อุ้ม SME เอื้อฐานราก หนุนเศรษฐกิจไทยเดินหน้าต่อ

10 ธ.ค. 2568 | 05:51 น.
อัปเดตล่าสุด :10 ธ.ค. 2568 | 06:05 น.

อุ้ม SME เอื้อฐานราก หนุนศก.ไทยเดินหน้าต่อ : บทบรรณาธิการ หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ฉบับที่ 4,156

KEY

POINTS

  • รัฐบาลอนุมัติงบประมาณ 2,700 ล้านบาทผ่านกองทุนส่งเสริม SME เพื่อช่วยเหลือผู้ประกอบการทั่วประเทศ โดยเฉพาะกลุ่มที่ได้รับผลกระทบจากอุทกภัย
  • ออกมาตรการสินเชื่อดอกเบี้ยต่ำ พร้อมลดเงื่อนไขคุณสมบัติผู้กู้จากเดิม 2 ปี เหลือเพียง 6 เดือน เพื่อให้ผู้ประกอบการรายใหม่เข้าถึงแหล่งทุนได้ง่ายขึ้น
  • มุ่งแก้ปัญหาสภาพคล่องและหนี้เสีย (NPL) ที่เพิ่มสูงขึ้นในกลุ่ม SME ซึ่งเป็นฐานรากสำคัญของเศรษฐกิจ เพื่อป้องกันผลกระทบในวงกว้าง
  • เน้นย้ำว่าความช่วยเหลือต้องมีความรวดเร็ว เข้าถึงง่าย และปรับให้เหมาะกับธุรกิจแต่ละประเภท เพื่อให้มาตรการเกิด

 ถึงคิวของผู้ประกอบการเอสเอ็มอีไทย เมื่อรัฐบาลขยับตัวแรง บอร์ดส่งเสริม SME นำโดยรองนายกฯ พิพัฒน์ รัชกิจประการ ไฟเขียวอนุมัติงบกองทุนส่งเสริม SME อีก 2,700 ล้านบาท เพื่อช่วยผู้ประกอบการทั่วประเทศ รวมถึง SME ใน 9 จังหวัดภาคใต้ ที่ได้รับผลกระทบจากอุทกภัยครั้งใหญ่

มาตรการนี้ถูกออกแบบให้ “เฉพาะพื้นที่-ตรงจุด-เข้าถึงง่าย” ผ่านสินเชื่อดอกเบี้ยตํ่า และกิจกรรมฟื้นฟูเศรษฐกิจ พร้อมลดเงื่อนไขคุณสมบัติผู้กู้จากการต้องประกอบการ 2 ปี เหลือเพียง 6 เดือน เพื่อเปิดประตูให้เอสเอ็มอีรุ่นใหม่ที่กำลังตั้งหลักเข้าถึงทุนได้จริง

ถือเป็นสัญญาณที่ดี หลังจากที่ผู้ประกอบการเอสเอ็มอี ถูกมองข้ามมาหลายครา จนมีผู้ออกมาพูดว่า “เงินสดหมดก่อนลูกค้าเข้า” เพราะกระแสเงินสดร่อยหรอตั้งแต่ต้นปี ที่การท่องเที่ยวชะลอ การจับจ่ายอ่อนแรง ร้านเล็กประคองตัวกระท่อนกระแท่น หลายรายปิดๆ-เปิดๆ ร้านซํ้าแล้วซํ้าเล่า ขณะที่ทรัพย์สินคํ้าประกันก็หมดไปตั้งแต่ช่วงโควิด การเข้าถึงสินเชื่อจึงแทบเป็นไปไม่ได้

ตัวเลขหนี้เสียเริ่มกดดันรุนแรงขึ้น หนี้ SME ค้างชำระเกิน 30 วัน (Stage 2) เพิ่ม 15% ส่วนหนี้เสีย (Stage 3) เพิ่ม 9% และที่น่ากังวลคือ กลุ่มลูกค้ารายใหญ่เริ่มมีสัญญาณผิดนัดชำระด้วย นี่คือ ภาพของระบบธุรกิจที่กำลังก้าวเข้าสู่ภาวะ “ซอมบี้เอสเอ็มอี” ซึ่งยังเดินได้ แต่ไร้กำลังปรับตัว หากปล่อยไว้จะกลายเป็น NPL ลูกโซ่ และซํ้าเติมเสถียรภาพเศรษฐกิจโดยรวม

มาตรการที่รัฐบาลเปิดตัวในช่วงนี้ ทั้งซอฟต์โลนผ่านแบงก์รัฐ การคํ้าประกันสินเชื่อของ บสย. การพักหนี้ 6-12 เดือน การซ่อมแซมฉุกเฉินแบบรัฐร่วมจ่าย 50-80% รวมถึงมาตรการภาษี เช่น เร่งคืนภาษี Fast Track ล้วน “ถูกทิศ” ตามโจทย์การแก้ปัญหา แต่จะ “เพียงพอ” หรือไม่ ยังต้องจับตามอง

เพราะวันนี้หัวใจของการต่ออายุเอสเอ็มอี ไม่ใช่แค่ตัวเงิน แต่คือ “ความเร็ว” และ “ความง่าย” เพราะรู้กันดีว่า SME ไทย ยังขาดการจัดการระบบหลังบ้าน ไม่มีฝ่ายบัญชี ไม่มีที่ปรึกษา ไม่มีเวลาไปทำเอกสาร

สิ่งที่รัฐบาลต้อง “เดินหน้า” ต่อ เห็นจะเป็นเรื่อง การทำให้สินเชื่อและการพักหนี้เข้าถึงผู้ประกอบการกลุ่มเปราะบางจริง ๆ และต้องตอบโจทย์แต่ละธุรกิจ ที่มีความต่างกัน ไม่ใช่เงื่อนไขเดียวกันในทุกๆ ธุรกิจ ไม่เช่นนั้นงบประมาณที่ลงไป จะไม่ตอบโจทย์ หรือ ช่วยปลดล็อกปัญหาของ SME เหล่านั้นได้

เพราะที่สุดแล้ว SME ก็ยังเป็นฐานราก กว่า 70% ของการจ้างงานยังอยู่ในภาวะอ่อนแรง เศรษฐกิจไทยจะไม่สามารถฟื้นตัวได้ตามเป้าหมาย ปี 2569 มาตรการ Quick Big Win ก็อาจเป็นเพียงแค่แนวคิด รัฐบาลจำเป็นต้องเดินหน้าช่วยเหลือ SME ให้เต็มรูปแบบไม่ใช่เพียง “กระแส” เท่านั้น

บทบรรณาธิการ หน้า 6 หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 45 ฉบับที่ 4,156 วันที่ 11 - 13 ธันวาคม พ.ศ. 2568