Sinovac ประกาศ พัฒนาต่อ วัคซีนเชื้อตายป้องกันไวรัสสายพันธุ์ใหม่

13 เม.ย. 2565 | 06:33 น.

Sinovac ชูจุดแข็งนวัตกรรมวัคซีนเชื้อตาย ลุยพัฒนาต่อ พร้อยขยายกำลังผลิต รองรับความต้องการการแพร่ระบาดโควิด -19 เผยมีความพร้อมและเป็นผู้นำการผลิตวัคซีนในตลาดโลก ทั้งเชื้อเป็นและตาย

นายเหมิง เหว่ยหนิง รองประธานบริษัท ซิโนแวค ไบโอเทค (ฮ่องกง) จำกัด เปิดเผยว่า การอนุมัติจากองค์การอาหารและยา (อย.) ของประเทศไทยในการให้ใช้วัคซีน CoronaVac® กับเด็กที่มีอายุ 6 ปีขึ้นไป ยืนยันถึงประสิทธิผลที่แข็งแกร่งของวัคซีน CoronaVac® ที่สามารถสร้างความเชื่อมั่นให้กับคนไทยว่าวัคซีนเชื้อตาย ยังคงมีประสิทธิผลในการป้องกันเชื้อไวรัสโควิด-19 บริษัทเริ่มดำเนินการมา 20 ปี มีประสบการณ์กับโรคอุบัติใหม่มากมาย และมีโรงงานผลิต 4 แห่ง ในปักกิ่ง ที่เขต ไห่เตียน ฉางผิง ต้าชิง และในต้าเหลียน ด้วยกำลังผลิตมากกว่า 400 ล้านโดสต่อปีสำหรับวัคซีนมากกว่า 10 ตัวครอบคลุม 30 ประเทศทั่วโลก ด้วยโปรดักส์ 12 ตัวใน 22 specifications ในขณะที่วัคซีนโควิด -19 มีกำลังผลิต 2,000 ล้านโดสต่อปี และกำลังขยายกำลังการผลิตไปสู่ 2,500 ล้านโดสต่อปี 

นายเหมิง เหว่ยหนิง รองประธานบริษัท ซิโนแวค ไบโอเทค (ฮ่องกง) จำกัด

ขณะนี้ Sinovac มีสูตรบูสเตอร์ หรือเข็มกระตุ้นที่ประเทศชิลี กว่า 1 แสนคน ที่ได้รับการฉีดและอยูาในการศึกษาเข็มกระตุ้น เพิ่มภูมิคุ้มกันในผู้ใหญ่ได้ดีในสายพันธุ์ที่น่ากังวลและป้องกันการติดเชื้อ อาทิ โอมิครอน นอกจากนี้ ยังมีวัคซีนที่กำลังพัฒนา เป็นการศึกษาเฟส 3 อาทิ วัคซีนปอดอัคเสบ ไวรัสบี และอื่นๆ 

"ตอนนี้เรากำลังศึกษา และกำลังคุยกับรัฐบาล เพื่อทำการศึกษาทางคลินิค และตอนนี้เริ่มผลิตวัคซีนสำหรับสายพันธุ์โอมิครอนแล้ว และยังมีแผนผลิต วัคซีน mRNA วัคซีนเชื้อเป็น ซึ่งอยู่ระหว่างการศึกษา แต่เรามองว่าเทคนิคเชื้อตายของเราทำได้ดีกว่า ด้วยเทคนิคหลากหลายรูปแบบ โดยใช้แพลทฟอร์มของเทคโนโลยีหลายตัว และเรายังทำงานร่วมกับหน่วยงานวิจัยอื่นๆ รวมทั้งสถาบันการศึกษาต่างๆ เพื่อพัฒนาวัคซีนสำหรับสายพันธุ์ต่างๆ" 

 

