นายพิษณุ พงษ์วัฒนา รองประธานอาวุโสฝ่ายปฏิบัติการธุรกิจค้าปลีก บริษัท บิ๊กซี ซูเปอร์เซ็นเตอร์ จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า บิ๊กซี รุกตลาดค้าส่งรูปแบบใหม่ เปิด “บิ๊กซี ดีโป้” (Big C Depot) 2 สาขา คือ สาขาที่ 6 สาขาตระการพืชผล จ.อุบลราชธานี และ สาขาที่ 7 สาขาบ้านตาขุน จ.สุราษฎร์ธานี เพื่อรองรับผู้ประกอบการกลุ่มร้านอาหาร โรงแรม ธุรกิจจัดเลี้ยง และโชห่วย
โดยบิ๊กซี ดีโป้ เป็นโมเดลใหม่ที่พัฒนาต่อยอดมาจากความสำเร็จ 5 สาขาแรกที่มีในปัจจุบัน โดยพัฒนารูปแบบจาก บิ๊กซี มาร์เก็ต เปลี่ยนมาเป็น บิ๊กซี ดีโป้ จัดจำหน่ายสินค้าทั้งปลีกและส่ง ภายในแบ่งพื้นที่ขายออกเป็น 3 ส่วน ประกอบด้วย ส่วนค้าปลีก ค้าส่งและร้านค้าเช่า จึงทำให้โมเดลนี้แตกต่างจาก 5 สาขาแรก ที่เป็นดีโป้รวมกับมินิบิ๊กซี ซึ่งโมเดลนี้สร้างขึ้นเพื่อตอบสนองความต่อการของลูกค้า B2B และ B2C ได้อย่างครบถ้วน
ทั้งนี้กลุ่มลูกค้าหลักของโมเดล คือ กลุ่มผู้ประกอบการ (B2B) โดยแบ่งตามประเภทธุรกิจ ได้แก่ Food Retailer เช่น ร้านค้าปลีก มินิมาร์ท ร้านค้าสะดวกซื้อท้องถิ่นที่ขายสินค้าประเภทอาหารและสินค้าอุปโภคบริโภค , Nonfood Retailer เช่น ร้านค้าปลีก มินิมาร์ท ร้านค้าสะดวกซื้อท้องถิ่นที่ขายสินค้าประเภทที่ไม่ใช่อาหารอย่าง เครื่องเขียน เครื่องครัว ที่นอน , ธุรกิจโรงแรม HoReCa (Hotel, Restaurant, Catering) , ธุรกิจการบริการ เช่น โรงพยาบาล สถานศึกษา วัด สถานที่ราชการต่างๆ , ตัวแทนจัดจำหน่าย เช่น ร้านค้าส่ง และ กลุ่มบริษัท
ปัจจุบันบิ๊กซี ดีโป้ มีทั้งหมด 5 สาขา ที่อยู่ติดกับมินิบิ๊กซี ได้แก่ สาขาประโคนชัย จ.บุรีรัมย์ , สาขาตาคลี จ.นครสวรรค์ ,สาขากุฉินารายณ์ จ.กาฬสินธุ์ ,สาขาประทาย จ.นครราชสีมา และสาขาปักธงชัย จ.นครราชสีมา และ 2 สาขาล่าสุด สาขาตระการพืชผล จ.อุบลราชธานี และ สาขาบ้านตาขุน จ.สุราษฎร์ธานี ทั้งนี้บิ๊กซีมุ่งหน้าขยายสาขาอย่างต่อเนื่องเน้นทำเลในพื้นที่อำเภอรองจังหวัด และกำลังซื้อสูง เพื่อเป็นร้านค้าส่งขนาดเล็กของกลุ่มลูกค้าร้านขายของในตำบล-หมู่บ้าน ไม่ต้องวิ่งรถไกลถึงตัวอำเภอเมืองก็สามารถเข้าถึงสินค้าราคาส่งได้
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
เปิดอาณาจักรค้าปลีก 2 เจ้าสัว “ธนินท์-เจริญ”