SET index กลับมายืนเหนือ 1200 จุด ต้องปรับกลยุทธ์การลงทุนอย่างไร

08 พ.ค. 2568 | 00:00 น.

SET index กลับมายืนเหนือ 1200 จุด ต้องปรับกลยุทธ์การลงทุนอย่างไร คอลัมน์ SUPER TRADER โดย ปพนสรรค์ จิรวรรณพันธุ์ Super Trader

KEY

POINTS

  • โฟกัสหุ้นในพอร์ตและแยกประเภทชัดเจน: นักลงทุนควรตรวจสอบหุ้นในพอร์ตของตนว่าเป็นหุ้นเพื่อปันผล, หุ้นลงทุนระยะยาว หรือหุ้นเก็งกำไร เพื่อวางแผนกลยุทธ์ที่เหมาะสมกับแต่ละประเภท เช่น หุ้นพื้นฐานดีแต่ราคาลงแรง อาจเป็นจังหวะในการสะสมเพิ่ม
  • เลือกลงทุนในหุ้นกลุ่มที่แข็งแกร่งและมี Fund Flow เข้า: ในภาวะที่ตลาดฟื้นตัวจากจุดต่ำสุด หุ้นบางกลุ่มที่ได้รับแรงซื้ออย่างชัดเจนควรได้รับความสนใจเป็นพิเศษ โดยใช้กลยุทธ์ “ย่อซื้อ” และติดตามการเคลื่อนไหวของ Fund Flow อย่างใกล้ชิด

ในช่วง 1 เดือนกว่าๆที่ผ่าน ดัชนี SET ผันผวนมาก เจอทั้งเรื่องแผ่นดินไหว ทั้งเรื่องสงครามการค้าของฝั่งอเมริกาทำให้สินทรัพย์ทั่วโลกผันผวนอย่างมาก วันศุกร์ที่ 28 มีนาคม พ.ศ.2568 เกิดแผ่นดินไหว จนตลาดหลักทรัพย์ต้องหยุดการซื้อขายช่วงบ่าย พอตลาดเปิด วันจันทร์ที่ 31 มีนาคม พ.ศ.2568 ก็เปิดลงไปทำจุดต่ำสุดที่ 1155.05 จุด ก่อนจะเด้งรีบาวน์ขึ้นมา หลังจากนั้น 1 สัปดาห์ เจอประเด็นสงครามการค้า กำแพงภาษีจากฝั่งอเมริกาอีก ทำให้ดัชนี SET วันอังคารที่ 8 เมษายน พ.ศ.2568 เปิดลงไปทำจุดต่ำสุดที่ 1056.41 จุด ถ้านับจากจุดต่ำสุดของวันที่ดัชนีลงจากเรื่องแผ่นดินไหว ราว 100 จุดเลยทีเดียว นับว่าสร้างความเสียหายแก่นักลงทุนในตลาดหุ้นไทยเป็นอย่างมาก

 

SET index กลับมายืนเหนือ 1200 จุด ต้องปรับกลยุทธ์การลงทุนอย่างไร

กลับมาปัจจุบัน เพียงระยะเวลาที่ห่างแค่ราว 1 เดือน ดัชนี SET ก็เด้งรีบาวน์ขึ้นมายืนเหนือระดับ 1207.89 จุด (ณ เวลา 13.00 น. วันที่ 7 พฤษภาคม พ.ศ.2568) ได้อีกครั้ง นับจากจุดต่ำสุดรอบนี้ราว 150 จุด ถือว่าดัชนี SET เด้งขึ้นมาค่อนข้างเร็ว ทำให้นักลงทุนบางส่วนอาจปรับตัวไม่ทัน หรือ กำลังตัดสินใจอยู่ ว่าต้องทำอย่างไร ตลาดหุ้นจะกลับตัวแล้วหรือยัง ต้องรอการพักย่อตัวก่อนหรือไม่ นักลงทุนต้องปรับกลยุทธ์การลงทุน และ เลือกลงทุนในสภาวะตลาดที่ผันผวนแบบนี้อย่างไร

