ค้าขายเนื้อสัตว์ทำไมรวย

29 ธ.ค. 2564 | 20:00 น.

คอลัมน์ ทำมา ธรรมะ โดย ราช รามัญ

ในหลักของพระพุทธศาสนาอาชีพที่ไม่ควรทำนั้นมีอยู่ทั้งหมดห้าอย่าง ที่พระพุทธเจ้าทรงตรัสเอาไว้ เช่น

การค้าอาวุธ

การค้าขายสัตว์ที่ยังมีชีวิต

การค้าขายเนื้อสัตว์

การค้าขายน้ำเมา

การค้าขายยาพิษ

เกิดคำถามขึ้นมาอีกว่าทำไมคนที่ค้าขายในสิ่งที่พระพุทธเจ้าห้ามกลับร่ำรวย รวยแบบชนิดที่เรียกได้ว่าชาตินี้กินไม่หมดใช้ไม่หมด

คงไม่ต้องเอ่ยนะว่ามีบริษัทไหนบ้างเอาเป็นว่าการทำอาชีพค้าขายเนื้อสัตว์ ถ้าเรามองว่าบาปก็เป็นไปตามอรรถพยัญชนะที่พระพุทธเจ้าสอน แต่เป็นคำสอนในนิกายเถรวาท

แต่ก็เชื่อว่าเบื้องหลังของผู้ที่ค้าขายเนื้อสัตว์ก็มักจะต้องสร้างบุญสร้างกุศลเยอะแยะมากมายเช่นเดียวกัน แต่ทั้งนี้ก็ไม่ได้หมายความว่าบุญนั้นจะมาลบล้างบาปกรรมที่กระทำได้

บุญส่วนบุญ บาปกรรมที่เป็นอกุศลก็ส่วนอกุศล ไม่เกี่ยวข้องกันแต่อย่างไร

สักวันก็ต้องได้รับการชดใช้เวรกรรมที่ทำกับสัตว์เหล่านั้นอย่างสาสมและหลีกเลี่ยงไม่ได้ แต่มุมมองนี้ก็เป็นความเชื่อในพุทธศาสนาแบบเถรวาทหรือหินยาน 

มีพุทธศาสนาอีกมุมหนึ่ง แต่เป็นในรูปแบบของนิกายมหายานได้มีมุมมองเกี่ยวกับเรื่องนี้ว่า ผู้ที่ทำอาชีพค้าขายเนื้อสัตว์เป็นบุคคลที่เสียสละอย่างยิ่ง

ถามว่าเสียสละอย่างไร ก็คือยอมเอาตัวเองไปแบกบาป แบกกรรม แบกความทุกข์ ด้วยการขายเนื้อสัตว์เพื่อให้ผู้อื่นได้นำเอาไปปรุงอาหารบริโภคและปลดปล่อยจากความหิวที่ทำให้เป็นทุกข์อย่างนั้น ผู้ที่ค้าขายเนื้อสัตว์จึงเป็นผู้เสียสละอย่างแท้จริง

พูดง่ายง่ายก็คือยอมเอาตัวเองเข้าแลกกับบาปกรรมและความทุกข์เพื่อให้ผู้อื่นมีชีวิตรอดเท่าเรามองในมุมนี้ก็อาจจะเกิดความรู้สึกดีขึ้นบ้าง

สำหรับผู้ที่ประกอบอาชีพค้าขายเนื้อสัตว์ได้อย่างไรเสียมนุษย์โดยเนื้อแท้จริงแล้ว เป็นสิ่งมีชีวิตที่ควรจะกินพืชกินผัก,ผลไม้มากกว่าการกินเนื้อสัตว์

แต่เมื่อยุคสมัยเปลี่ยนไปการเปลี่ยนแปลงต่างๆที่มนุษย์ได้อยู่ร่วมกันมา ย่อมทำให้ทุกสิ่งทุกอย่างนั้นเปลี่ยนไปเรื่อยๆแม้แต่เรื่องของการกินอาหาร

ประเด็นที่หลายคนสงสัยว่าค้าขายเนื้อสัตว์แล้วทำไมยังร่ำรวย ก็คงจะต้องบอกว่าบางครั้งการประกอบอาชีพตามการเปลี่ยนแปลงของโลกและความต้องการของมนุษยชาติ

อาจจะเป็นการเสียสละอย่างยิ่งสำหรับดวงจิตวิญญาณของผู้นั้นที่เป็นเจ้าของผลแห่งการยอมเสียสละจึงทำให้เขาเกิดความมั่งคั่งเกิดความร่ำรวยในปัจจุบันภพ

เพื่อให้มีเงินมีทองแล้วนำเอาเงินทองไปช่วยเหลือสังคมไปจุนเจือพระศาสนาก็อาจเป็นได้

และอีกมุมหนึ่งที่น่าสนใจใครที่ค้าขายชีวิตสัตว์ด้วยการลงมือฆ่าเองเข้าเครื่องหรือสั่งระบบลูกน้องกรรมอย่างหนึ่งที่เขาต้องได้รับก็คือ

ตัวเค้าจะมีสุขภาพไม่ค่อยดีหรือลูกหลานอาจจะมีสุขภาพไม่ดีซึ่งนี่ก็เป็นอีกหนึ่งคำสอนของพระพุทธเจ้าที่น่าศึกษาเกี่ยวกับเรื่องการค้าขายชีวิตสัตว์

พระพุทธเจ้าทรงตรัสคำไหนย่อมเป็นจริงตามนั้นไม่มีคำว่า"และแต่หรือ"ให้เรามาคาดคะเนกันเอาเอง

ชีวิตชาตินึงเก็บไว้แล้วเราก็ต้องดูกันยาวยาวว่าสุดท้ายจะเป็นอย่างไร