KEY
POINTS
ถ้าพูดถึงว่าในบรรดาพระพุทธรูปทองคำแล้วมีไส้ในไส้นอกอย่างฉบับก่อนที่นำเสนอคุณผู้อ่านถึงเรื่อง ศิลปะพระนิรันตรายสองถอด ไปแล้วนั้น ก็ต้องขอประธานกราบเรียนว่าที่เมืองเหนือเรานี้นั้น การสร้างพระพุทธรูปไส้นอกไส้ในให้ได้สมบูรณ์แบบจริงๆ ข้างในองค์พระจะต้องมีเครื่องใน (internal organ) มีหัวใจ มีปอด มีตับ มีลำไส้จำลองให้เหมือนกับที่คนจริงๆ มีใส่เอาไว้ด้วย เพื่อให้ครบเครื่องความเป็นลักษณะของมนุษย์ โดยชุดพวงเครื่องในนี้ทำจากทองคำเช่นเดียวกันกับองค์พระ โดยเฉพาะชิ้นหัวใจที่เรียกว่า ‘หัวใจพระเจ้า’
ซึ่งอาจจะเป็นคตินิยมที่มีลักษณะร่วมกันในกลุ่มผู้นับถือพระพุทธศาสนาฝ่ายมหายาน ฝ่ายทิเบตยุคเก่าที่เวลาสร้างพระแล้วจากต้องประจุเอาเครื่องอวัยวะภายในจำลองมาเข้าไว้ด้วยจะได้สมบูรณ์
พระพุทธรูปองค์สำคัญสำคัญที่สวยงามทางศิลปะอย่างมากแล้วมีเครื่องในเป็นทองคำมีอยู่หลายองค์กระจายอยู่ตามเมืองโบราณต่างๆ ก่อนที่เมืองเหล่านั้นจะกลายเป็นเขตปกครองลักษณะจังหวัดในยุครัตนโกสินทร์ที่พะเยาก็มี ที่เชียงรายก็มาก แต่ที่โด่งดังมีชื่อเสียงและมีตำนานประกอบเรื่องที่ผู้คนสัมผัสกันได้จริงต้องยกให้พระเจ้าแสนแซ่ทองคำที่กลางเมืองลำปาง
อันพระเจ้าแสนแซ่ทองคำองค์นี้ ชาวบ้านขุดพบครั้งแรกในไร่อ้อยได้ศีรษะ(เศียร) พระมาก่อนยังไม่เจอตัวพระ ได้แล้วก็เอามาเก็บซ่อนไว้ที่หลอง ซึ่งก็คือยุ้งเก็บข้าวเปลือกหน้าบ้าน ยังไม่ได้เอาเข้าตัวบ้าน ก็ได้ประสบเหตุอันน่าพิศวงทั้งกลุ่มเมฆดำลอยขึ้นจากท้องฟ้าในบริเวณบ้านฟ้ามืดนกหยุดร้อง
ซึ่งถ้าจะว่าไปแล้วปรากฏการณ์ผิดปกติแบบนี้ เขาเรียก “ขึด” คือ อาเพศที่ไม่เปนมงคล เศียรพระนี้นายช่างโบราณศิลปินผู้สร้างสรรค์ สร้างพระให้เปิดศิราภรณ์ส่วนบนออกได้ เป็นชั้นๆ ที่พระเศียรมีช่องวางผะอบบรรจุพระธาตุ เป็นกลไกละเอียดงดงามน่าพิศวง
จากนั้นมาชาวบ้านนั้นจึงไปตระเวณเสาะหาเพิ่มจึงได้พบกับองค์พระในดินอีก ได้มาแล้วก็เอาไปซ่อนไว้ที่เดิม อีคราวนี้พอครบองค์ก็มีเสียงบรรเลงปี่พาทย์มโหระทึกบรรเลงเป็นท่วงทำนองที่คุ้นหูแต่ไม่เคยได้ยินมาก่อน ดังขึ้นมาเองในยามสงัดที่หลองข้าวซึ่งใช้เปนที่ซุกพระ ซึ่งในเวลานั้นหัวพระ กับตัวพระยังแยกกันอยู่
