FED จะลงดอกเบี้ยได้จริงหรือเพียงแค่ออกมาเล่นข่าว?

29 ส.ค. 2568 | 09:00 น.
อัปเดตล่าสุด :29 ส.ค. 2568 | 09:13 น.

FED จะลงดอกเบี้ยได้จริงหรือเพียงแค่ออกมาเล่นข่าว? คอลัมน์ SUPER TRADER โดย นายภัค วิทยาพันธ์ประชา Super Trader

KEY

POINTS

  • เฟดส่งสัญญาณอาจลดดอกเบี้ย 2 ครั้งรวม 0.5% ภายในปีนี้ แต่ผู้เขียนบทความแสดงความไม่เชื่อมั่นว่าจะเป็นจริง
  • ผู้เขียนวิเคราะห์จากกราฟทางเทคนิคว่าทิศทางตลาดสวนทางกับข่าว และคาดการณ์ว่าเฟดอาจไม่ลดดอกเบี้ยเลย หรือลดเพียงครั้งเดียวในปีหน้า
  • หากมีการลดดอกเบี้ยจริง จะส่งผลให้ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลง ซึ่งจะเป็นผลบวกโดยตรงต่อราคาทองคำ ตลาดหุ้น และสินทรัพย์ดิจิทัล

FED จะลงดอกเบี้ยได้จริงหรือเพียงแค่ออกมาเล่นข่าว? คอลัมน์ SUPER TRADER โดย นายภัค วิทยาพันธ์ประชา Super Trader

จากเมื่อวันศุกร์ที่ 22 สิงหาคม 2568 ที่ประธาน FED ออกมาแถลงท่าทีว่าจะลงดอกเบี้ยในปีนี้ ทำให้เกิดความผันผวนในทุกสินทรัพย์ในช่วงเวลาสั้นๆ ซึ่งจากถ้อยแถลงมีการตีความกันว่าจะลงดอกเบี้ย 2ครั้ง รวม 0.5% ซึ่งหารวบรวมสถิติก่อนหน้าตั้งแต่ 2022-23 FED ขึ้นดอกเบี้ยมาแล้ว 11ครั้ง รวมเป็น 5.25% และหากมีการปรับลงของดอกเบี้ยจริงจะมีผลกระทบกับสินค้ากลุ่ม ต่าเงิน ทองคำ เป็นหลัก ซึ่งจะเห็นว่าท่าทีของ FED ในครั้งนี้มาหลังจากที่การเจรจาเรื่องภาษ๊สิ้นสุดลง

 

FED จะลงดอกเบี้ยได้จริงหรือเพียงแค่ออกมาเล่นข่าว?

 

นี่อาจจะเป้นสาเหตุหนึ่งที่ส่งเสริมให้นักวิเคราะห์หลายๆท่านประเมินว่ามีโอกาสจะลง 2ครั้ง ภายในปีนี้ ถึง2026 แต่หากมาประเมินด้วยกราฟสินค้า DXY แล้ว จะเห็นว่ากราฟมีทิศทางที่ส่วนกับข่าวนี้อย่าสิ้นเชิง แต่ต้องบอกว่าการที่ประกาศออกมากราฟมีการเคลียลงมาตามข่าวจริง แต่ก็ดึงกลับไปใกล้แนวราคาก่อนที่จะร่วงลงมาอย่างรวดเร็ว รวมถึงกราฟของหลายๆค่าเงินเช่นกลุ่มค่าเงินหลัก eurusd usdcad usdchf usdjpy btcusd  ก็มีการดึงกราฟกลับมาในทิศทางเดิมก่อนข่าวประกาศเช่นกัน

 

FED จะลงดอกเบี้ยได้จริงหรือเพียงแค่ออกมาเล่นข่าว?

ดังนั้นโดยส่วนตัวแล้วผมประเมินว่า FED จะไม่ลงดอกเบี้ย และระหว่างที่รอการประชุมครั้งถัดไปจะมีข่าวอะไรมาเปลี่ยนแปลงสถานการณ์ให้ FED ยังคงดอกเบี้ยต่อไป หรือหากจะมีการลงดอกเบี้ยจริงๆ อาจจะเกิดขึ้นเพียงครั้งเดียวและน่าจะเกิดในปีหน้า 2026 ครับ

 

FED จะลงดอกเบี้ยได้จริงหรือเพียงแค่ออกมาเล่นข่าว?

