“นิวซีแลนด์” นอกจากจะมีความโดดเด่นด้านอุตสาหกรรมท่องเที่ยวเนื่องจากมีความอุดมสมบูรณ์ทางธรรมชาติแล้วในแง่ของการค้าการลงทุนถือว่าได้เปรียบจากการมีข้อตกลงทางการค้าเสรีหรือ FTA กับหลายประเทศเช่นออสเตรเลียชิลิไทยรวมถึงกลุ่มประเทศอย่างอาเซียนกับออสเตรเลีย-นิวซีแลนด์ และเอเปคที่ช่วยส่งเสริมให้การค้าของนิวซีแลนด์กับประเทศในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกมีมูลค่าสูงขึ้น
นิวซีแลนด์เป็นประเทศที่เปิดกว้างด้านการลงทุนโดยเน้นมาตรการผ่อนปรนทำให้ผลงานวิจัยDoing Business 2017 ล่าสุดได้จัดอันดับให้นิวซีแลนด์อยู่ในลำดับที่ 1 สะท้อนความนิยมจากนักลงทุนทั้งด้านความสะดวกในการเริ่มทำธุรกิจการขออนุมัติการก่อสร้างการจดทะเบียนอสังหาริมทรัพย์การเข้าถึงข้อมูลสินเชื่อและการปกป้องผู้ลงทุนในประเทศนักลงทุนสามารถเข้าไปลงทุนในธุรกิจทุกประเภทได้ 100%โดยขอรับการอนุญาตลงทุนได้จากสำนักงานการลงทุนในต่างประเทศ(OIO) ภายใต้กระทรวงการคลัง
สำหรับคนไทย“อาหารไทย” ถือเป็นสินค้าสร้างชื่อเสียงและได้รับความชื่นชอบจากชาวกีวีจึงมีโอกาสที่ร้านอาหารไทยจะขยายตัวได้ดีในตลาดนิวซีแลนด์ด้วยขั้นตอนที่ไม่ซับซ้อนและการเริ่มต้นธุรกิจด้วยเงินลงทุนที่ไม่มากนักกอปรกับการที่รัฐบาลไทยและรัฐบาลนิวซีแลนด์ได้จัดทำความตกลงการค้าเสรีไทย-นิวซีแลนด์ไว้แล้วตั้งแต่ปี 2548 ทำให้เอื้อประโยชน์ต่อการเข้าไปประกอบอาชีพพ่อครัวแม่ครัวไทยในนิวซีแลนด์ร้านอาหารไทยจึงเป็นหนึ่งในธุรกิจที่น่าสนใจ
ธุรกิจร้านอาหารไทยในนิวซีแลนด์ผู้ประกอบการสามารถเข้าไปลงทุนได้ 100% โดยไม่ต้องขออนุญาตจากคณะกรรมการการลงทุนต่างชาติ (The Overseas Investment Commission-OIC) ของนิวซีแลนด์โดยสามารถจ้างพ่อครัวแม่ครัวไทยได้นาน 3 ปีและสามารถต่อใบอนุญาตทำงานได้อีก 1 ปีซึ่งรัฐบาลนิวซีแลนด์จะอนุญาตให้แก่ผู้เชี่ยวชาญที่เป็นพ่อครัวแม่ครัวไทยที่ได้รับประกาศนียบัตรมาตรฐานฝีมือแรงงานแห่งชาติจากกรมพัฒนาฝีมือแรงงานของไทยและมีสัญญาการจ้างงานจากเจ้าของกิจการร้านอาหารไทยในนิวซีแลนด์เท่านั้น
ขั้นตอนการทำธุรกิจร้านอาหารเริ่มจากการขอรับใบอนุญาตที่เกี่ยวข้องประกอบด้วย
- ใบอนุญาตสำคัญประกอบการจัดตั้งร้านอาหารไทยในนิวซีแลนด์ (Premises License)โดยยื่นขอกับหน่วยงานHealth Division ของแต่ละเมืองรวมถึงใบอนุญาตจำหน่ายสินค้าเฉพาะอื่นๆที่ใช้ในการดำเนินกิจการจัดตั้งร้านอาหารด้วย
- Liquor License และ Manager Certificate เป็นใบอนุญาตสำหรับการจัดตั้งร้านอาหารที่จำหน่ายเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์โดยสามารถยื่นขอกับ Liquor License Authority ของแต่ละเมือง
