KEY
POINTS
ทิศทางของธุรกิจเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ในปี 2569 กำลังถูกกำหนดโดยความพยายามครั้งสำคัญของรัฐบาล ในการสร้างความสมดุลระหว่างการส่งเสริมเศรษฐกิจ การท่องเที่ยว และ การดูแลสุขภาพสังคม แม้ว่าพระราชบัญญัติควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2568 จะมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 8 พฤศจิกายน 2568 และมีการเคลื่อนไหวครั้งใหญ่ ของคณะกรรมการควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ที่เห็นชอบให้ปลดล็อกเวลาห้ามจำหน่าย 14.00-17.00 น.
ถือเป็น “จุดเปลี่ยน” สำคัญ สำหรับกฎหมายที่อยู่มายาวนานกว่า 50 ปี ด้วยเหตุผลว่า เป็นข้อกฎหมายที่ล้าสมัย ควรปรับเปลี่ยนให้เข้ากับบริบทโลกที่เปลี่ยนไป สอดคล้องกับสภาพสังคมและการท่องเที่ยวในปัจจุบัน
ขณะที่ในภาคเศรษฐกิจ การห้ามขายช่วงบ่าย ถูกงานวิจัยของ TDRI ยืนยันว่า “ล้มเหลว” ในการลดการบริโภคจริง แต่กลับผลักดันให้เกิดการซื้อขายไปสู่ช่องทางนอกระบบ หรือ ตลาดมืด
การปรับปรุงกฎหมายครั้งนี้ จึงสะท้อนการรับฟังเสียงผู้ประกอบการและประชาชน เพื่อจัดสมดุลระหว่างการรักษาสุขภาพกับการส่งเสริมเศรษฐกิจ โดยเฉพาะผู้ประกอบการกลุ่มธุรกิจกลางวัน ที่เชื่อว่า จะเพิ่มรายได้และอุดช่องว่างธุรกิจ ไม่ต้องแอบๆ ซ่อนๆ ขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์อีกต่อไป
เพราะนักท่องเที่ยวต่างชาติเอง หากนั่งรับประทานอาหาร จิบไวน์ คุยธุรกิจกันไป บ่าย 2 บุ๊ปถูกสั่งให้หยุดดื่ม หยุดซื้อ อารมณ์ก็อาจจะค้างๆ คาๆ ได้ เพราะเขาเองไม่เข้าใจในข้อกฎหมายของไทย เมื่อปลดล็อกให้ขายได้อย่างถูกต้อง โดยไม่มีข้อจำกัดด้านเวลา โดยเฉพาะในช่วงกลางวันที่ไม่ได้ดื่มกันแบบเอาเป็นเอาตาย ก็น่าจะเป็นหนึ่งในแนวทางที่ช่วยดึงดูดนักท่องเที่ยวได้
สิ่งเดียวที่ยังคงต้องเฝ้าระวังคือ การเกิดนักดื่มหน้าใหม่ ซึ่งความพยายามในการปกปิด กีดกั้น จำกัดการเข้าถึง อาจจะเป็นวิถีหนึ่ง แต่ในความเป็นจริงแล้ว ตลอดระยะเวลาที่มีการปิดกั้น ห้ามโฆษณา ประชาสัมพันธ์ การกำหนดโซนนิ่ง ตัวเลขนักดื่มหน้าใหม่ ก็ไม่ได้ลดลงในทางกลับกันกลุ่มนักดื่มที่มีอายุระหว่าง 17-20 ปี ยังคงสูงขึ้นต่อเนื่อง
หลังการปลดล็อกช่วงเวลาการขายเป็นแค่ “ก๊อกแรก” ของการปฏิรูปกฎหมายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ แต่ก๊อกสอง ก๊อกสาม ยังมีการบ้านที่บอร์ดควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ต้องทำอีกมาก
โดยเฉพาะความชัดเจนในข้อกฎหมาย การกำหนดนิยามของการสื่อสารการตลาด การโฆษณา การประชาสัมพันธ์ เพราะทั้ง 3 เรื่องล้วนมีความเกี่ยวเนื่อง และมีเส้นบางๆ กั้นอยู่ หากเส้นแบ่งทางกฎหมายยังไม่ชัดเจน หากไม่มีระเบียบที่ชัดเจน อาจนำไปสู่การตีความของเจ้าหน้าที่ที่แตกต่างกันในแต่ละพื้นที่ และสร้างความหวาดกลัวต่อผู้ผลิตรายย่อย
ที่สุดแล้วการปฏิรูปกฎหมายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ เปรียบเสมือนการสร้างสะพานเชื่อมเศรษฐกิจกับสังคม สัญญาณไฟจราจรเปิดแล้ว แต่หากป้ายบอกทางยังคลุมเครือ ผู้ประกอบการ และนักท่องเที่ยวก็ไม่อาจขับเคลื่อนไปข้างหน้าได้อย่างมั่นใจ
บทบรรณาธิการ หน้า 6 หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 45 ฉบับที่ 4,150 วันที่ 20 - 22 พฤศจิกายน พ.ศ. 2568