มองคนทำงาน คิดอย่างไร? กับ Work From Home

06 ส.ค. 2563 | 05:06 น.

อเด็คโก้ เผยผลสำรวจกลุ่มคนทำงานในไทย 80% หวังให้มีการสานต่อนโยบาย Work From Home พร้อมมาตรการรัดเข็มขัดช่วงโควิดจากภาคเอกชน

กลุ่มบริษัทอเด็คโก้ประเทศไทย เอเจนซี่ผู้นำด้านทรัพยากรบุคคลครบวงจร เผยผลสำรวจ Resetting Normal: Defining the New Era of Work ที่สำรวจในกลุ่มคนทำงานในประเทศไทยจำนวน 670 คน โดยส่วนใหญ่เป็นพนักงานประจำและมีการศึกษาตั้งแต่ระดับปริญญาตรีขึ้นไป และกว่าครึ่งเป็นพนักงานในระดับหัวหน้างาน/ผู้จัดการ ถึงผลกระทบที่ได้รับจากการระบาดของโควิด-19 และมุมมองต่ออนาคตการทำงาน

ผลการสำรวจพบว่า ภาคเอกชนต่างมีมาตรการที่หลากหลายเพื่อรัดเข็มขัดในช่วงโควิด-19 ตั้งแต่การชะลอรับพนักงานใหม่ 57% ชะลอขึ้นเงินเดือน/เลื่อนขั้น 26% ลดเงินเดือน 18% ลดกำลังการผลิต 17%ให้พนักงานใช้วันลา 17% เลิกจ้างพนักงาน 16% พักงานพนักงานชั่วคราว 14% ลดการจ้าง supplier 11% รวมถึงมีปรับตารางงาน ลดเวลาทำงานที่ออฟฟิศ ผสมผสานการทำงานจากที่บ้าน เพื่อป้องกันการระบาดของโควิด-19 57%

มองคนทำงาน คิดอย่างไร? กับ Work From Home

สำหรับมุมมองของพนักงานที่มีต่อนโยบาย Work From Home พนักงานส่วนใหญ่กว่า 80% หวังให้มีการสานต่อนโยบายนี้ โดยผสมผสานการทำงานจากที่บ้านในบางวัน เพื่อลดความเสี่ยงการติดเชื้อโควิด-19 และสร้างสมดุลระหว่างชีวิตทำงานและชีวิตส่วนตัว โดยพนักงานราว 54% ยังเชื่อว่าการมาทำงานที่ออฟฟิศยังจำเป็นอยู่เพราะจะช่วยให้การประสานงานระหว่างทีมดีขึ้น ในภาพรวมพนักงานส่วนใหญ่ยังคาดหวังให้องค์กรมองที่ผลงานมากกว่าให้ความสำคัญเรื่องชั่วโมงการทำงาน และอยากให้ยืดหยุ่นเรื่องการทำงานมากขึ้น โดยพนักงานส่วนใหญ่กว่า 51% เชื่อว่าการทำงานจากที่บ้านได้ประสิทธิผลไม่ต่างจากการมาทำงานที่ออฟฟิศ ขณะที่ 37% เชื่อว่าพวกเขาทำผลงานได้ดีขึ้นกว่าตอนทำงานที่ออฟฟิศ มีเพียง 12% ที่คิดว่าคุณภาพการทำงานของพวกเขาลดลงเมื่อทำงานจากที่บ้าน

มองคนทำงาน คิดอย่างไร? กับ Work From Home

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

“โมดิส” โซลูชั่นใหม่รับการเติบโตด้านไอที

เปิดโผฐานเงินเดือนปี 2020 เด็กจบใหม่สตาร์ทสูงสุด 40,000

แมนพาวเวอร์ ผนึกพันธมิตร วางมาตรฐานใหม่การทำงาน

 