ผู้ขุดเองก็รู้ดีว่าของที่ขุดขึ้นมานั้นมีค่าเป็นทองคำจึงได้นำไปขายที่ร้านทองในเมือง ความทราบถึงเจ้าอาวาสวัดเจดีย์ซาวหลัง (ซึ่งต่อมาได้เปนเจ้าคณะจังหวัด) ซึ่งเปนวัดใหญ่ตั้งอยู่ในตำบลเดียวกันที่ขุดพบพระ ในเวลานั้นท่านพระครูสมภารได้ดิ้นรนหาทางนำสตางค์ไปไถ่ถอนมาจาก ผู้ครอบครองที่ร้านทอง จนสำเร็จและได้อาราธนามาประดิษฐานยังวัดที่ท่านเป็นเจ้าอาวาส
โดยเหตุทั้งหลายนี้เกิดขึ้นเมื่อปี 2526 ยุคที่นายชูวงศ์ ฉายะบุตร เป็นผู้ว่าราชการจังหวัด โดยพุทธลักษณะนั้นไม่ใช่พระหล่อ แต่เปน
พระที่ตีขึ้นรูปด้วยมือทั้งองค์ ปางมารวิชัย ขัดสมาธิราบ เนื้อวัสดุทองคำเนื้อบริสุทธิ น้ำหนัก ๑๐๐ บาท สองสลึง หน้าตักกว้าง๙.๕ นิ้ว สูง ๑๕ นิ้ว ศิลปะแบบล้านนาผสมอยุธยา เชื่อกันว่าสร้างใน สมัยพุทธศตวรรษที่ ๒๑ เป็นพระพุทธรูปทองคำ องค์แรกที่ขึ้นทะเบียน เป็นโบราณวัตถุแห่งชาติ โดยลักษณะกรรมวิธีการสร้าง ครูช่างได้ตีแต่งทองคำขึ้นเป็นชิ้นงานที่ละส่วนๆ มิได้ใช้วิธีการหล่อ แล้วแต่ละส่วนนำมาต่อกันด้วยสลักหมุด ได้แก่ พระเศียรชั้นนอก พระเศียรชั้นในกับพระพักตร์ พระกรรณ พระกร พระสังฆาฏิ ฝีมือประณีตมาก
ดูเผินๆ พุทธลักษณะคล้ายพระแก้วมรกตที่ในวัดพระธาตุลำปางหลวงและพระแก้วดอนเต้า เมืองลำปาง ข้างงานเย็บต่อชิ้นส่วนโลหะเข้าด้วยกันนั้น ท่านครูช่างโบราณในยุคนั้นใช้อุปกรณ์ อย่างหมุดผสมสลัก มาตรึงติด เรียกตัวตรึงนี้ว่า “แซ่” โดย หากออกเสียงให้ถูกต้องตามสำเนียงที่จะต้องห่อลิ้นวนเข้าด้วย ก็ว่า “แซว่”
การที่พระใดท่านถูกเรียกว่า แสนแซว่ ก็เพราะว่าวรกาย/ท่านตัวใหญ่มากต้องใช้ แซว่เปนแสนๆ ตัวมาเย็บ ในกรณีของพระทองคำแสนแซว่ลำปางนี้ องค์ท่านเล็ก แต่ท่านผู้ขนานนาม กำลังบอกมูลค่าของท่านที่มหาศาลจากการเปนทองคำ คือเป็นพระเจ้าแบบแซว่ที่มีมูลค่าเป็นเรือนแสน (ที่จริงทองร้อยบาท ก็เท่ากับหกล้านสมัยนี้) ส่วนพระแสนแซว่องค์ใหญ่จริงๆ ค้นพบแต่พระเศียรหรือหัวของท่านที่ยังทำไม่เสร็จที่บริเวณวัดยางกวง นครเชียงใหม่ นั่นก็งดงามและมีประวัติน่าพิศวง
