การบรรจบกันของเครื่องแบบนักเรียนในมุมมองของวิทยาศาสตร์การเมืองและเศรษฐกิจ

24 มิ.ย. 2566 | 04:00 น.

คอลัมน์เศรษฐศาสตร์ นอกขนบ การบรรจบกันของเครื่องแบบนักเรียนในมุมมองของวิทยาศาสตร์การเมืองและเศรษฐกิจ โดย สุวิทย์ สรรพวิทยศิริ มูลนิธิ สวค.

เครื่องแบบนักเรียน คือเครื่องแต่งกายที่เราพบเห็นตามสถานศึกษาแทบทั่วโลก ทำหน้าที่สัญญะแห่งเอกภาพ วินัย และแทนคุณค่าสถาบันนั้น หากความหมายและอิทธิพลแห่งเครื่องแบบนักเรียนไม่ได้หยุดอยู่เพียงนั้น แต่ยังขยายผลสู่คุณค่าวิทยาศาสตร์ การเมืองและเศรษฐกิจ เมื่อมองผ่านคุณค่าดังกล่าว เครื่องแบบนักเรียนจึงเป็นสัญญะที่ยิ่งซับซ้อนทั้งต่อการเมืองและเศรษฐกิจ

วิทยาศาสตร์ การเมืองและเครื่องแบบนักเรียน:

พิธีกรรมการเมืองเป็นพฤติการณ์จากวิธีกระทำซ้ำเพื่อแสดงนัยการเมือง เมื่อแสดงออกเป็นกลุ่มก้อนย่อมยกระดับพิธีกรรมนั้นเป็นความปกติ เกิดเป็นเอกภาพ เมื่อยอมรับกันกว้างขวางย่อมยกระดับเป็นความชอบธรรมในสังคมลามไปถึงอำนาจการเมือง ในบริบทการศึกษา หากไม่บ่อยที่เครื่องแบบนักเรียนจะถูกจับได้ว่าเป็นส่วนหนึ่งของพิธีกรรมการเมือง

หลายกรณีเครื่องแบบนักเรียนเป็นเครื่องมือทำให้ผู้สวมใส่เข้าใจโครงสร้างสังคม เข้าใจบทบาทที่สังคมคาดหวังจากผู้สวมใส่ เช่น เป็นเครื่องตอกย้ำอาการสยบยอม อาการยอมรับช่วงชั้น อยู่ใต้วินัย พฤติการณ์เรียบร้อย อันเป็นองค์ประกอบสำคัญในการเมืองหลายระบอบ
ในแง่เครื่องแบบนักเรียนส่งเสริมเอกภาพกลุ่มก้อนผู้สวมใส่ เน้นเท่าเทียมผ่านรูปลักษณ์ พร้อมทั้งลดเลือนภาวะแบ่งแยกฐานะเศรษฐกิจ เมื่อสวมใส่เครื่องแบบประจำเป็นวัตรย่อมชักพาจิตสำนึกกลุ่มก้อน คุณค่าน้ำหนึ่งใจเดียวเป็นสำคัญ สู่กลไกสร้างและรักษาชุมชนการเมือง

ในบางประเทศเครื่องแบบนักเรียนเข้าถึงสถานะเครื่องยืนยันอำนาจชนชั้นนำ ชนชั้นปกครอง ที่เฝ้ากำกับและจับตาให้เชื่อฟัง คัดง้างให้ทิศทางทางการเมืองไปตามเป้าประสงค์ที่พวกเขาต้องการ

เศรษฐกิจและเครื่องแบบนักเรียน:

ความหมายแง่เศรษฐกิจของเครื่องแบบนักเรียนมีหลากหลาย แง่หนึ่งเครื่องแบบนักเรียนช่วยบรรเทาภาวะกดดันด้านการเงินครอบครัว เครื่องแบบนักเรียนสามารถลดจำนวนเสื้อผ้าที่ผู้ปกครองต้องซื้อหา ลดความกดดันในสังคม ลดความเครียดอันเป็นปัญหาพฤติการณ์วิ่งตามแฟชั่น เป็นกลไกสนามการแข่งขันเท่าเทียมกันในเชิงความแท้และน่าดู เครื่องแบบนักเรียนสามารถลดปัญหาล่วงละเมิดและการดูแคลนที่เกี่ยวข้องกับรายได้

