ครม.ผ่านกฎหมายช่วยผู้เสียหายคดีฟอกเงิน

31 ม.ค. 2566 | 09:22 น.

ครม.อนุมัติหลักการร่างกฎกระทรวงการคุ้มครองสิทธิของผู้เสียหายในความผิดมูลฐาน พ.ศ....ในคดีฟอกเงิน กรณีไม่มีความผิด สามารถเรียกทรัพย์สินคืนได้

วันนี้ (31ม.ค.66) ที่ทำเนียบรัฐบาล น.ส.ทิพานัน ศิริชนะ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยผลการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ในวันนี้ ว่า ที่ประชุมครม.มีมติอนุมัติหลักการร่างกฎกระทรวงการคุ้มครองสิทธิของผู้เสียหายในความผิดมูลฐาน พ.ศ. ... ตามที่สำนักงานคณะกรรมการปราบปรามการฟอกเงินเสนอ (ปปง.) เพื่อประโยชน์ในการคุ้มครองสิทธิของผู้เสียหาย

โดยจะกำหนดระยะเวลา หลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขในกระบวนการคุ้มครองสิทธิของผู้เสียหายที่ได้รับความเสียหายโดยตรงจากการกระทำความผิดมูลฐานตามกฎหมายว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงินที่มี 21 ลักษณะความผิด โดยผู้เสียหายที่ไม่มีส่วนร่วมในการกระทำความผิดจะมีสิทธิได้รับทรัพย์สินที่เกี่ยวกับการกระทำความผิดคืนหรือชดใช้คืน รวมถึงได้รับการชดใช้ค่าเสียหายที่เกิดแก่ชีวิต ร่างกาย จิตใจ เสรีภาพ อนามัย หรือชื่อเสียง

หลักเกณฑ์วิธีการ เงื่อนไข และระยะเวลาในการยื่นคำร้อง ให้ผู้เสียหายยื่นคำร้องดังกล่าวภายใน 90 วันนับแต่ทาง ปปง. ประกาศในราชกิจจานุเบกษา เพื่อแจ้งให้ผู้เสียหายยื่นคำร้องเพื่อขอรับคืนหรือชดใช้คืนหรือชดใช้ค่าเสียหายจากทรัพย์สินที่เกี่ยวกับการกระทำความผิด โดยคำร้องต้องระบุข้อความให้ถูกต้องครบถ้วนพร้อมทั้งแนบหลักฐานที่แสดงถึงการเป็นผู้เสียหายในความผิดมูลฐานและสามารถยื่นคำร้องด้วยตนเอง ทางไปรษณีย์ หรือช่องทางอื่นตามที่ประกาศกำหนด และยังได้กำหนดให้บุคคลอื่นสามารถยื่นคำร้องแทนผู้เสียหายได้ในกรณี ผู้แทนโดยชอบธรรม(กรณีผู้เสียหายเป็นผู้เยาว์) ผู้อนุบาล (กรณีผู้เสียหายเป็นคนไร้ความสามารถ) ทายาท (กรณีผู้เสียหายถึงแก่ความตาย) และบุคคลซึ่งได้รับการแต่งตั้งหรือมอบหมายเป็นหนังสือจากผู้เสียหาย

วิธีการพิเศษในการตรวจสอบและรวบรวมข้อเท็จจริงเกี่ยวกับผู้เสียหายในความผิดบางมูลฐาน คือ การค้ามนุษย์และความผิดมูลฐานที่เกิดนอกราชอาณาจักร โดยให้พนักงานเจ้าหน้าที่มีหนังสือถึง กระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) หรือหน่วยงานของรัฐต่างประเทศที่รายงาน เพื่อขอทราบข้อเท็จจริงเกี่ยวกับผู้เสียหายและความเสียหายและสถานการณ์ดำเนินคดีตามกฎหมายเพื่อเรียกร้องค่าเสียหาย

การเสนอเรื่องต่อคณะกรรมการธุรกรรมและพนักงานอัยการ เมื่อได้รับคำร้องถูกต้องครบถ้วนแล้วให้พนักงานเจ้าหน้าที่ตรวจสอบและรวบรวมข้อเท็จจริงเกี่ยวกับผู้เสียหาย และความเสียหายโดยเร็ว และจัดทำรายงานพร้อมความเห็นต่อเลขาธิการ ปปง. เพื่อให้ความเห็นชอบในการเสนอเรื่องให้คณะกรรมการธุรกรรมพิจารณาและมีมติเห็นชอบให้ส่งเรื่องให้พนักงานอัยการยื่นคำร้อง เพื่อขอให้ศาลมีคำสั่งให้นำทรัพย์สินที่เกี่ยวกับการกระทำความผิดไปคืนหรือชดใช้คืนแก่ผู้เสียหาย

การจัดการทรัพย์สินเพื่อคืนหรือชดใช้คืนหรือชดใช้ค่าเสียหายให้แก่ผู้เสียหาย เมื่อศาลได้มีคำพิพากษาหรือคำสั่งถึงที่สุดให้นำทรัพย์สินที่เกี่ยวกับการกระทำความผิดไปคืนหรือชดใช้คืน หรือชดใช้ค่าเสียหายให้แก่ผู้เสียหายให้ทาง ปปง. ดำเนินการโดยเร็ว