3 เสาหลักสู่ความสำเร็จของธุรกิจครอบครัว: เอกภาพ ความสามัคคี และการรวมใจ

30 พ.ค. 2568 | 22:38 น.

3 เสาหลักสู่ความสำเร็จของธุรกิจครอบครัว: เอกภาพ ความสามัคคี และการรวมใจ : Family Business Thailand รศ.ดร.เอกชัย อภิศักดิ์กุล คณบดีคณะวิทยพัฒน์และผู้อำนวยการศูนย์ธุรกิจครอบครัว มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย [email protected]

ธุรกิจครอบครัวคือหัวใจของเศรษฐกิจในหลายประเทศ แต่การจะทำให้ธุรกิจเติบโตไปพร้อมกับรักษาความสัมพันธ์ในครอบครัวให้แข็งแกร่งไปด้วยนั้นไม่ใช่เรื่องง่ายเลย ซึ่งสิ่งที่ทำให้หลายครอบครัวประสบความสำเร็จอย่างยั่งยืน คือการสร้างสมดุลระหว่างความเป็นธุรกิจและความเป็นครอบครัว โดยมี 3 เสาหลักสำคัญ ดังนี้

1. ครอบครัวมีเอกภาพ (Family Unity) ความเป็นเอกภาพของครอบครัวเริ่มต้นจากการร่วมกันกำหนดวิสัยทัศน์ที่ทุกคนเชื่อมั่น ซึ่งไม่ใช่แค่การตั้งเป้ากำไรธรรมดาแต่เป็นการตอบคำถามสำคัญว่า ธุรกิจนี้สร้างขึ้นมาเพื่ออะไร เช่น ครอบครัวหนึ่งอาจมุ่งขยายตลาดต่างประเทศ ขณะที่อีกครอบครัวต้องการรักษามรดกภูมิปัญญาท้องถิ่น การเขียนพันธกิจครอบครัวร่วมกันจะช่วยให้ทุกคนโฟกัสไปทางเดียวกัน ควบคู่ไปกับการสื่อสารที่เปิดกว้างด้วยการจัดประชุมครอบครัวเป็นประจำ

ไม่เพียงแต่หารือเรื่องงาน แต่ยังรวมถึงการรับฟังเรื่องชีวิตส่วนตัวและความรู้สึกของแต่ละคนด้วยการฟังอย่างตั้งใจโดยไม่ตัดสิน และเมื่อใดก็ตามที่เกิดความขัดแย้ง สิ่งสำคัญคือการไม่ปล่อยให้อารมณ์นำทาง ด้วยการตกลงกันล่วงหน้าว่าจะไม่ใช้คำพูดรุนแรงหรือตัดสินใจตอนอารมณ์ร้อน พร้อมเชิญที่ปรึกษาจากภายนอกมาเป็นคนกลางช่วยแก้ปัญหา ซึ่งแนวทางเหล่านี้จะช่วยให้ครอบครัวสามารถเดินหน้าไปพร้อมกันได้ แม้จะมีหลากหลายความคิด

2. ครอบครัวมีความสามัคคี (Family Harmony) ความสามัคคีเกิดจากการแบ่งบทบาทตามความถนัดของแต่ละคน เช่น ลูกคนโตที่เรียนจบด้านวิศวกรรมอาจดูแลฝ่ายผลิต ในขณะที่ลูกคนเล็กที่มีหัวครีเอทีฟรับผิดชอบการตลาด พร้อมทำสัญญางานเป็นลายลักษณ์อักษรเพื่อป้องกันความขัดแย้งจากความเข้าใจผิด นอกจากนี้ความต่างของวัยและแนวคิดก็เป็นความท้าทายไม่น้อย เมื่อรุ่นพ่อแม่คุ้นชินกับวิธีทำงานแบบเดิม

3 เสาหลักสู่ความสำเร็จของธุรกิจครอบครัว: เอกภาพ ความสามัคคี และการรวมใจ

ส่วนรุ่นลูกรุ่นหลานต้องการนำเทคโนโลยีใหม่ๆมาใช้ ทางออกคือการจัดเวิร์กช็อปแลกเปลี่ยนประสบการณ์ข้ามเจนเนอเรชัน ให้คนแต่ละวัยสอนในสิ่งที่ตัวเองถนัด เช่น รุ่นพ่อแม่สอนหลักคิดการบริหารความเสี่ยง ส่วนรุ่นลูกสอนการใช้ AI วิเคราะห์ตลาด และเมื่อโลกเปลี่ยนครอบครัวก็ต้องปรับตัวอย่างรวดเร็วด้วย เพราะความยืดหยุ่นคือเกราะป้องกันธุรกิจจากคลื่นความเปลี่ยนแปลงนั่นเอง

3. ครอบครัวรวมใจเป็นหนึ่ง (Family Cohesion) การรวมใจเริ่มจากการเตรียมผู้สืบทอดให้รู้จริง รู้ลึก ด้วยการให้รุ่นลูกลงมือทำงานตั้งแต่ระดับปฏิบัติการ เพื่อซึมซับวัฒนธรรมองค์กรและเข้าใจรากเหง้าของธุรกิจ พร้อมสร้างระบบเมนทอร์โดยรุ่นพ่อแม่ที่คอยให้คำปรึกษาแบบใกล้ชิด แต่เพื่อป้องกันการตัดสินใจด้วยอารมณ์หรือความสัมพันธ์ส่วนตัว ต้องมีธรรมนูญครอบครัวที่เขียนกฎเกณฑ์ชัดเจน

เช่น ใช้เสียงเกิน 70% ในการอนุมัติโครงการใหญ่ หรือมีคณะกรรมการอิสระตรวจสอบงบการเงิน สิ่งสำคัญที่สุดคือการแบ่งเขตระหว่างงานกับชีวิตส่วนตัว ด้วยการตั้งกฎเหล็กว่าห้ามพูดคุยเรื่องงานตอนกินข้าวเย็น และออกแบบพื้นที่ทำงานแยกจากบ้าน เพื่อไม่ให้ความเครียดจากการทำงานกลายเป็นระเบิดเวลาทำลายความสัมพันธ์

ทั้งนี้ความสำเร็จที่มากกว่ากำไร คือ ความภูมิใจร่วมกัน ธุรกิจครอบครัวที่ยืนหยัดได้ร้อยปี ไม่ได้ชนะเพราะกลยุทธ์เลิศหรู แต่ชนะเพราะทุกคนในบ้านร่วมมือกันอย่างเหนียวแน่น ภายใต้ความไว้วางใจและเป้าหมายเดียวกัน แม้เส้นทางนี้จะไม่เรียบง่ายแต่หากสร้าง 3 เสาหลักนี้ได้มั่นคง ธุรกิจจะไม่เพียงแค่เติบโต แต่จะกลายเป็นตำนานที่ส่งต่อรุ่นสู่รุ่นเลยทีเดียว

 

ที่มา: Martin Roll. (January, 2025). The 3 pillars of success in family business: Family unity, harmony, and cohesion. Available: https://martinroll.com/resources/articles/family-business/the-3-pillars-of-success-in-family-business-family-unity-harmony-and-cohesion/