นักท่องเที่ยวต่างชาติเข้าไทย 8.6 ล้านคน 4 เดือน โกย รายได้ทะลัก3.5 แสนล้าน

05 พ.ค. 2566 | 03:23 น.

นักท่องเที่ยว ต่างชาติเข้าไทย 8.6 ล้านคน ปี2566 แค่4 เดือน ม.ค.-เม.ย.เมเลเซียนำโด่ง ตามด้วยจีน สร้างรายได้เข้าประเทศทะลักกว่า 3.5 แสนล้าน บิ๊กตู่มั่นใจ ต่างชาติยัง ไว้วางไทยเป็นจุดหมายปลายทาง อยู่อาศัยท่องเที่ยว จับจ่าย

 

นโยบายเปิดประเทศของรัฐบาล พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา หลังสถานการณ์โควิดคลี่คลายลง ส่งผลให้ การเดินทางเข้าไทยของชาวต่างชาติกลับมาเพิ่มมากขึ้น แม้ว่าจะไม่เท่ากับช่วงก่อนเกิดโควิดก็ตาม แต่ มองว่าเป็นสัญญาณที่ดีที่เศรษฐกิจประเทศจะเติบโตต่อเนื่องจากภาคท่องเที่ยวที่เริ่มฟื้นตัว

สะท้อนจาก ตัวเลขในช่วง 4 เดือนแรกของปี 2566 นักท่องเที่ยวต่างชาติเดินทางเข้าไทยจำนวนสะสม 8,596,452 คน สร้างรายได้แล้วกว่า 353,331 ล้านบาท สะท้อนให้เห็นว่าไทยเป็นจุดหมายปลายทางยอดนิยมของนักท่องเที่ยว พร้อมกำชับทุกหน่วยงานอำนวยความสะดวกและดูแลนักท่องเที่ยวอย่างปลอดภัย

 นายอนุชา บูรพชัยศรี โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม ยินดีที่ได้รับทราบแนวโน้มภาคการท่องเที่ยวไทยที่สามารถฟื้นตัวได้อย่างต่อเนื่อง

ข้อมูลจากกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ระบุถึงสถิตินักท่องเที่ยวต่างชาติที่เดินทางเข้าประเทศไทยในช่วง 4 เดือนแรกของปี 2566 (ระหว่างวันที่ 1 มกราคม – 30 เมษายน 2566) มีจำนวนสะสมทั้งสิ้น 8,596,452 คน สร้างรายได้จากการใช้จ่ายของนักท่องเที่ยวต่างชาติแล้วกว่า 353,331 ล้านบาท โดยเฉพาะอย่างยิ่งเดือนเมษายน 2566 พบว่ามีนักท่องเที่ยวต่างชาติจำนวนสะสมกว่า 2,130,715 คน

โดย 10 อันดับแรกของนักท่องเที่ยวต่างชาติที่เดินทางเข้าไทยสูงสุดในเดือนเมษายนนี้ ประกอบด้วย

  •  มาเลเซีย จำนวน 367,530
  •  จีน จำนวน 328,375 คน
  •  อินเดีย จำนวน 131,230 คน
  • รัสเซีย จำนวน 115,743 คน
  • เกาหลีใต้ จำนวน 95,229 คน
  •  เวียดนาม จำนวน 84,221 คน
  •  สหรัฐฯ จำนวน 70,977 คน
  • สหราชอาณาจักร จำนวน 70,089 คน
  • ลาว จำนวน 68,204 คน และ
  • ฮ่องกง จำนวน 67,771 คน

นอกจากนี้ยังคาดการณ์ว่า จะมีนักท่องเที่ยวต่างชาติเดินทางมาท่องเที่ยวอีกกว่า 520,000 คน ในช่วงต้นเดือนพฤษภาคม 2566 นี้ (ระหว่างวันที่ 1 – 7 พฤษภาคม 2566) โดยมีนักท่องเที่ยวอาเซียนและเอเชียตะวันออกเป็นนักท่องเที่ยวกลุ่มหลัก ซึ่งมีปัจจัยสนับสนุนจากช่วงวันหยุดยาวของวันแรงงานในจีน มาเลเซีย และเวียดนาม ประกอบกับการประกาศลดราคาน้ำมันดิบในตลาดเอเชียของซาอุดีอาระเบียที่อาจส่งผลให้ต้นทุนการเดินทางลดลง

สำหรับในปีนี้ ไทยประชาสัมพันธ์การท่องเที่ยวแก่นักท่องเที่ยวต่างชาติภายใต้แนวคิด “Visit Thailand Year 2023 : Amazing New Chapters” ซึ่งการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ได้กระตุ้นการท่องเที่ยวด้วยการนำเสนอประสบการณ์การท่องเที่ยวที่มีความหมาย (Meaningful Travel) ผ่าน Soft Power 5F ของไทย ประกอบด้วย Food อาหาร, Film ภาพยนตร์, Fashion แฟชั่น, Fighting ศิลปะการต่อสู้ และ Festival งานเทศกาล ควบคู่กับการยกระดับสินค้าและบริการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ การท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์และการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน

พร้อมกันนี้ นายกรัฐมนตรีได้ชื่นชมการทำงานของทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง โดยจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติที่ทยอยเดินทางเข้ามาท่องเที่ยวไทยอย่างต่อเนื่องเป็นผลสำเร็จจากความทุ่มเทของทุกภาคส่วนในการร่วมมือกันฟื้นฟูภาคการท่องเที่ยวของไทย รวมทั้งยังสะท้อนให้เห็นว่า นักท่องเที่ยวยังคงเชื่อมั่นและเลือกประเทศไทยเป็นจุดหมายปลายทางยอดนิยม

เนื่องจากประเทศไทยมีศักยภาพในหลายด้าน ทั้งด้านธรรมชาติ ด้านการท่องเที่ยว ด้านกีฬา ตลอดจนด้านสุขภาพ ซึ่งทุกหน่วยงานจะต้องเตรียมความพร้อม อำนวยความสะดวกและดูแลนักท่องเที่ยวอย่างปลอดภัย น่าประทับใจและมีคุณภาพ เชื่อมั่นสามารถยกระดับอุตสาหกรรมท่องเที่ยวไทยให้เติบโตได้อย่างเต็มศักยภาพ