ด้านผลกระทบจากโควิดที่เกิดขึ้นกับพนักงานส่วนใหญ่คิดว่าพนักงานส่วนใหญ่คิดว่าเป็นหน้าที่ของ องค์กรและ รัฐบาลที่ต้องยื่นมือช่วยเหลือพนักงานให้ก้าวข้ามวิกฤตนี้ ขณะเดียวกันก็มองว่าตนต้องพึ่งพาตัวเองด้วย สำหรับสิ่งที่พนักงานคาดหวังจากองค์กร อันดับหนึ่งได้แก่การสนับสนุนการทำงานที่ยืดหยุ่นและการทำงานจากบ้าน 84%รองลงมาคือต้องการความชัดเจนในการรับมือกับวิกฤต 78% การลงทุนด้านเทคโนโลยีและปรับตัวสู่ดิจิทัล 78% การสนับสนุนอุปกรณ์ 76% และระบบ IT ให้รองรับการทำงานจากที่บ้าน 75%  ด้านสิ่งที่พนักงานคาดหวังจากหัวหน้ามากที่สุดในช่วงเวลานี้ ได้แก่ การช่วยหาทางแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้น 58% การให้ความไว้วางใจในการทำงาน 55% การมีความคิดสร้างสรรค์ และการสื่อสารที่ดี 52%  รวมถึงการสนับสนุนการทำงานที่ยืดหยุ่นให้กับพนักงาน 51%

มองคนทำงาน คิดอย่างไร? กับ Work From Home

ด้านผลกระทบจากโควิดที่เกิดขึ้นกับพนักงาน พนักงานส่วนใหญ่คิดว่าเป็นหน้าที่ของ องค์กรและ รัฐบาลที่ต้องยื่นมือช่วยเหลือพนักงานให้ก้าวข้ามวิกฤตินี้ ขณะเดียวกันก็มองว่าตนต้องพึ่งพาตัวเองด้วย สำหรับสิ่งที่พนักงานคาดหวังจากองค์กร อันดับหนึ่งได้แก่การสนับสนุนการทำงานที่ยืดหยุ่นและการทำงานจากบ้าน 84% รองลงมาคือต้องการความชัดเจนในการรับมือกับวิกฤต 78% การลงทุนด้านเทคโนโลยีและปรับตัวสู่ดิจิทัล 78% การสนับสนุนอุปกรณ์ 76% และระบบ IT ให้รองรับการทำงานจากที่บ้าน 75%  ด้านสิ่งที่พนักงานคาดหวังจากหัวหน้ามากที่สุดในช่วงเวลานี้ ได้แก่ การช่วยหาทางแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้น 58% การให้ความไว้วางใจในการทำงาน 55% การมีความคิดสร้างสรรค์ และการสื่อสารที่ดี 52% รวมถึงการสนับสนุนการทำงานที่ยืดหยุ่นให้กับพนักงาน 51%

มองคนทำงาน คิดอย่างไร? กับ Work From Home

สำหรับมุมมองที่มีต่อสถานการณ์หลังโควิด-19 พนักงานกว่า 56% เชื่อว่าสถานการณ์น่าจะดีขึ้น และมองว่างานเทคโนโลยีน่าจะมีอนาคตที่สุด  แต่แม้ว่าส่วนใหญ่จะมองโลกในแง่ดี พนักงานกว่า 65% ก็ยังไม่มีแผนเปลี่ยนงานในอีก 1 ปีข้างหน้า สะท้อนให้เห็นว่าคนไทยยังไม่กล้าเสี่ยงย้ายงานใหม่ในช่วงที่สถานการณ์ยังไม่แน่นอน

