KEY
POINTS
นางรองนี่เปนเมืองหน้าด่าน เวลาออกจากโคราชจะไปอีสานใต้ ทางบุรีรัมย์ ต้องผ่านนางรอง ซึ่งเมื่อก่อนเป็นเมืองที่เป็นของตนเองมีเจ้าเมืองเป็นอิสระมาตั้งแต่ยุคเสียกรุงครั้งที่สองโน่น
นางรองที่นำมากล่าวถึงในวันนี้เป็นคนละที่กับน้ำตกนางรอง ซึ่งน้ำตกนั้นอยู่ในเขตจังหวัดนครนายก คนละทิศคนละทางกันเลยหากแต่ชื่อมาพ้องกันของกินมีชื่อของนางรองคือ มะพร้าวเผา ซึ่งเผากันจริงๆจังๆทั้งผล มีกลิ่นหอมหวลชวนดื่ม ในขณะที่พวกทำมะพร้าวเผาปลอมเล่นอะไรที่ง่ายกว่านั้นคือเอาลูกมะพร้าวปอกเปลือกแล้วไปต้ม! _เวรกรรมเสียทรงหมด ของอร่อยอีกอย่างคือขาหมูนางรอง มีร้านดังๆอยู่ร้านคือ ลักษณา กับ จิ่งฮั้ว
วันนี้เน้นเร่งด่วนเพราะมาติดตามข่าวสถานการณ์ชายแดน จึงขออนุญาตแวะมาลักษณาตรงที่แยกใหญ่จอดรถไวสะดวกๆ ของอร่อยที่คุณๆไม่ต้องเลือก ต้องยกให้ห่อหมกของเขา ที่มีความโดดเด่น เขาใช้กะทิสดหัวหางมากวนห่อหมก รสชาตินวลเนียลครีมมี่ หอมเครื่องแกงแต่ไม่เผ็ดไม่ปร่า รองด้วยใบยอขมเย็นเคี้ยวอร่อย ใส่ใบทะกรูด พริกแดงฝาน
ห่อหมกสมัยนี้นิยมกันที่กวนให้เนื้อเด้งหน่อย กินโดยรองผักกาดขาวบ้าง ใบโหระพาบ้าง เอาไปนึ่ง_โถ่..แต่ของเก่าแก่ คุณแม่ครัวจะตั้งหม้อดินเผา ที่ข้างในมีรูพรุนหยาบ กวนห่อหมกอันประกอบด้วยไข่/เครื่องแกงและกะทิด้วยมือ เนื้อปลาไม่ลงกวนด้วยนัก วางชิ้นๆลงกระทง รองด้วยใบยอ(Morinda citrifolia L) กล้ามเนื้อใบหนาทำให้เคี้ยวเพลิน มีรสขมสุขุมบำรุงน้ำดีอีกตะหาก
ส่วนเนื้อปลาควรจะเปนปลาช่อน แต่งวดนี้สงสัยมีการรบชายแดน ถามได้ความว่าใช้ปลาธีลาเปี่ย - ชื่อไพเราะของปลานิล 55 แทนไปก่อนก็สดดี ไม่มีคาวเลย เชิญท่านตักห่อหมกสักคำวางบนข้าวสวยร้อนร้อนแล้วโรยน้ำปลาพริก ก่อนส่งเข้าปาก ก็จะลืมความยากเย็น ในการเจรจาหยุดยิงกับกัมพูชา ไปได้ชั่วขณะ มีแต่ความสุขขีจรุงใจไปกับรสชาติเเน่นๆแต่เนียนนวลของเขาที่ดีอีกอย่างคือ หน่อไม้ตุ๋นกระดูกหมู
ตุ๋นมาดีมากๆเลย อร่อยที่หมู ยังหนุบนุ่มไม่แห้งผาก หอมหน่อไม้ไผ่ตงสะโอดสะอง โรยพริกไทยป่นนิด วักซดเข้าปากเคี้ยวกินเสียก่อนแล้วค่อยตักข้าวสวยรับประทานตามไป สมองก็จะโล่งดี เอ้ายังไม่ทันไรเลยนี่ ข้าวหมดจาน ลืมกินขาหมูกันไปได้!