KEY
POINTS
ราคาน้ำมันดิบในสัปดาห์ที่ผ่านมาย่อตัวราว -1.5%w-w โดยมีแรงกดดันจากซาอุดิอาระเบียจะเริ่มส่งออกน้ำมันเพิ่มในเดือน ส.ค. และ ก.ย. ทำให้ภาวะอุปทานมากขึ้น ขณะที่อุปสงค์มีแนวโน้มชะลอลง จากคาดของ IEA ที่ปรับลดคาดการเติบโตของความต้องการน้ำมันดิบปี 2025 เหลือเพียง +0.7 ล้านบาร์เรลต่อวัน ต่ำสุดตั้งแต่ปี 2009 (ไม่รวมช่วง COVID)
ในขณะที่ด้านส่วนต่างผลิตภัณฑ์จากการกลั่นในสัปดาห์ที่ผ่านมาพบว่า ส่วนต่างน้ำมันแก๊สโซลีน ลดลง -9% ในขณะที่ส่วนต่างน้ำมันดีเซล และส่วนต่างน้ำมันเครื่องบิน ปรับขึ้น +21%, +13% ตามลำดับ ส่วนฝั่งปิโตรเคมี พบว่า ส่วนต่างทั้งในสายโอเลฟินส์ และอะโรเมติกส์ ปรับตัวขึ้น ราว 3-6% ดังนั้นอาจเพิ่มแรงเก็งกำไรในหุ้นกลุ่มโรงกลั่นและปิโตรเคมี (TOP, IVL)
ด้านราคาสินค้าเกษตรระยะสั้นฟื้นตัว นำโดย ราคาน้ำมันปาล์ม +4.7%w-w, กากถั่วเหลือง +2.4%, ยาง +1.9%, น้ำตาล +1.5%, ข้าวโพด +1.4% ส่วนด้านราคาเนื้อสัตว์ ทรงตัวทั้งราคาหมู, ไก่, กุ้ง ขณะที่ราคาแซลมอน ยังชะลอตัว -1.1%
ค่าระวางเรือปรับขึ้นเด่นในช่วงสั้น (+23%w-w) ทะลุ 2,000 จุด ทำจุดสูงสุดรอบ 10 เดือน หนุนจากจีนเร่งสต๊อกแร่กลางปีรับนโยบายกระตุ้นอสังหาฯแต่อาจเริ่มผ่อนในช่วง 3Q25 ส่วนดัชนี Container -5% ยังพักฐานหลังผ่านจุดสูงสุดในช่วงเดือน มิ.ย. แต่ยังต้องติดตามสถานการณ์ในทะเลแดง อาจเป็นแรงหนุนได้
Commodity Pick : TOP
เครดิต : Liberator Securities