นายเหมิง กล่าวว่า เราร่วมมือกับนักวิทยาศาสตร์ เพื่อพัฒนาวัคซีนสำหรับไวรัสสายพันธุ์ใหม่ๆ เป็นการพัฒนาล่วงหน้า แต่ตอนนี้ให้ความสำหรับ กับโควิด -19 เป็นหลัก ตอนนี้ที่กำลังศึกษาอยู่ใน เฟส 1-3 และ 4 สำหรับโอมิครอน ซึ่งเป็นสายพันธุ์พิเศษ เป็นเวอร์ชั่นพิเศษ สำหรับการลงทุนเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ซีอีโอของซิโนแวค เพิ่งประกาศ ลงทุนประมาณ 10 ล้านหยวน สำหรับการศึกษา ในช่วง 2 เดือน ลงนามในสัญญาการพัฒนา กับสถาบันวิจัยระดับสูงในจีน และลาตินอเมริกา

อย่างไรก็ตาม ข้อมูลจากการศึกษาและใช้งานจริงแสดงประสิทธิภาพของ CoronaVac® ในการป้องกันโควิด-19 ได้ถึง 74.5% ช่วยลดการรักษาในโรงพยาบาลได้ถึง 91.0% และลดการเข้า ICU ได้ถึง 93.8% ในเด็กและวัยรุ่นอายุ 6 ถึง 16 ปี 95% ของผู้ได้รับวัคซีน CoronaVac® จำนวน 3 โดสสร้างภูมิคุ้มกันชนิดลบล้างฤทธิ์ไวรัสสายพันธุ์โอมิครอน มีการใช้วัคซีน CoronaVac® แล้วกว่า 26.3 ล้านโดสในประเทศไทย

 

ซิโนแวค ไบโอเทค ได้ศึกษาและใช้งานจริงในชิลีพบว่า ในเด็กและวัยรุ่น 2 ล้านคนที่มีอายุระหว่าง 6 ถึง 16 ปี ที่ได้รับการฉีดวัคซีน CoronaVac® ครบถ้วน ประสิทธิผลของวัคซีนในการป้องกันการติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ได้อย่างมีประสิทธิภาพสูงถึง 74.5% ช่วยลดความจำเป็นในการรับการรักษาที่โรงพยาบาลได้ถึง 91.0% และป้องกันการรักษาตัวในแผนกผู้ป่วยหนักได้ถึง 93.8% ในเด็กและวัยรุ่นอายุ 6 ถึง 16 ปี ข้อมูลการศึกษานี้เปิดเผยโดย นายเหมิง เหว่ยหนิง รองประธานบริษัท ซิโนแวค ไบโอเทค (ฮ่องกง) จำกัด ระหว่างการให้สัมภาษณ์พิเศษทางออนไลน์กับสื่อมวลชนในประเทศไทย

 

ซิโนแวคและวัคซีน CoronaVac® ได้ร่วมในการรับมือกับสถานการณ์ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ที่สำคัญของประเทศไทย วัคซีน CoronaVac® (โคโรนาแวค) เป็นวัคซีนสำหรับไวรัสโควิด-19 ชนิดแรกที่ประเทศไทยนำเข้า และเป็นวัคซีนที่สองที่ได้รับการอนุมัติจากกระทรวงสาธารณสุขของประเทศไทยให้ใช้ในกรณีฉุกเฉิน จนถึงขณะนี้มีการใช้วัคซีน CoronaVac®  แล้วกว่า 26.3 ล้านโดสในประเทศไทย ซิโนแวคยังได้กระจายวัคซีนกว่า 10 ล้านโดสให้กับ 21 ประเทศภายใต้โครงการ CHINA AID ซึ่งในจำนวนนี้ 500,000 โดสได้ส่งมอบให้ประเทศไทย 

นายเหมิง กล่าวย้ำว่า วัคซีน CoronaVac® เสริมสร้างประสิทธิผลในการป้องกันเชื้อไวรัสโควิด-19 และการเข้ารักษาตัวที่โรงพยาบาล การศึกษาจากข้อมูลการใช้งานจริง (real world data) ในประเทศชิลีเกี่ยวกับการกระตุ้นภูมิคุ้มกันด้วยวัคซีน CoronaVac® แสดงให้เห็นว่าประสิทธิผลในการป้องกันการเจ็บป่วยจากเชื้อไวรัสโควิด-19 ของผู้ได้รับวัคซีนเพิ่มขึ้นเป็น 80% ในระยะเวลา 14 วันหลังจากมีการฉีดวัคซีน CoronaVac® กระตุ้น ประสิทธิผลป้องกันการติดเชื้อที่มีอาการเพิ่มขึ้นเป็น 80.2% จาก 56% และประสิทธิผลป้องกันความจำเป็นในการเข้ารับการรักษาพยาบาลเพิ่มขึ้นเป็น 88% จาก 84%

