ครบรอบ 4 ปี คสช. ไม่มีเหตุที่ ‘บิ๊กตู่’ จะยื้อต่อ!?

18 มี.ค. 2561 | 05:31 น.
อัปเดตล่าสุด :18 มี.ค. 2561 | 12:31 น.
TP14-3345-1 ไม่มีงานเลี้ยงใด?ไม่เลิกลา...อีกไม่กี่วันก็จะครบรอบ 4 ปีของการ “รัฐประหาร” ยึดอำนาจรัฐบาลเลือกตั้ง น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร และล่าสุด “บิ๊กตู่” พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ออกมาประกาศเสียงดังฟังชัดว่า จะมีเลือกตั้งไม่เกินเดือนกุมภาพันธ์ปีหน้า (2562)

วันนี้ ก็คงไม่มีเหตุผลใดๆ ที่จะเขียนถึงเรื่องอื่น?ที่ไม่ใช่เรื่องการบ้าน-การเมืองอีกแล้ว เฉพาะอย่างยิ่งเมื่อการเมืองบ้านเราเริ่มจะมองเห็นเค้าลางของสถานการณ์ต่างๆ ที่กำลังจะเกิดขึ้นต่อไป ภายหลังจาก “รัฐบาลและคสช.” ตกอยู่ในช่วง “ขาลง” เมื่อกองหนุนเหลือน้อยลงทุกวัน!?!?

แต่ก็นับว่า โชคดี...ในห้วงที่รัฐบาลทหารเผชิญ กับ “วิกฤติ” ปัญหาด้านต่างๆ นั้น กลับมีปัจจัยความขัดแย้งของพี่น้องคนไทยที่พัฒนาจนเป็นความขัดแย้งที่ยากจะประนีประนอมให้เกิดความปรองดองกันได้ แต่วิกฤติดังกล่าวนั้นกลับกลายเป็น “โอกาส” ที่ประคับประคอง ทำให้รัฐนาวา “ประยุทธ์ 5” บริหารประเทศต่อมาได้จนถึงปัจจุบัน...

บาร์ไลน์ฐาน ทั้งที่ว่ากันตามจริงเกือบ 4 ปีของการยึดอำนาจของ คสช. แทบไม่มีผลงานอะไร?เป็นรูปธรรม หรือมีบ้าง?ก็เป็นเรื่องที่ขาดการประชาสัมพันธ์และยังถูก “กลบ” ด้วยข่าวที่เป็นเรื่องอื้อฉาวหลายต่อหลายเรื่อง อาทิ การบิน การประมง การค้ามนุษย์ ฯลฯ

ขณะที่เรื่องอะไร?ต่างๆ ที่ส่งผลกระทบต่อพี่น้องคนไทยโดยตรง ไม่ว่าจะเป็นปัญหาทางด้านเศรษฐกิจ ด้านพลังงาน หรือปัญหาทุจริตคอร์รัปชัน “รัฐบาลและคสช.” กลับไม่ได้พยายามอธิบายชี้แจงและทำความจริงให้ ปรากฏ ซํ้าร้ายกว่านั้น ยังทำเหมือนสมคบคิดและปกป้องคนที่กระทำผิดอีกต่างหาก

เช่นเดียวกับคำสัญญาว่าด้วยเรื่อง “ปฏิรูป” ที่ใช้เป็น “วาทกรรม” และ ข้ออ้าง-เหตุผลที่อ้างในการทำรัฐประหาร ซึ่งพอเห็นกระบวนการ “ปฏิรูป” แล้ว สังคมกลับเกิดเป็นคำถามว่า มันไม่ใช่หนทางแก้ปัญหา เพราะปัญหาที่ควรจะ แก้ก่อน เริ่มตั้งแต่การทำให้กระบวนการยุติธรรมเกิดความ “โปร่งใส” ก่อน...

