทรูฯ โดยทรูมันนี่ แคทเทเลคอม บริการเติมเงินแฮปปี้ จากดีแทค รวมถึงการทำธุรกรรมผ่านบัตรเครดิต และช่องทางการชำระเงินต่างๆ โดยได้รับการสนับสนุน จาก ทูซีทูพี ผู้ให้บริการเพย์เม้นท์ เกตเวย์

โดยจุดเด่นของแอพพลิเคชั่นดังกล่าว คือ เปิดให้ผู้สนใจเข้ามาลงทะเบียนใช้แอพพลิเคชั่นฟรี โดยหลังจากสมัครสมาชิก สามารถนำสินค้าเข้ามาขายผ่านแอพพลิเคชั่นดังกล่าว ซึ่งบริษัทจะไม่จัดเก็บค่าสมาชิก และเรียกเก็บค่าบริการวางขายสินค้าชิ้นละ 10 บาท นอกจากนี้ยังมีความปลอดภัยสูง โดยเมื่อเกิดธุรกรรมซื้อขายสินค้าในแอพพลิเคชั่นเกิดขึ้น ผู้ซื้อมีการชำระเงินเข้ามาในระบบ เงินจะถูกพักไว้ที่ระบบของผู้ให้บริการชำระเงิน หลังจากนั้นบริษัทจะทำหน้าที่ตรวจสอบผู้ซื้อว่าได้รับสินค้า หรือ สินค้าเป็นไปตามที่ผู้ขายโพสต์ขายหรือไม่ เมื่อผู้ซื้อได้รับสินค้าตามคำสั่งซื้อระบบถึงจะดำเนินการโอนเงินค่าสินค้าให้กับผู้ขาย

ขณะเดียวกันแอพพลิเคชั่นดังกล่าวยังให้บริการเติมเงิน ชำระเงินค่าสินค้าและบริการ ที่บริษัทเป็นตัวแทนอีกด้วย โดยเบื้องต้นบริษัทจะกิจกรรมคืนเงินให้ลูกค้า 1 บาท จากค่าบริการ 10-15 บาท

ทั้งนี้บริษัทได้ใช้งบ 20 ล้านบาท พัฒนาแอพพลิเคชั่นดังกล่าวมาเป็นเวลา 1 ปี โดยมีการเชื่อมต่อระบบแม่ข่ายกลาง”เซ็นเตอร์ท็อปอัพ”กับผู้ใช้บริการต่างๆ และพัฒนาเครื่องมือการโพสต์ขายสินค้าในแอพพลิเคชั่น สำหรับในส่วนสินค้านั้นขณะนี้ยังมีปริมาณไม่มากนัก โดยอยู่ระหว่างการพูดคุยกับผู้ให้บริการอีคอมเมิร์ซ ทั้งลาซาด้า อีเลฟเว่นสตรีท และ ปตท. เพื่อนำสินค้าเข้ามาขายผ่านระบบดังกล่าว และยังเปิดให้เกษตรกร เข้ามาโพสต์ขายสินค้าฟรีอีกด้วย โดยขณะนี้มีผู้ดาวน์โหลดแอพพลิเคชั่นไปใช้งานแล้ว 30,000 ราย คาดว่าปีนี้จะมียอดผู้ดาวน์โหลดเพิ่มเป็น 100,000 ราย โดยจะมีการจัดกิจกรรมการตลาดต่อเนื่อง รวมถึงการจัดโรดโชว์ไปยังสถาบันการศึกษาต่างๆ ทั่วประเทศ ซึ่งได้จัดเตรียมงบประมาณการตลาดไว้ 10 ล้านบาท

นางสาววีรสุรางค์ กล่าวต่อไปอีกว่า แม้ว่าตลาดเติมเงิน และบริการชำระเงิน ผ่านสมาร์ทโฟน จะมีแนวโน้มการเติบโตสูง แต่ไม่กระทบกับยอดการเติบโตของผู้ใช้บริการตู้เติมเงิน เนื่องจากกลุ่มผู้ใช้บริการมีความแตกต่าง โดยกลุ่มผู้ใช้บริการเติมเงินผ่านสมาร์ทโฟนส่วนใหญ่จะเป็นกลุ่มคนรุ่นใหม่ ส่วนบริการเติมเงินหรือชำระค่าบริการผ่านตู้เติมเงินนั้นยังเป็นที่นิยมจากผู้ใช้ โดยเฉพาะตลาดต่างจังหวัด

โดยขณะนี้บริษัทมีตู้เติมเงินให้บริการในตลาดอยู่ 10,000 ตู้ โดยปีนี้มีแผนนำตู้เติมเงิน 1,000 ตู้ มาเป็นให้ผู้สนใจสร้างรายได้เสริม เช่าใช้ตู้เติมเงิน โดยมีค่าบริการเช่าเดือนละ 1,000 บาท ส่วนโครงการติดตั้งตู้เติมเงินให้กับกลุ่มทรูฯ จำนวน 10,000 ตู้ทั่วประเทศนั้นที่ผ่านมาดำเนินการติดตั้งต่อเนื่องคาดว่าจะครบตามจำนวนใน 3-4 เดือนข้างหน้า

จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 37 ฉบับที่ 3,252 วันที่ 13 - 15 เมษายน พ.ศ. 2560