เมื่อพูดถึงมรดก (Legacy) ในบริบทของธุรกิจครอบครัว หลายคนอาจนึกถึงเพียงทรัพย์สิน เงินทุน หรือหุ้นในบริษัท แต่แท้จริงแล้ว มรดกที่มีคุณค่าที่สุดอาจไม่ใช่สิ่งที่จับต้องได้ หากแต่เป็นคุณค่าที่หยั่งรากลึกในจิตใจ วัฒนธรรม และความผูกพันของครอบครัว ที่ช่วยให้ธุรกิจสามารถดำรงอยู่และส่งต่อจากรุ่นสู่รุ่นได้อย่างยั่งยืน
ในมุมมองของธุรกิจครอบครัวแล้วมรดกไม่ได้หมายถึงเพียงสิ่งที่ทิ้งไว้เบื้องหลังเท่านั้น แต่รวมถึงสิ่งที่ตั้งใจส่งต่อไปยังคนรุ่นถัดไป ทั้งในรูปแบบที่จับต้องได้ เช่น ทรัพย์สิน หรือในรูปแบบที่สัมผัสได้ผ่านความคิด การกระทำ และค่านิยม มาดูกันว่ามรดกในธุรกิจครอบครัวมีอะไรบ้าง และแต่ละด้านมีบทบาทสำคัญอย่างไรต่อความยั่งยืนขององค์กร
จะเห็นได้ว่ามรดกในธุรกิจครอบครัวไม่ได้จำกัดอยู่แค่ตัวเลขในบัญชีหรือทรัพย์สินที่มองเห็นได้เท่านั้น หากแต่ควรประกอบด้วยองค์ประกอบสำคัญ 4 ด้านอย่างสมดุล ได้แก่ ความมั่นคงทางการเงินที่เป็นพื้นฐานของการดำเนินธุรกิจอย่างต่อเนื่อง ความผูกพันและค่านิยมร่วมที่เชื่อมโยงสมาชิกในครอบครัวให้มีจิตใจเดียวกัน
ชื่อเสียงและบทบาทต่อสังคมที่สร้างความน่าเชื่อถือและความไว้วางใจในสายตาคนนอก และจิตสำนึกแห่งการดูแลรักษาและส่งต่อ ซึ่งปลูกฝังแนวคิดระยะยาวและความรับผิดชอบต่อรุ่นถัดไป การเข้าใจและวางแผนส่งต่อมรดกทั้ง 4 ด้านนี้อย่างรอบคอบตั้งแต่เนิ่นๆ จึงเป็นกุญแจสำคัญที่จะทำให้ธุรกิจครอบครัวสามารถยืนหยัดได้อย่างมั่นคงท่ามกลางความเปลี่ยนแปลง แข็งแกร่งทั้งในฐานะองค์กรและยังคงรักษาความเป็นครอบครัวที่ร่วมแรงร่วมใจกันเติบโตอย่างยั่งยืนอีกด้วย
ที่มา: Andrews, P. (2024, June). The different types of legacy in a family business. Family Business United. https://www.familybusinessunited.com/post/the-different-types-of-legacy-in-a-family-business