ข่าวดี ผักสด-เนื้อสัตว์ ราคาเริ่มลดลง

นายอุดม ศรีสมทรง รองอธิบดีกรมการค้าภายใน เปิดเผยว่า จากการที่กรมการค้าภายในได้ติดตามสถานการณ์ราคาจำหน่ายสินค้าอุปโภคและบริโภคที่จำเป็นทุกวัน พบว่า ปัจจุบันราคาชิ้นส่วนไก่มีการทยอยปรับราคาลดลงเมื่อเทียบกับเดือนก่อนประมาณร้อยละ 2-3 โดยเป็นผลจากปริมาณผลผลิตไก่ที่ออกสู่ตลาดเพิ่มขึ้น และคาดว่าแนวโน้มราคาชิ้นส่วนไก่ จะค่อยๆ ทยอยลดลงในช่วงระยะต่อไป เพื่อให้สอดคล้องกับปริมาณการผลิต

สำหรับราคาเนื้อสุกร สมาคมผู้เลี้ยงสุกรแห่งชาติ ยังคงตรึงราคาแนะนำสุกรมีชีวิตหน้าฟาร์มอยู่ที่ 100 บาท/กก. เพื่อไม่ให้มีผลกระทบกับประชาชนผู้บริโภค ส่วนราคาขายปลีกหมูเนื้อแดงมีการทยอยปรับราคาลดลงจากเดือนก่อนร้อยละ 2 และคาดว่าแนวโน้มราคาขายปลีกหมูเนื้อแดงจะทยอยลดลงในช่วงระยะต่อไป เนื่องจากในช่วงปลายปีเป็นช่วงที่ผลผลิตออกสู่ตลาดเพิ่มขึ้น

เช่นเดียวกับราคาผักสด โดยกรมฯได้ลงพื้นที่ติดตามสถานการณ์ผัก ณ ตลาดสี่มุมเมือง จ.ปทุมธานี ซึ่งเป็นตลาดขายส่งผักขนาดใหญ่ พบว่า ราคาผักส่วนใหญ่ยังคงทรงตัว ราคาไม่เปลี่ยนแปลงเมื่อเทียบกับราคาของสัปดาห์ก่อน ซึ่งผักที่มาจากแหล่งผลิตทางภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือราคาไม่ได้รับผลกระทบมากนัก ส่วนผักบางตัวที่อยู่ในเขตพื้นที่น้ำท่วมได้รับความเสียหายมีการปรับราคาขึ้นบ้างเล็กน้อย เช่น ขึ้นฉ่าย ผักชี ผักกาดหอม เนื่องจากเกษตรกรประสบปัญหาไม่สามารถเก็บเกี่ยวได้ตามปกติ แต่คาดการณ์การว่าเมื่อสถานกรณ์คลี่คลาย ราคาผักจะกลับเข้าสู่ความสมดุลตามกลไกตลาดอีกครั้ง

ทั้งนี้ กรมฯ ได้ประสานไปยังพาณิชย์จังหวัดทั่วประเทศให้ติดตามสถานการณ์การจำหน่ายผัก รวมทั้งสถานที่เพาะปลูกผักที่ได้รับผลกระทบจากปัญหาน้ำท่วม เพื่อช่วยเหลือและบรรเทาความเดือนร้อนให้กับประชาชน ซึ่งที่ผ่านมา กรมฯ ได้จัดโครงการโมบายพาณิชย์ลดราคาจำหน่ายผัก และเชื่อมโยงผลผลิตจากแหล่งที่มีผลผลิตมากไปสู่จังหวัดที่มีปัญหาด้านราคาและปริมาณผลผลิตน้อย

และยังเชื่อมโยงกระจายผลผลิตผ่านตลาดกลางสินค้าเกษตร เพื่อสนับสนุนช่องทางค้าขายให้แก่เกษตรกร และเพิ่มทางเลือกในการบริโภคให้แก่ประชาชนจะติดตามสถานการณ์ราคาสินค้าอย่างใกล้ชิดต่อไป โดยมีเจ้าหน้าที่กรมการค้าภายใน และสำนักงานพาณิชย์ออกตรวจสอบอย่างต่อเนื่อง เพื่อดูแลให้ราคาขายปลีกสอดคล้องกับราคาต้นทุน และป้องปราบมิให้มีการฉวยโอกาสปรับขึ้นราคากระทบต่อผู้บริโภคต่อไป

อย่างไรก็ตาม กรมฯ ขอเน้นย้ำให้ผู้ประกอบการต้องปิดป้ายแสดงราคาให้ชัดเจน และไม่ฉวยโอกาสขึ้นราคาเกินสมควร จะมีโทษตามมาตรา 29 แห่งพ.ร.บ.ว่าด้วยราคาสินค้าและบริการ ซึ่งมีโทษจำคุก 7 ปี ปรับ 140,000 บาท หรือทั้งจำและปรับ และหากไม่ปิดป้ายแสดงราคาการจำหน่ายสินค้า มีโทษปรับไม่เกิน 10,000 บาท หากประชาชนผู้บริโภคพบเห็นการจำหน่ายสินค้าที่ไม่เป็นธรรม หรือการขึ้นราคาโดยไม่มีเหตุสมควร ขอให้แจ้งที่สายด่วน 1569