อีกแง่หนึ่ง อุตสาหกรรมเครื่องแบบนักเรียนเป็นภาคธุรกิจที่สำคัญในหลายๆ ประเทศ ส่งผลดีต่อเศรษฐกิจระดับท้องถิ่น ภูมิภาค และระดับชาติ ทั้งภาคผลิต ภาคจัดจำหน่าย และภาคการตลาด เครื่องแบบนักเรียนเป็นเครื่องมือสร้างงานและสร้างรายได้ เป็นปัจจัยส่งเสริมเศรษฐกิจให้เติบโต

แม้กระนั้น มุมมองเศรษฐกิจนี้ยังคง ผลิตคำถามด้านศักยภาพการจับจ่ายและความเท่าเทียม แม้ว่าเครื่องแบบนักเรียนจะลดความการสวมใส่เสื้อผ้าหลากหลาย แต่ค่าใช้จ่ายจ่ายล่วงหน้ายังคงมหาศาลต่อครอบครัวรายได้ต่ำ กลับกันตลาดเครื่องแบบนักเรียนอาจผูกขาด นำไปสู่การกำหนดราคาที่สูงและตัวเลือกจำกัด ปัญหาเหล่านี้ตอกย้ำความจำเป็นการกำหนดราคาที่ยุติธรรมประกอบนโยบายเศรษฐกิจที่มั่นใจได้ว่าทุกครอบครัวสามารถจับจ่ายเครื่องแบบนักเรียนได้ และต้องอุดหนุนแก่บางครอบครัวที่รายได้ต่ำอย่างถ้วนหน้า

ประเทศที่เครื่องแบบนักเรียนไม่อยู่ในนโยบายสนับสนุนจากรัฐบาลหรือท้องที่การศึกษา ภาระค่าใช้จ่ายย่อมก่อความเหลื่อมล้ำด้านเศรษฐกิจ กลายเป็นอุปสรรคการศึกษา ดังนั้นการพิจารณาผลกระทบเศรษฐกิจจากเครื่องแบบนักเรียนควรรวมถึงผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นแก่ความเท่าเทียมและการเข้าถึงการศึกษา อันจะยิ่งเร่งความเหลื่อมล้ำด้านพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ ศักยภาพการแข่งขันของประเทศ

รู้เรื่อง :

เครื่องแบบนักเรียนที่มักจะเข้าใจเป็นเพียงสัญญะแห่งสถานศึกษา มีบทบาทลึกซึ้งในภาคสังคม การเมืองและเศรษฐกิจ ผ่านคุณค่าวิทยาศาสตร์การเมืองและเครื่องแบบนักเรียน รัฐส่งเสริมให้ประชาชนเข้าสู่สังคมการเมืองและสร้างสรรค์เอกลักษณ์ชุมชนเศรษฐกิจ ประชาชนมีศักยภาพบรรเทาความกดดันด้านการเงินแก่ครอบครัวทั้งส่งเสริมการเติบโตด้านเศรษฐกิจ แต่ยังมีความท้าทายแง่ศักยภาพจับจ่ายและความเท่าเทียม

ยามที่เศรษฐกิจถดถอย ภูมิต้านทานการกดทับหดหาย จนคนรุ่นใหม่สุดจะอดทนจนลุกขึ้นทวงถามความจำเป็นของเครื่องแบบนักเรียน อาจก่อแรงกระเพื่อมทางการเมืองระยะสั้น หากเป็นวิทยาศาสตร์ที่สังเคราะห์ผลได้ต่อการเมืองระยะยาว

ผู้กำหนดนโยบาย ผู้มีส่วนได้ส่วนเสียในระบบการศึกษาต้องพิจารณาภาพรวมที่ซับซ้อนนี้ เพื่อกำหนดระเบียบและนโยบายที่เกี่ยวข้องกับเครื่องแบบนักเรียน ยอมรับความซับซ้อนเหล่านี้จะช่วยสร้างระบบการศึกษาที่เท่าเทียมทั่วถึงยิ่งขึ้น ช่วยให้เข้าใจความสัมพันธ์ซับซ้อนระหว่างการศึกษา การเมือง และเศรษฐกิจในสังคม

เกร็ดความรู้ :

มาของชุดครุย เมื่อพิธีกรรมการเรียนสำเร็จลงแล้ว  ชุดครุยที่สูงค่ามีที่มาจากชุดช่างทาสี เพื่อให้บัณฑิตสำนึกในความต่ำต้อยของหน้าที่อันพึงมีในการใช้ความรู้รับใช้สังคม ถ้าทุกคนตระหนักรู้หน้าที่ตรงนี้ การมีหรือไม่มีชุดนักเรียนจึงไม่เป็นประเด็นที่สังคมควรสนใจเลย