1. โฟกัสหุ้นที่มีอยู่ในพอร์ต แยกประเภทหุ้นที่อยู่ในพอร์ตก่อนว่า ตัวไหนถือกินปันผล ตัวไหนถือลงทุน และ ตัวไหนเล่นเก็งกำไร ทำแผนการลงทุนแต่ละประเภทให้รัดกุม ยกตัวอย่างเช่น ชุดหุ้นถือกินปันผล อาจเป็นจุดที่พอจะเพิ่มน้ำหนักในบางตัวที่ราคาลงมาแรงจนเกินไป และ มีสัญญาณเริ่มกลับตัวในระยะสั้น หรือ ชุดหุ้นถือลงทุน ที่ปัจจัยพื้นฐานของธุรกิจไม่ได้เปลี่ยน แต่ราคาหุ้นลงมาตามสภาวะตลาดที่ผ่านมา อาจเป็นจุดให้ทยอยสะสมเพิ่ม แต่ต้องวิเคราะห์ปัจจัยเศรษฐกิจเพิ่มเติม ว่าจะไม่มีผลกระทบกับกิจการที่ดำเนินอยู่ เป็นต้น

2. โฟกัสหุ้นกลุ่มที่แข็งนำตลาด การรีบาวน์ของตลาดในรอบนี้ ต้องบอกว่าชุดหุ้น หรือ กลุ่มหุ้นที่ช่วยพยุงดัชนี SET ขึ้นมารอบนี้ มีอยู่ไม่กี่กลุ่ม ไม่กี่ตัว ถ้าเราทำการบ้านหุ้น หรือ สังเกตตลาดหุ้นไทยมาในช่วงระยะเวลา 1 เดือนที่ผ่านมา จะเห็นความผิดปกติของกลุ่มหุ้นบางกลุ่ม และ หุ้นรายตัวได้ชัด ว่ากลุ่มไหนตัวไหนเริ่มมี Fund Flow เข้ามาอย่างต่อเนื่อง เราสามารถใช้กลยุทธ์การย่อซื้อสำหรับหุ้นในกลุ่มนี้ได้

3. โฟกัสหุ้นรายตัวโดยไม่ต้องสนใจดัชนีSET เราสามารถทำการบ้านหุ้นรายกลุ่มรายตัวได้ทั้งจากกราฟเทคนิคอล จากปัจจัยพื้นฐานของกิจการ หรือ จากธุรกิจที่กำลังเป็นเทรนต่อไปยังอนาคต ซึ่งหุ้นรายตัวบางตัวอาจยังไม่ขึ้นตามดัชนีที่เด้งขึ้นมา เพียงแต่อาจจะรอ Fund Flow ของกลุ่มอุตสาหกรรมนั้นๆ หรือ รอการประกาศงบการเงินของกิจการในรอบ ไตรมาส 1/2568 นักลงทุนควรทำการบ้านเตรียมเอาไว้ หากมี Fund Flow เข้า ประกอบกับงบการเงินที่ประกาศออกมาดี เราจะสามารถตัดสินใจกับการลงทุนของเราได้อย่างทันท่วงที

กล่าวโดยสรุปคือ แม้ว่าดัชนี SET จะผันผวนหนัก ลงสุดขึ้นสุด จนกลับขึ้นมายืนบริเวณแนว 1200 จุด แต่เราควรโฟกัสที่หุ้นในพอร์ตเป็นอันดับแรก แยกประเภทของหุ้นในพอร์ตตามจุดประสงค์การลงทุน และไม่ต้องกลัวตกรถ เพราะดัชนี SET เด้งรีบาวน์ขึ้นมาได้จากหุ้นเพียงแค่บางกลุ่มบางตัวเท่านั้น จึงทำให้ยังมีหุ้นบางกลุ่มบางตัวที่ยังไม่ขึ้น ที่กำลังสะสมเตรียมขึ้น เพียงแต่อาจจะรองบการเงิน รอStory รอปัจจัยพื้นฐานมาสนับสนุนอีกพอสมควร