"เฉลิมชัย" บินด่วนสู้ภัยแล้ง กู้วิกฤติหอมมะลิทุ่งกุลาฯ

31 ก.ค. 2562 | 10:32 น.

รัฐมนตรีเกษตรฯ นำทีมผู้บริหารลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมการดำเนินงานการแก้ไขปัญหาภัยแล้งในพื้นที่ภาคอีสานตอนบน พร้อมร่วมรับฟังและเน้นย้ำแนวทางแก้ปัญหาในพื้นที่อย่างเร่งด่วน

"เฉลิมชัย" บินด่วนสู้ภัยแล้ง กู้วิกฤติหอมมะลิทุ่งกุลาฯ

วันที่ 31 ก.ค.62 นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยภายหลังลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมการแก้ไขปัญหาภัยแล้ง ณ โครงการชลประทานสุรินทร์ (ห้วยเสนง) จังหวัดสุรินทร์ ว่า การลงพื้นที่ในครั้งนี้ เพื่อตรวจเยี่ยมการดำเนินงานการแก้ไขปัญหาภัยแล้งในพื้นที่ภาคอีสานตอนบน ซึ่งเป็นพื้นที่เพาะปลูกข้าวหอมมะลิในทุ่งกุลาร้องไห้ เกษตรกรได้รับความเดือดร้อนจากฝนทิ้งช่วงทำให้นาข้าวได้รับความเสียหายจำนวนมาก จึงต้องลงมาร่วมรับฟังและเน้นย้ำแนวทางแก้ปัญหาในพื้นที่อย่างเร่งด่วน ทั้งปัญหาน้ำที่มีไม่พอเพียง การช่วยเหลือทางด้านผลผลิตทางการเกษตร และการสนับสนุนปัจจัยการผลิตในรอบเพาะปลูกถัดไปอย่างทันเหตุการณ์

"เฉลิมชัย" บินด่วนสู้ภัยแล้ง กู้วิกฤติหอมมะลิทุ่งกุลาฯ

ปัจจุบันการเพาะปลูกข้าวในจังหวัดสุรินทร์มีความเสี่ยง เนื่องจากปริมาณฝนตกค่อนข้างน้อย ส่งผลให้ข้าวเหี่ยวเฉาไม่สมบูรณ์ คาดว่าจะมีพื้นที่เสียหาย 438,997 ไร่ เกษตรกรได้รับผลกระทบ 200,251 ครัวเรือน ซึ่งกระทรวงเกษตรฯ มีแนวทางแก้ไขปัญหา คือ 1. สำนักงานเกษตรอำเภอทุกอำเภอได้ลงพื้นที่สร้างการรับรู้ให้เกษตรกรทราบถึงสาเหตุของภัยธรรมชาติที่เกิดขึ้นที่ทำให้นาข้าวเสียหาย 2. ประสานขอรับการสนับสนุนในพื้นที่ร้องขอเร่งด่วน 3.ประชาสัมพันธ์ให้เกษตรกรมาขึ้นทะเบียนเกษตรกร/ปรับปรุงทะเบียนเกษตรกร โดยอธิบายหลักเกณฑ์การให้ความช่วยเหลือตามระเบียบกระทรวงการคลัง (ฝนทิ้งช่วง) โดยในพื้นที่ประสบภัยจะต้องมีปริมาณฝนตกไม่เกินวันละ 1 มิลลิเมตรติดต่อกันเกิน 15 วัน จึงจะรายงานสถานการณ์ภัยที่เกิดจากฝนทิ้งช่วง ตามขั้นตอนการเป็นพื้นที่ประกาศภัยฯ และ 4. หน่วยงานในสังกัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ในจังหวัดสุรินทร์ร่วมบูรณาการติดตามและแก้ไขปัญหาภัยแล้ง/ฝนทิ้งช่วง ที่ส่งผลกระทบต่อพื้นที่เกษตรกรรม และทำความเข้าใจกับเกษตรกร