- B.Y.O. License เป็นใบอนุญาตสำหรับการจัดตั้งร้านอาหารที่ไม่มีการจำหน่ายเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์แต่อนุญาตให้ลูกค้านำเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์เข้าไปดื่มในร้านได้โดยสามารถยื่นขอกับ Liquor License Authority ของแต่ละเมืองเช่นกัน
[caption id="attachment_156262" align="aligncenter" width="503"]
รู้กฎก่อนรุก : ‘ร้านอาหารไทย’ ทำอย่างไร?ในนิวซีแลนด์[/caption]
สำหรับค่าใช้จ่ายสำหรับการจัดตั้งร้านอาหารไทยในนิวซีแลนด์โดยหลักจะใช้จ่ายไปกับสถานที่ทำเลและขนาดของกิจการคำนวณร่วมกับค่าใช้ธรรมเนียมและจ่ายภาษีต่างๆดังนี้
- กรณีร้านอาหารระดับปานกลาง-ดีให้บริการประมาณ 40-60 ที่นั่งใช้เงินลงทุนขั้นต่ำราว 30,000-50,000 ดอลลาร์นิวซีแลนด์( 0.9-1.5 ล้านบาท) ขึ้นอยู่กับทำเลที่ตั้งของร้านอาหาร
- กรณีร้านอาหารประเภท Food Court ใช้เงินลงทุนราว 10,000 ดอลลาร์นิวซีแลนด์ (ประมาณ300,000 บาท)
ค่าธรรมเนียมมีอัตราเฉลี่ยตั้งแต่ 2,000 ดอลลาร์นิวซีแลนด์ (ประมาณ 58,000 บาท) ขึ้นไปขึ้นอยู่กับข้อกำหนดในการจดทะเบียนเครื่องหมายการค้าและการขอใบอนุญาตของแต่ละเมืองที่ร้านอาหารตั้งอยู่ต่างๆเป็นต้น
ค่าเช่าร้านหรือพื้นที่จะมีอัตราเฉลี่ยที่ 30-40 ดอลลาร์นิวซีแลนด์/ตารางเมตร/เดือน (ประมาณ 900-1,200 บาท/ตารางเมตร/เดือน) ขึ้นอยู่กับทำเลที่ตั้งของร้านอาหาร
นอกจากนี้ผู้ประกอบการยังสามารถประสานหน่วยงานหลักเพื่อขอทราบขั้นตอนและเงื่อนไขข้อกฎหมายเพิ่มเติมได้ที่The Companies Office: www.companies.govt.nz และNew Zealand Trade and Enterprise (NZTE): www.nzte.govt.nz เพื่อรับคำปรึกษาและขั้นตอนในการจดทะเบียนการค้าในลำดับต่อไปได้
การประกอบธุรกิจร้านอาหารไทยในประเทศนิวซีแลนด์ปัจจุบันนี้นับว่ายังมีพื้นที่อีกมากสำหรับนักลงทุนร้านอาหารภายใต้สิทธิประโยชน์ความตกลงการค้าเสรีไทย-นิวซีแลนด์ (Thailand-New Zealand Closer Economic Partnership : CEP) ที่เอื้อประโยชน์ต่อการทำธุรกิจร้านอาหารไทยรวมถึงอาชีพพ่อครัวแม่ครัวไทยและธุรกิจนำเข้า-ส่งออกสินค้าเกี่ยวเนื่องอันเป็นพื้นฐานสู่ยุทธศาสตร์ “อาหารไทยสู่ครัวโลก” เพื่อรักษาระดับความนิยมและภาพลักษณ์อาหารไทยที่ดีสู่สายตาชาวโลกต่อไป
พบกับอัพเดทความเคลื่อนไหวและโอกาสในตลาดต่างประเทศที่สถานทูตไทยทั่วโลกตั้งใจติดตามมาให้ภาคเอกชนไทยได้ที่เว็บไซต์ www.globthailand.com หากมีข้อคิดเห็นหรือข้อเสนอแนะเพิ่มเติมสามารถเขียนมาคุยกันได้ที่
[email protected]
จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 37 ฉบับที่ 3,267 วันที่ 4 - 7 มิถุนายน พ.ศ. 2560