 

วัคซีน CoronaVac® ช่วยป้องกันผู้ได้รับวัคซีนจากเชื้อไวรัสโควิด-19 จากสายพันธุ์ต่าง ๆ ที่น่ากังวลรวมถึงโอมิครอน การศึกษาที่ตีพิมพ์ใน Medrxiv ในเดือนกุมภาพันธ์ 2565 พบว่าผู้ที่ได้รับวัคซีนกระตุ้น CoronaVac® มี T-cells และมีภูมิคุ้มกันชนิดลบล้างฤทธิ์ไวรัส ต่อสายพันธุ์เดลต้าและโอมิครอน นอกจากนั้นยังพบจากผลการศึกษาว่า ภูมิคุ้มกันชนิดลบล้างฤทธิ์ไวรัสโคโรนาเพิ่มขึ้นอย่างมากในช่วง 4 สัปดาห์แรกหลังจากมีการฉีดวัคซีนเข็มกระตุ้น นอกจากนั้นมีการเพิ่มขึ้น T-cells สูงสุด ใน 4 สัปดาห์หลังจากการฉีดวัคซีนเข็มกระตุ้น ซึ่งสะท้อนความสามารถในการต่อต้านสายพันธุ์เดลต้าและโอมิครอน 

 

จากข้อมูลเกี่ยวกับการสร้างภูมิคุ้มกันและความปลอดภัย CoronaVac® มีความเหมาะสมกับกลุ่มประชากรที่หลากหลาย รวมทั้งผู้ป่วยจากโรคเรื้อรัง (โรคหลอดเลือดหัวใจ โรคจากระบบหายใจเรื้อรัง โรคเบาหวาน โรคอ้วน โรคมะเร็ง และโรคความดันสูง) ผู้สูงอายุ เด็ก สตรีมีครรภ์ และสตรีภายหลังการคลอดบุตร

 

วัคซีน CoronaVac® ได้รับการอนุมัติให้ใช้ในกรณีฉุกเฉินและการทำการตลาดอย่างมีเงื่อนไขโดยหน่วยงานกำกับดูแลด้านยาและองค์การอนามัยโลกในกว่า 50 ประเทศและภูมิภาค ทั้งนี้ มีการจัดส่งวัคซีน CoronaVac® แล้วกว่า 2,700 ล้านโดสทั่วโลก และเด็กที่มีอายุระหว่าง 3 ถึง 17 ปีในประเทศจีนได้รับวัคซีนจำนวนมากกว่า 250 ล้านโดส ณ เดือนมกราคม 2565 วัคซีน CoronaVac® เป็นวัคซีนที่มีการใช้อย่างแพร่หลาย มีอาการข้างเคียงต่ำ ปลอดภัย และมีประสิทธิภาพ นับเป็นเครื่องมือทางสาธารณสุขที่สำคัญในการต่อสู้กับสถานการณ์โรคระบาด ข้อมูลจากการทดลองทางคลินิกแสดงให้เห็นว่าวัคซีน CoronaVac® มีการพัฒนาและมีประสิทธิผล 65.3% ในการป้องกันโควิด-19, 87.5% สำหรับการป้องกันการรักษาในโรงพยาบาล, 90.3% สำหรับการป้องกันการเข้า ICU และ 86.3% สำหรับการป้องกันการเสียชีวิตที่เกี่ยวข้องกับโควิด-19 ข้อมูลจากการทดลองทางคลินิกที่หลากหลายแสดงให้เห็นว่าวัคซีน CoronaVac® มีความเกี่ยวพันกับผลข้างเคียงที่ไม่พึงประสงค์ในระดับต่ำ