"เฉลิมชัย" บินด่วนสู้ภัยแล้ง กู้วิกฤติหอมมะลิทุ่งกุลาฯ

สำหรับจังหวัดสุรินทร์ (ข้อมูล ณ วันที่ 30 ก.ค.62) มีปริมาณน้ำเก็บกักจากอ่างเก็บน้ำขนาดกลาง 26 แห่ง และอ่างเก็บน้ำขนาดเล็ก 346 แห่งรวมกัน 66 ล้านลูกบาศก์เมตร(ลบ.ม.) เป็นน้ำใช้การได้ 25 ล้าน ลบ.ม. อ่างเก็บน้ำขนาดใหญ่ 2 แห่ง มีปริมาณน้ำรวมกัน 1.067 ล้าน ลบ.ม. ได้แก่ อ่างเก็บน้ำห้วยเสนง ปัจจุบันมีปริมาณน้ำ 0.806 ล้าน ลบ.ม. คิดเป็นร้อยละ 4 ของความจุอ่าง และอ่างเก็บน้ำห้วยอำปึล ปัจจุบันมีปริมาตรน้ำ 0.261 ล้าน ลบ.ม. คิดเป็นร้อยละ 0.94 ซึ่งสาเหตุการเกิดภัยแล้งสืบเนื่องจากมีปริมาณฝนน้อยในพื้นที่จังหวัดสุรินทร์ตั้งแต่ปี 2561 ที่ผ่านมา มีปริมาณฝนตกเพียง 900 มม. ส่งผลให้ปริมาณน้ำไหลเข้าอ่างเก็บน้ำ 17 แห่ง มีเพียง 131 ล้าน ลบ.ม. หรือคิดเป็นร้อยละ 22 ของค่าเฉลี่ย จนถึงปัจจุบันมีปริมาณฝนสะสม 399 มม. มีปริมาณน้ำไหลลงอ่างฯ เพียง 13 ล้าน ลบ.ม. คิดเป็นร้อยละ 2 ของค่าเฉลี่ย ซึ่งกรมชลประทานได้เร่งดำเนินการช่วยเหลือ

"เฉลิมชัย" บินด่วนสู้ภัยแล้ง กู้วิกฤติหอมมะลิทุ่งกุลาฯ

โดยทำการผันน้ำจากอ่างเก็บน้ำอำปึล ปริมาณ 0.50 ล้าน ลบ.ม. พร้อมขุดร่องชักน้ำอ่างเก็บน้ำห้วยเสนงเข้าสู่จุดสูบน้ำการประปาและสูบน้ำจากอ่างเก็บน้ำราชมงคลลงห้วยเสนง ปริมาณ 0.25 ล้าน ลบ.ม. รวมทั้งผันน้ำจากบ่อหิน ปริมาณ 20 ล้าน ลบ.ม. รวมปริมาณน้ำช่วยเหลือได้ 21 ล้าน ลบ.ม. ทั้ง 2 อ่างเป็นอ่างเก็บน้ำสำหรับผลิตน้ำประปาเลี้ยงอำเภอเมืองสุรินทร์ นอกจากนี้ ยังประสานกรมทรัพยากรน้ำบาดาลเพื่อเจาะน้ำบาดาลเติมน้ำสู่อ่างฯ รวมถึงจะขุดลอกแก้มลิงเกาะแก้วและป่าเวย อำเภอสำโรงทาบเพิ่มปริมาณน้ำเก็บกักของจังหวัดสุรินทร์อีกทางหนึ่งด้วย

