Greater Bangkok : มหานครแห่งเอเชีย

19 มี.ค. 2561 | 12:47 น.
อัปเดตล่าสุด :19 มี.ค. 2561 | 19:47 น.
MP31-3349-1A กรุงเทพมหานครของเราเติบโตใหญ่ขึ้นทุกขณะ เดิมเป็นเมืองประมง แล้วค่อยๆโตขึ้นจนกระทั่งเมื่อกรุงศรีอยุธยาย้ายมาตั้งที่กรุงธนบุรีและย้ายมายังกรุงเทพมหานคร และรวม 2 นครมาเป็นกรุงเทพมหานคร หรือ Bangkok Metropolitan เป็นเมืองหลวงของเราเมื่อ 246 ปีมาแล้ว (กรุงเทพฯเริ่มสร้างเมื่อปี 2325)

ขณะนี้เติบโตขึ้นจนน่าเกรงขาม ประชากรที่อาศัยอยู่ในพื้นที่กรุงเทพฯและปริมณฑลโดยรอบ (5 จังหวัดปริมณฑล) UN ประเมินไว้คือ 18 ล้านคน เป็นอันดับที่ 22-23 ของโลก แต่ประชากรในเขตกรุงเทพฯ 50 เขตที่ลงทะเบียนจะเลือกตั้งผู้ว่าราชการกรุงเทพฯมีแค่ 6 ล้าน คน อีก 2.5 ล้านคนอาศัยอยู่ในกรุงเทพฯแต่ไม่ลงทะเบียน อีก 2.5 ล้านคน เช้าไป เย็นกลับ มาทำงานในกรุงเทพฯทุกวัน ทั้งปีมีประชากรมาเยือนเป็นนักท่องเที่ยวชาวต่างประเทศอีกปีละ 25 ล้านคน มีนักท่องเที่ยวไทยเที่ยวไทยอีกปีละ 40-50 ล้านทริป

ประชากรของกรุงเทพ มหานครมีเกิน 10 ล้านคนขึ้นไป จะเรียกว่าเป็น “MEGA CITY” ทั่วโลกมีประมาณ 36 เมือง กรุงเทพฯจึงควรต้องเรียกว่า “มหานครกรุงเทพฯ” มิใช่ “กรุงเทพมหานคร” อีกแล้ว เมืองใหญ่สุดคือ โตเกียว และนิวยอร์ก มีประชากรร่วม 28ล้านคน ใหญ่มาก ลอนดอน และปารีส มีประชากรประมาณ 15- 16 ล้านคน เมืองมีประชากรมา กระจุกตัวมากๆ ปัญหาต่างๆ ก็ตามมา ปัญหาสังคม ปัญหาสาธารณูปโภค เช่น จราจรติดขัด นํ้าท่วม ขยะมูลฝอย ถนน นํ้าประปา ไฟฟ้า ไม่พอ ทางด้านสังคมก็จะมีผู้มีรายได้น้อยเข้ามาทำงานในเมือง มีโจรผู้ร้ายมากขึ้น ยิ่งนักท่องเที่ยวมีมากขึ้น อาชญากรก็ตามมา คาดกันว่าจะมีโจรผู้ร้ายจากการท่องเที่ยว 0.1% ของนักท่องเที่ยว 30 ล้านคนก็จะมีประมาณ 3 หมื่นคนจะมีข่าวหน้าหนังสือพิมพ์บ่อยๆ

MP31-3349-A กรุงเทพฯจะโตอีกเท่าไหร่ ??? จะโตด้วยประชากรมากกว่านี้มากนักคงไม่ไหว จราจรรถติด นํ้าประปา ไฟฟ้า ขยะ ความแออัด พื้นที่ก็จำกัดแค่ 1,500 ตร.ม.ของเขตชั้นใน 50 เขตก็ประมาณ 5,000 ตร.ม. แนวคิดหนึ่งก็คือจะปล่อยให้เป็นไปตามกระแส ความต้องการทางเศรษฐกิจ เพราะเมืองคือแหล่งงาน รายได้ดี ความเป็นอยู่ดี คุณภาพชีวิตดีขึ้น ดีกว่าชนบท ผู้คนก็จะเข้ามาอยู่มากขึ้นเป็น URBANIZATION

เมืองก็ต้องเตรียมไว้ “ผัง เมืองรวม” ก็คือกฎหมายที่จะต้องเอาเทคโนโลยีใหม่เข้ามาช่วย เช่น ระบบเดินทางด้วยระบบขนส่งมวลชน (Masstransit) TOD รอบๆ สถานีก็จะเปิดโอกาสให้ก่อสร้างในทางสูงได้ เรียกว่าเมืองก็จะอยู่หนาแน่นขึ้น สูงมากขึ้น ขณะนี้ก็มีตึกสูง 70-80 ชั้น 3-4 ตึก เช่น มหานคร ไอคอนสยาม บางกอกวัน อยู่แล้ว

ถ้าประเทศไทยเจริญทางเศรษฐกิจมากขึ้น กรุงเทพฯก็จะเป็นหัวใจทางเศรษฐกิจมากขึ้น การกระจายออกไปต้องรีบทำ เช่น อีสเทิร์นซีบอร์ด สมัยนายก เปรมฯ และอีอีซี สมัย คสช.เป็นการสร้างโอกาสให้พื้นที่อื่นเจริญขึ้นคู่กับกรุงเทพฯ แต่ถึงกระนั้นมหานครกรุงเทพฯก็แทบจะหยุดยั้งการเติบโตไม่ได้ คนจะย้ายข้ามถิ่นได้อย่างเสรี

ถ้ากรุงเทพฯจะเติบโตเรื่อยๆ ขึ้นไป มหานครกรุงเทพฯคงจะก้าวเข้าสู่การเป็น “มหานครแห่งเอเชีย” เข้าทุกปี ในอีกไม่เกิน 20 ปีกรุงเทพฯจะมีประชากร 20 ล้านคน เป็นรองโตเกียวเท่า นั้น ในเอเชียเราคงต้องคิดและเตรียมพร้อมให้ดี ด้วยการจัดสรรพื้นที่เมือง จัดระบบเมืองด้านการเดินทาง ด้านการพัฒนาโครง สร้างพื้นฐาน สิ่งแวดล้อม ล่วงหน้าและเปิดพื้นที่อื่นๆ ให้มีเมกะโปรเจ็กต์คู่ขนานกับมหานคร กรุงเทพฯ เช่น อีอีซี หรือเช่นทางเหนือเพื่อติดต่อกับจีนทางด้านใต้ เพิ่มประสิทธิภาพการติดต่อ โลจิสติกส์ทางนํ้าข้าม 2 มหาสมุทร ด้านตะวันตกออกไปทวาย เมียน มา ตะวันออก E-WCorridor จากตาก ออกมุกดาหาร ไปสู่ทะเลเวียดนาม เหล่านี้คือกลยุทธ์ในการพัฒนาระดับประเทศ เราก็จะอยู่ใน “กรุงเทพมหานคร” ที่กำลังเปลี่ยนปรับเป็น “มหานครกรุงเทพฯ-Greater Bangkok ของเอเชีย” อย่างมีความสุข

จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 38 ฉบับที่ 3,349 วันที่ 18 - 21 มีนาคม พ.ศ. 2561
ดาวน์โหลดอีบุ๊กแทรกข่าว