 

และสินค้าที่จะได้รับผมกระทบ

1. ค่าเงิน (Forex)

  • USD อ่อนค่า: การลดดอกเบี้ยทำให้ส่วนต่างดอกเบี้ยของสหรัฐฯ แคบลง นักลงทุนจะย้ายเงินไปหาผลตอบแทนที่สูงกว่า
  • EUR, JPY, GBP, AUD มีโอกาสแข็งค่าเทียบ USD โดยเฉพาะสกุลเงินที่เศรษฐกิจฟื้นตัวดีกว่า
  • เงินทุนไหลไปตลาดเกิดใหม่ (EM) เช่น บาท, เปโซ, รูเปียห์ → อาจแข็งค่าชั่วคราว

2. ทองคำ (XAUUSD)ได้แรงบวกโดยตรง เพราะ

  • ดอลลาร์อ่อนค่า → ราคาทองใน USD ถูกลงสำหรับต่างชาติ
  • ดอกเบี้ยขาลง → ต้นทุนค่าเสียโอกาสในการถือทอง (สินทรัพย์ที่ไม่ให้ดอกเบี้ย) ลดลง
  • แนวโน้มคือทองมีโอกาสกลับมา ขึ้นต่อ โดยเฉพาะถ้า Fed ลดดอกเบี้ยเร็วและเงินเฟ้อยังอยู่ในกรอบ

 

FED จะลงดอกเบี้ยได้จริงหรือเพียงแค่ออกมาเล่นข่าว?

3. ตลาดหุ้น

  • หุ้นสหรัฐ (S&P500, Nasdaq, Dow Jones) มักได้แรงหนุนเพราะต้นทุนกู้ยืมถูกลง และการบริโภค/ลงทุนมีแรงกระตุ้นเพิ่ม
  • หุ้นกลุ่ม Growth / Tech ได้ประโยชน์มากที่สุด (sensitive กับดอกเบี้ย)
  • หุ้นกลุ่มการเงิน (ธนาคาร) อาจเจอแรงกดดัน เพราะกำไรดอกเบี้ยสุทธิ (NIM) ลดลง

4. พันธบัตรรัฐบาล

  • Bond yield ลดลง (เพราะราคาพันธบัตรขึ้นเมื่อดอกเบี้ยลด)
  • นักลงทุนจะเข้ามาซื้อพันธบัตรมากขึ้นเพื่อ Lock yield ที่ยังสูงอยู่ ก่อนที่ Fed จะลดลงจริง ส่งผลให้ เส้นอัตราผลตอบแทน (yield curve) มีโอกาสคลายการ inverted

 

FED จะลงดอกเบี้ยได้จริงหรือเพียงแค่ออกมาเล่นข่าว?

 

5. น้ำมันและสินค้าโภคภัณฑ์

  • น้ำมัน (WTI/Brent): ถ้า Fed ลดดอกเบี้ย → เศรษฐกิจคาดว่าจะขยายตัว → demand เพิ่ม → ราคาน้ำมันอาจขึ้น
  • สินค้าโภคภัณฑ์อื่น ๆ (ทองแดง, แร่): ได้แรงหนุนจากเงินทุนไหลเข้า + การคาดการณ์เศรษฐกิจโลกฟื้น

6. คริปโต (BTC, ETH, Altcoins)

  • ได้แรงบวกจาก USD อ่อนค่า + สภาพคล่องเพิ่มขึ้น BTC มักถูกมองเป็น “digital gold” → เคลื่อนไหวสอดคล้องกับทองในภาวะดอกเบี้ยขาลง Altcoins อาจวิ่งแรงกว่า BTC ถ้าตลาด Risk-on กลับมา

 

อย่างไรก็ตามเนื้อหานี้เป็นเพียงความคิดเห็นส่วนตัวของผมผ่านการวิเคราะห์ทางเทคนิคคอลเท่านั้น อย่างไรก็ตามนักลงทุนควรจะอ้างอิงกับข้อมูลข่าวสารเศรษฐกิจหลังจากนี้ต่อไปครับ