นางสาวธิดารัตน์ กาญจนวัฒน์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มบริษัทอเด็คโก้ประเทศไทย เปิดเผยว่า “เมื่อเทียบผลสำรวจของไทยกับในอีกหลายประเทศที่ Adecco ได้ทำการศึกษา ภาพรวมพบว่าผลที่ออกมาค่อนข้างสอดคล้องกับหลายประเทศ ที่องค์กรมีการปรับตัวให้ lean มากขึ้น ดิจิทัลมากขึ้น ในขณะที่รูปแบบการทำงานก็มีผสมผสานการทำงานจากที่บ้าน เพื่อสร้างความยืดหยุ่นในการทำงาน สิ่งเหล่านี้จะกลายเป็น new normal หรือ ความปกติใหม่ที่องค์กรจำเป็นต้องวางแผนปรับตัวทั้งในระยะสั้นและระยะยาว โดยเฉพาะฝ่าย HR ที่จะต้องปรับกลยุทธ์การสรรหาใหม่ เพราะโจทย์ทุกวันนี้ได้เปลี่ยนไป เราอาจจะต้องการคนที่มีชุดทักษะที่ต่างจากเดิม ไม่สามารถจ้างพนักงานประจำได้มากเท่าที่เคย อาจจะต้องมีการผสมผสานการจ้างงานในรูปแบบฟรีแลนซ์มากขึ้น การสรรหาก็จำเป็นที่จะต้องมีความคล่องตัวและปรับสู่ดิจิทัลมากขึ้น ซึ่ง Adecco ก็ได้ออกแบบหลักสูตรเพื่อช่วย HR เตรียมพร้อมในจุดนี้”

มองคนทำงาน คิดอย่างไร? กับ Work From Home

อย่างไรก็ตามการผสมผสานการทำงานจากที่บ้านก็เป็นอีกความท้าทายหนึ่งที่หลายองค์กรต้องเผชิญเพราะการทำงานนอกออฟฟิศนั้นองค์กรมักจะมีความกังวลใจในแง่ประสิทธิภาพและประสิทธิผลในการทำงานของพนักงาน และมักให้หัวหน้าฝ่ายใช้ดุลยพินิจส่วนบุคคลในการตัดสินว่าพนักงานคนไหนสามารถหรือไม่สามารถทำงานจากที่บ้านได้ โดยขาดเกณฑ์การประเมินและมาตรการที่ชัดเจน ในขณะที่พนักงานเองก็เรียกร้องความไว้วางใจในการทำงานจากหัวหน้า ซึ่งปัญหานี้เป็นปัญหาที่เกิดขึ้นทั่วโลก เพราะการผสมผสานการทำงานแบบ Work From Home ก็ยังเป็นเรื่องที่ใหม่สำหรับหลายๆ องค์กร  ดังนั้นทักษะที่พนักงานไทยในระดับหัวหน้างานขึ้นไปต้องมีคือทักษะด้านการแก้ไขปัญหาที่ซับซ้อน  และทักษะในการปรับตัว (Adaptability) เพื่อรับมือกับปัญหาที่อาจไม่เคยเจอมาก่อน

นอกจากนี้เพื่อสร้างความไว้วางใจในการทำงานให้เกิดขึ้น ฝ่าย HR และผู้บริหารในแผนกจะต้องร่วมมือกันกำหนดกรอบการทำงานและเกณฑ์วัดผลที่ชัดเจน เพราะเมื่อทุกคนสามารถปฏิบัติตามกรอบ ส่งงานได้ตามเวลา มีผลงานที่ได้มาตรฐาน ฝ่ายบริหารก็จะมีความมั่นใจว่าพนักงานสามารถทำงานได้ไม่ว่าจะอยู่ที่ไหน ทำให้องค์กรสามารถปรับตัวสู่การทำงานแบบยืดหยุ่นได้รวดเร็วยิ่งขึ้น เช่นเดียวกับฝ่าย IT ที่จะต้องเข้ามามีบทบาทสำคัญในการเตรียมพร้อมและจัดหาเทคโนโลยีมารองรับการทำงานจากที่บ้าน เพราะจากผลสำรวจเราจะเห็นว่าคนทำงานกว่า 75% ยังต้องการการสนับสนุนอุปกรณ์และเทคโนโลยีที่จำเป็นต่อการทำงานจากที่บ้านอยู่