"เฉลิมชัย" บินด่วนสู้ภัยแล้ง กู้วิกฤติหอมมะลิทุ่งกุลาฯ

แม้ว่าบางพื้นที่ในภาคตะวันออกเฉียงเหนือจะมีปริมาณฝนเพิ่มแล้วก็ตาม แต่ขอให้ประชาชนใช้น้ำอย่างประหยัด และขอความร่วมมือเกษตรกรงดทำการเพาะปลูกต่อเนื่อง หรือทำการเพาะปลูกตามปริมาณฝนที่ตกในพื้นที่ เพื่อลดความเสี่ยงในการสูญเสียผลผลิตทางการเกษตร สำหรับพื้นที่ที่เพาะปลูกแล้ว ขอให้เกษตรกรในพื้นที่ใช้น้ำตามรอบเวรตัวเองอย่างเคร่งครัด เพื่อให้ผู้ใช้น้ำร่วมกันได้มีน้ำใช้อย่างทั่วถึง อย่างไรก็ตาม ได้มีพื้นที่เฝ้าระวังภัยแล้งในเขตชลประทานทั่วประเทศ จำนวน 25 จังหวัด 144 อำเภอ โดยภาคตะวันออกเฉียงเหนือมีพื้นที่เฝ้าระวัง 8 จังหวัด ได้แก่ นครราชสีมา ขอนแก่น ร้อยเอ็ด บุรีรัมย์ กาฬสินธุ์ ชัยภูมิ มหาสารคาม และสุรินทร์

"เฉลิมชัย" บินด่วนสู้ภัยแล้ง กู้วิกฤติหอมมะลิทุ่งกุลาฯ

นอกจากนี้ กรมฝนหลวงและการบินเกษตรยังมีแผนการปฏิบัติการฝนหลวง ประจำปี 2562 ในการบรรเทาปัญหาหมอกควันและไฟป่า เพื่อลดความหนาแน่นของหมอกควันและลดปัญหาฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM2.5 รวมทั้งการเพิ่มความชุ่มชื้นให้กับพื้นที่ป่าไม้ แผนการยับยั้งการเกิดพายุลูกเห็บ เพื่อบรรเทาและลดความเสียหายจากการเกิดพายุลูกเห็บในพื้นที่การเกษตร แผนการป้องกันและแก้ไขภัยแล้ง เพื่อสร้างความชุ่มชื้นให้กับพื้นที่ป่าไม้ และเพิ่มปริมาณน้ำฝนในพื้นที่เกษตรกรรม และแผนการเติมน้ำต้นทุนให้เขื่อนกักเก็บน้ำ เพื่อเพิ่มปริมาณน้ำเก็บกักให้กับเขื่อนต่าง ๆ ทั่วประเทศ เพื่อสำรองไว้เป็นน้ำต้นทุนในการบริหารจัดการน้ำในช่วงฤดูแล้ง ซึ่งผลการปฏิบัติการฝนหลวงในช่วงระหว่างวันที่ 1 มี.ค. – 29 ก.ค. 62

"เฉลิมชัย" บินด่วนสู้ภัยแล้ง กู้วิกฤติหอมมะลิทุ่งกุลาฯ

จากการตั้งหน่วย 151 วัน มีการขึ้นปฏิบัติการฝนหลวง จำนวน 143 วัน มีวันฝนตกจากการปฏิบัติการฝนหลวง 138 วัน คิดเป็นร้อยละ 88.16 มีจังหวัดที่มีรายงานฝนตกรวม 58 จังหวัด และมีฝนตกในพื้นที่ลุ่มรับน้ำเขื่อนและอ่างเก็บน้ำ รวม 69 เขื่อนและอ่างเก็บน้ำ โดยหน่วยปฏิบัติการฝนหลวงจังหวัดสุรินทร์ มีการขึ้นปฏิบัติการฝนหลวง จำนวน 32 วัน มีวันฝนตกจากการปฏิบัติการฝนหลวง 27 วัน คิดเป็นร้อยละ 84.38 มีจังหวัดที่มีรายงานฝนตกรวม 6 จังหวัด ได้แก่ นครราชสีมา บุรีรัมย์ มหาสารคาม ร้อยเอ็ด ศรีสะเกษ และสุรินทร์ อีกทั้งยังปฏิบัติการฝนหลวงช่วยเหลืออ่างเก็บน้ำห้วยเสนง จำนวน 3 วัน มีฝนตก 3 วัน ทำให้มีปริมาณน้ำไหลเข้าอ่างเก็บน้ำสะสมรวม 0.017 ล้าน ลบ.ม.

"เฉลิมชัย" บินด่วนสู้ภัยแล้ง กู้วิกฤติหอมมะลิทุ่งกุลาฯ