แต่ “รัฐบาลและคสช.” กลับไม่ทำ ทั้งที่เรื่องดังกล่าว เป็นพื้นฐานสำคัญของกระบวนการสร้างความปรองดอง

เมื่อเป็นอย่างนี้ การสร้างความปรองดองจึงไม่เกิดขึ้นในหมู่พี่น้องคนไทย ยิ่งต่อมาเมื่อมีการกำหนดให้ความปรองดองเป็น “วาระแห่งชาติ” ปัญหาต่างๆ ก็ยิ่งเพิ่มความซับซ้อนขึ้นเรื่อยๆ

พูดอย่างนี้ ไม่ได้หมายความว่า ชุดความคิดที่อยู่ในกระบวนการของสภาปฏิรูปฯ ในอดีต หรือในยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปีที่รัฐบาลพยายามทำอยู่ เป็นชุดความคิดที่ไม่ดีนะครับ เพราะจากที่อ่านๆ ดู แม้จะมีส่วนที่ดีอยู่บ้าง แต่เมื่อเป็นชุดความคิดของคนกลุ่มเดียว คือ กลุ่มทหารที่เข้าสู่อำนาจโดยการรัฐประหาร...

และยังเป็นชุดความคิดของ “คนชนะ” ที่ธรรมดามักจะมีอัตราสูง นั่นก็คือ “...ฉันคิดว่าฉันรู้ดีกว่าคนอื่น? ฉันก็กำหนดลงไปว่าประเทศต้องเป็นอย่างนี้ หรือต่อไปนี้ ทรัพยากรของประเทศต้องเป็นอย่างนี้ เงินภาษีอากรของประเทศชาติ ถูกกำหนดไปอีก 20 ปี ว่าต้องนำไปใช้ทำอะไร?ล่วงหน้าแล้ว”

ทั้งหลาย-ทั้งปวงที่ “รัฐบาลและคสช.” พยายามเร่งๆ ทำกันอยู่ในห้วงนี้ จึงเกิดกระแสคัดค้าน ไม่เห็นด้วยจากพี่น้องคนไทยบางกลุ่ม เพราะหัวใจสำคัญในการปฏิรูป ก็คือ ต้องทำให้ทุกคนในสังคมมีส่วนร่วมในกติกาที่เป็นสากลมากกว่าเดินหน้าไปตามกรอบกำหนดของ “คนที่ชนะ” แบบที่ ทำอยู่...

แบนเนอร์ชั่วโมงฐานเศรษฐกิจ01-3-1 อีกไม่กี่วันจะครบรอบปีที่ 4 ของการ “รัฐประหาร” ของ คสช.แล้ว แม้จะถือเป็นการยึดอำนาจไว้ได้นาน รองจาก “สฤษดิ์-ถนอม-ประภาส” เท่านั้น แต่ก็ไม่ใช่สิ่งที่น่าภูมิใจ เพราะเผด็จการทหารที่เคยยึดอำนาจมา... อยู่ได้นานก็เพราะว่า ประชาชนยังไม่ตื่นตัวทางการเมือง แต่ยิ่งใคร?อยู่นานก็ยิ่งเกิดกระแสคัดค้าน และถูกโค่นล้ม “อำนาจ” ในที่สุด

“บิ๊กตู่” พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ และหน.คสช. ที่ยืนยันอยู่ตลอดเวลาว่า จะคืนความสุขให้กับประชาชน ขอเวลาอีกไม่นาน แม้ประชาชนพอจะเข้าใจปัญหาว่า ทหารต้องใช้ระยะเวลาพอสมควรในการแก้ไขปัญหา แต่เมื่อระยะเวลาผ่านไปแล้วพอสมควร ถ้าไม่ยอมวางมือ หรืออยู่ไปเรื่อยๆ 4 ปี 5 ปี... ก็จะถูกโค่นล้มเช่นเดียวกัน

ถึงวันนี้ รัฐธรรมนูญก็เสร็จแล้ว กฎหมายประกอบรัฐธรรมนูญก็เสร็จแล้ว กกต.ก็จะเลือกใหม่ (หลังจากล้มที่คัดมา 7 คนไปแล้ว) จึงไม่มีเหตุผลอะไร?ที่จะยื้อต่อ เพราะงานเลี้ยงต้องมีวันเลิกราและไม่มียกเว้น ไม่ว่าเจ้าภาพหรือแขกที่รับเชิญ จะดึงรั้ง หรือพิรี้พิไรกันสักแค่ไหน? สุดท้าย... “บิ๊กตู่” ก็จะต้องคืนอำนาจให้ประชาชน

จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 38 ฉบับที่ 3,345 วันที่ 4 - 7 มีนาคม พ.ศ. 2561
ดาวน์โหลดอีบุ๊กแทรกข่าว