ระเบิดเวลาธุรกิจครอบครัวในเอเชียกับวิกฤตไร้แผนสืบทอด

10 ธ.ค. 2568 | 22:15 น.

ระเบิดเวลาธุรกิจครอบครัวในเอเชียกับวิกฤตไร้แผนสืบทอด : Family Business Thailand รศ.ดร.เอกชัย อภิศักดิ์กุล คณบดีคณะวิทยพัฒน์และผู้อำนวยการศูนย์ธุรกิจครอบครัว มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย [email protected]

ปัจจุบันธุรกิจครอบครัวในภูมิภาคเอเชียกำลังก้าวเข้าสู่ยุคที่นักวิเคราะห์ขนานนามว่า เป็นช่วงเวลาแห่งการส่งต่อความมั่งคั่งครั้งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์ แต่เบื้องหลังอาณาจักรธุรกิจมหาศาลเหล่านี้ กลับมีวิกฤตร้ายแรงซ่อนอยู่ เมื่อผลสำรวจล่าสุดเผยความจริงที่น่ากังวลว่า เจ้าของธุรกิจครอบครัวเกือบ 3 ใน 4 ยังไม่มีแผนการสืบทอดกิจการที่สมบูรณ์

ข้อมูลจาก Sun Life ชี้ชัดว่า แม้ธุรกิจครอบครัวจะเป็นกระดูกสันหลังของเศรษฐกิจเอเชีย คิดเป็นสัดส่วนถึง 85% ของบริษัททั้งหมดในภูมิภาค แต่ความมั่นคงในระยะยาวของธุรกิจเหล่านี้กำลังสั่นคลอนอย่างหนัก จากการขาดความพร้อมในการส่งไม้ต่อ

ตั้งใจ...แต่ไม่ลงมือทำ ตัวเลขทางสถิติเปิดเผยความย้อนแย้งที่น่าสนใจว่า แม้ 94% ของครอบครัวที่ถูกสำรวจจะยืนยันหนักแน่นว่า ตั้งใจจะส่งมอบกิจการให้ทายาท แต่การลงมือทำจริงกลับยังห่างไกลจากความตั้งใจนั้นมาก

  • มีเพียง 1 ใน 4 เท่านั้นที่มีแผนรองรับบางส่วน
  • อีก 1 ใน 4 กำลังอยู่ระหว่างร่างแผน

และที่น่าตกใจที่สุดคือ เกือบ 1 ใน 5 ยอมรับว่ายังไม่มีแผนอะไรเลย แค่หวังว่าจะเริ่มทำในสักวันหนึ่ง

ระเบิดเวลาธุรกิจครอบครัวในเอเชียกับวิกฤตไร้แผนสืบทอด

ความล่าช้านี้คือความเสี่ยงอย่างมาก เพราะเมื่อถึงเวลาวิกฤต ธุรกิจที่ไร้แผนรองรับมักเผชิญปัญหารุนแรง ทั้งความขัดแย้งภายในครอบครัว การสูญเสียโอกาสทางธุรกิจ และในบางกรณีอาจนำไปสู่การล่มสลายในที่สุด

เมื่อพ่อแม่อยากให้ แต่ลูกไม่อยากรับ สาเหตุหลักของวิกฤตนี้ไม่ได้อยู่ที่ตัวเลขทางบัญชี แต่อยู่ที่ “คน” และ “ช่องว่างระหว่างรุ่น”

ผลสำรวจพบว่า มีเจ้าของธุรกิจเพียง 40% เท่านั้นที่เชื่อมั่นว่าทายาทเต็มใจรับช่วงต่อ แต่เมื่อหันไปถามทายาทที่ยังไม่ได้เข้ามาทำงานจริงๆ ตัวเลขความเต็มใจกลับลดเหลือเพียง 31% โดยสาเหตุที่คนรุ่นใหม่ลังเลนั้น ส่วนหนึ่งมาจากความต้องการอิสระ ไม่อยากแบกรับความคาดหวังที่มากเกินไป และมีค่านิยมในการใช้ชีวิตที่แตกต่างจากคนรุ่นก่อน อีกทั้งปัญหาการสื่อสารยังเป็นตัวเร่งปฏิกิริยาอีกทางหนึ่ง โดยพบว่าครอบครัวส่วนใหญ่ (44%) มักคุยเรื่องธุรกิจกันแบบสบายๆ บนโต๊ะอาหาร ซึ่งขาดความเป็นทางการและทำให้เกิดความเข้าใจคลาดเคลื่อนอยู่บ่อยครั้ง

ทางออกคือผสาน “ระบบ” เข้ากับ “ใจ” รายงานชี้แนะว่า ธุรกิจครอบครัวที่จะก้าวข้ามวิกฤตนี้ได้ ต้องปรับตัวในสองด้านหลัก

นำระบบการกำกับดูแลกิจการสมัยใหม่มาใช้ เพื่อลดความขัดแย้งและสร้างมาตรฐานการทำงานที่ชัดเจน

เปิดใจรับฟัง ต้องให้ความสำคัญกับการเข้าใจทายาทอย่างจริงจัง สร้างความไว้วางใจและสายใยครอบครัวให้แข็งแรง

ถึงเวลาแล้วที่ธุรกิจครอบครัวในเอเชียต้องหันมามองเรื่องแผนสืบทอดกิจการอย่างจริงจัง ไม่ใช่แค่กระดาษร่างคร่าวๆ หรือความคิดที่ลอยอยู่ในหัว แต่ต้องทำให้เป็นลายลักษณ์อักษร เพราะนี่คือพิมพ์เขียวที่จะตัดสินว่า ธุรกิจที่สร้างมาด้วยความเหนื่อยยาก จะอยู่รอดต่อไป หรือจะจบลงเพียงแค่ในรุ่นของท่านเท่านั้น

 

ที่มา: Baumann, C. (2025, November 25). Sun Life survey: Asia’s succession time bomb – Most family businesses still have no plan. finews.asia.