ธุรกิจครอบครัวเปลี่ยนเกมรับอนาคต

15 พ.ย. 2568 | 05:28 น.
อัปเดตล่าสุด :15 พ.ย. 2568 | 05:32 น.

ธุรกิจครอบครัวเปลี่ยนเกมรับอนาคต : Family Business Thailand รศ.ดร.เอกชัย อภิศักดิ์กุล คณบดีคณะวิทยพัฒน์และผู้อำนวยการศูนย์ธุรกิจครอบครัว มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย [email protected]

จากรุ่นสู่รุ่น ธุรกิจครอบครัวคือมรดกแห่งความพยายามที่ส่งต่อทั้งความฝันและความรับผิดชอบ แต่ในยุคที่ความไม่แน่นอนเกิดขึ้นเสมอ การรักษาธุรกิจให้อยู่รอดจึงไม่ง่ายเหมือนเดิม รายงานล่าสุดของ Deloitte Private เผยให้เห็นภาพรวมของธุรกิจครอบครัวทั่วโลกที่กำลังปรับตัวครั้งใหญ่ ทั้งในด้านผู้นำ ระบบกำกับดูแล และแนวทางการเงิน เพื่อเตรียมพร้อมสำหรับอนาคตที่ท้าทายกว่าเดิม

ผลสำรวจพบว่า 54% ของธุรกิจครอบครัวขนาดเล็กเชื่อว่าตนพร้อมสำหรับการเปลี่ยนผ่านผู้นำ ขณะที่ธุรกิจขนาดใหญ่มีเพียง 43% ที่รู้สึกเช่นนั้น สะท้อนว่าองค์กรที่มีโครงสร้างเรียบง่ายและผู้มีส่วนได้เสียน้อย มักดำเนินการสืบทอดกิจการได้คล่องตัวกว่า ความท้าทายสำคัญคือการมีส่วนร่วมของคนรุ่นถัดไปที่ยังไม่มากพอ

หลายครอบครัวพบว่าผู้สืบทอดขาดแรงจูงใจหรือยังไม่เห็นคุณค่าของการเข้ามาทำธุรกิจ ผู้เชี่ยวชาญจึงแนะนำแนวทางเสริมหลายอย่าง ทั้งการฝึกงานภาคปฏิบัติ การเข้าร่วมโครงการเรียนรู้ภายนอก และการมีพี่เลี้ยงหรือที่ปรึกษา เพื่อเตรียมความพร้อมและสร้างความผูกพันกับกิจการมากขึ้น

ด้านระบบกำกับดูแล รายงานระบุว่า 83% ของธุรกิจที่สำรวจมีโครงสร้างกำกับดูแลอย่างเป็นทางการ เช่น คณะกรรมการบริษัทหรือคณะที่ปรึกษา และ 73% มีสภาครอบครัว แต่การมีโครงสร้างดังกล่าวไม่ได้หมายถึงการทำงานที่มีประสิทธิภาพเสมอไป หลายองค์กรยังใช้กลไกเหล่านี้ในเชิงพิธีการมากกว่าเชิงกลยุทธ์ ผู้เชี่ยวชาญจึงแนะนำให้มีการประเมินคณะกรรมการประจำปีและเปิดโอกาสให้บุคคลภายนอกเข้าร่วมเป็นที่ปรึกษา เพื่อเพิ่มมุมมองใหม่ ลดอคติในครอบครัว และสร้างการตัดสินใจที่เป็นมืออาชีพมากขึ้น

ธุรกิจครอบครัวเปลี่ยนเกมรับอนาคต

สัญญาณที่น่าจับตาอีกประการคือธุรกิจครอบครัวเริ่มเปิดกว้างต่อแหล่งเงินทุนภายนอกมากขึ้น ตลาดหุ้นกลายเป็นหนึ่งในทางเลือกที่ถูกมองว่ามีศักยภาพสูงสุดสำหรับการเติบโตในอนาคต นอกจากนี้หลายธุรกิจยังพิจารณาแนวทางอื่น เช่น การควบรวมกิจการหรือการขายบางส่วนของกิจการ เพื่อรักษาความแข็งแกร่งทางการเงิน แนวโน้มนี้สะท้อนทัศนคติที่ยอมรับความเปลี่ยนแปลงของเศรษฐกิจโลกและซัพพลายเชนที่ไม่แน่นอนเหมือนเดิม การมีทางเลือกหลายช่องทางจึงกลายเป็นกลยุทธ์เพื่อความมั่นคงของธุรกิจครอบครัวยุคใหม่

ท้ายที่สุดแล้วความยั่งยืนของธุรกิจครอบครัวอาจไม่ได้ขึ้นอยู่กับขนาดหรืออายุของกิจการเท่านั้น แต่อยู่ที่ความพร้อมของคนและระบบที่ทำงานจริงด้วย การสืบทอดที่ดีต้องเริ่มจากการสื่อสารอย่างเปิดเผย โครงสร้างกำกับดูแลที่มีเป้าหมายชัดเจน และการบริหารการเงินอย่างยืดหยุ่น เพื่อให้ครอบครัวสามารถรักษารากเดิมไว้พร้อมต่อยอดอนาคตไปด้วยกันได้อย่างมั่นคง

 

ที่มา: Needles, Z. (2025, September 22). How do family businesses feel about the future? Family Business Magazine.