กลุ่มธุรกิจครอบครัว (FamilyConglomerates) ถือเป็นกลไกสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจของเอเชียตะวันออกเฉียงใต้มาโดยตลอด ไม่ว่าจะเป็น Sinar Mas Group ของอินโดนีเซีย หรือ Ayala Corporation ของฟิลิปปินส์ แต่ความสำเร็จในอดีตอาจไม่ใช่หลักประกันสำหรับอนาคตอีกต่อไป เมื่อผู้เชี่ยวชาญมองว่าธุรกิจเหล่านี้กำลังเจอกับจุดเปลี่ยนครั้งสำคัญ
จากการวิเคราะห์พบว่า การที่ธุรกิจครอบครัวจะรักษาความได้เปรียบในการแข่งขันไว้ได้ ไม่ได้ขึ้นอยู่กับเงินทุนเพียงอย่างเดียวอีกแล้ว แต่ต้องอาศัย 3 ปัจจัยหลัก คือ การขยายเข้าสู่ธุรกิจใหม่ (New Growth Sectors) การดึงคนเก่งมาร่วมงาน (Fresh Talent) และการวางแผนสืบทอดตำแหน่งที่แม่นยำและทันท่วงที (Timely Succession)
จากยุคสัมปทานสู่ยุคนวัตกรรม
ศาสตราจารย์ Sam Garg จาก Essec Business School อธิบายว่า ในอดีตกลุ่มธุรกิจครอบครัวในอาเซียนมักเติบโตจากธุรกิจที่ต้องลงทุนสูงและต้องมีใบอนุญาตจากรัฐ เช่น อสังหาริมทรัพย์ พลังงาน หรือโครงสร้างพื้นฐาน ซึ่งความสำเร็จในยุคนั้นพึ่งพา สายสัมพันธ์และการเข้าถึงสัมปทานรัฐเป็นหลัก
แต่ปัจจุบันรูปแบบการทำธุรกิจเปลี่ยนไป การพึ่งพาแค่ธุรกิจเดิมอาจไม่เพียงพอ กลุ่มธุรกิจชั้นนำจึงเริ่มขยับตัวเข้าสู่ตลาดใหม่ ตัวอย่างที่ชัดเจนคือ เครือเจริญโภคภัณฑ์ (CP Group) ของไทย ที่ขยายจากธุรกิจเกษตรและอาหาร เข้าสู่ธุรกิจดิจิทัลอย่าง Ascend Commerce เพื่อลุยตลาดอีคอมเมิร์ซและฟินเทค ซึ่งแสดงให้เห็นถึงความจำเป็นในการกระจายความเสี่ยงหาโอกาสใหม่ๆ
ก้าวข้ามสายเลือดด้วยมืออาชีพ
อีกเรื่องที่สำคัญคือ “คน” โดย รศ.ดร.ยุพนา วิวัฒนากันตัง จากวิทยาลัยบริหารธุรกิจแห่งมหาวิทยาลัยแห่งชาติสิงคโปร์ (NUS Business School) เน้นย้ำว่า การเปิดรับคนเก่งจากภายนอก (Fresh Talent) โดยเฉพาะผู้บริหารมืออาชีพ เป็นเรื่องเร่งด่วนที่ต้องทำ การยึดติดว่าจะต้องใช้แค่คนในครอบครัวบริหาร อาจกลายเป็นข้อจำกัดที่ทำให้ธุรกิจโตต่อได้ยากในโลกยุคใหม่
นิยามใหม่แห่งการสืบทอด
สิ่งที่ธุรกิจครอบครัวต้องเข้าใจคือ การสืบทอดที่แม่นยำและทันท่วงที (Timely Succession) ไม่ได้หมายถึงแค่การรีบตั้งทายาทมารับตำแหน่ง แต่หมายถึงการเตรียมโครงสร้างองค์กรให้พร้อม เพื่อให้คนรุ่นใหม่และมืออาชีพกล้าตัดสินใจได้จริง โดยเฉพาะในวิกฤติ หากโครงสร้างยังรวมศูนย์อยู่ที่คนรุ่นเก่า การตัดสินใจที่ล่าช้าเพียงก้าวเดียวในยุค AI อาจทำให้เสียโอกาสทางธุรกิจมหาศาล
ท้ายที่สุด ภายใต้ความท้าทายทั้งเรื่องเทคโนโลยีและการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ แม้กลุ่มธุรกิจครอบครัวจะมีเงินทุนหนาเพียงใด แต่หากจะอยู่รอดให้ยั่งยืน ต้องเร่งเปลี่ยนถ่ายอำนาจการบริหาร สร้างธรรมาภิบาลที่ดี และกล้าลงทุนในธุรกิจใหม่ๆ เพราะจุดเปลี่ยนครั้งนี้คือการปรับโครงสร้างองค์กรครั้งใหญ่ เพื่อให้ธุรกิจยังคงสร้างมูลค่าต่อไปได้ในอนาคต
ที่มา: Pillai, S. (2025, November 28). South-east Asia’s family conglomerates at a turning point: New growth, fresh talent key to keeping their edge. The Business Times. https://www.businesstimes.com.sg/international/asean/south-east-asias-family-conglomerates-turning-point-new-growth-fresh-talent-key-keeping-their-edge