พระแสนแซว่ลำปางนี้ ทั้งองค์ถอดออกเป็นชิ้นส่วนต่างๆได้ ๓๒ ชิ้น ได้แก่ พระเศียรชั้นนอก พระเศียรชั้นในกับพระพักตร์ พระกรรณ พระกร พระสังฆาฏิ ซึ่งสังฆาฏินี้ถอดได้เป็นแผ่นยาวด้านหน้าด้านหลังประดับด้วยอัญมณีที่มีค่า ที่พระนลาฎประดับด้วยนิหล่า(พลอยชนิดสีฟ้าเข้ม อมเทา) ๑ เม็ด รอบพระเมาลีอีก ๔ เม็ด และที่ยอดพระเมาลี ๑ เม็ด แล้วที่น่าสนใจคือในช่องพระเศียรที่สามารถถอดได้เป็นชั้นๆภายในมีผะอบบรรจุพระบรมธาตุ
โดยในวันที่ ๑๕ เมษายนของทุกปี จะมีงานประเพณีประจำปี พิธีสรงน้ำพระเจ้าแสนแซ่ทองคำ และในวันนั้นจะมีพิธีถอดสลักเปิดพระเศียร เพื่อนำพระบรมธาตุจากผะอบมาสรงน้ำด้วยที่น่าแปลกใจก็คือ ภายในองค์พระมีหัวใจ ตับ ไต ไส้ ซึ่งทำด้วยทองคำบริสุทธิ์เช่นกัน และมีใบลานทองคำ ๒ แผ่น จารึกคาถาอักษรพื้นเมืองพันรอบขั้วหัวใจ และที่ไตมีจารึกอักขระ ๓๒ ตัว แขวนเอาไว้ซึ่ง กรณีพระทองคำเมืองลำปางนี้ ในความรุ่งเรืองของนครลำปาง ก็มิได้มีเพียงองค์เดียว อย่าได้สับสนกับอีกองค์หนึ่งซึ่งเป็นทองคำหล่อทั้งองค์อยู่ที่วัดเกาะวาลุการาม ที่ห่างกันไม่กี่มากน้อย
องค์นั้นชื่อพระพุทธมหามุนีศรีแสงทอง สร้างขึ้นจากทองคำบริสุทธิ์ น้ำหนักประมาณ 845 บาท (12 กิโลกรัม) หน้าตัก 9 นิ้วพิมพ์เชียงแสนสิงห์หนึ่งขัดสมาธิเพ็ชรเขาประกอบพิธีเททองหล่อกัน ณ ศาลาทรงไทยวัดเกาะวาลุการาม โดยได้นิมนต์พระมหาเถระผู้ใหญ่ในเมืองเหนือ ทั้ง ครูบาดวงดี จ.เชียงใหม่ หลวงปู่หลวง อ.แม่ทะ จ.ลำปาง หลวงปู่ถม อ.คีรีมาศ จ.สุโขทัย หลวงปู่บุญชุบ วัดเกาะวาลุการาม จ.ลำปาง
ครูบาหาญ จ.แพร่ ฯลฯ มาทำพิธีพุทธาภิเศก เมื่อวันที่ 29 พฤษภาคม 2539 หลังทำพิธีเสร็จแล้วระบบป้องกันความปลอดภัยยังไม่เรียบร้อยดี คณะเจ้าภาพเห็นว่าควรเก็บไว้ในตู้นิรภัยของธนาคารไว้ก่อน
เพื่อความปลอดภัย จนผ่านไป 26 ปี เมื่อวันที่ 25 มีนาคม 2565 ที่ผ่านมา เป็นฤกษ์ศิริมหามงคล เจ้าอาวาสวัดเกาะวาลุการาม จึงได้ทำพิธีอัญเชิญพระพุทธรูปทองคำที่ฝากเก็บไว้ในธนาคาร มาประดิษฐานไว้ ยังศาลาทรงไทยวัดเกาะวาลุการาม และประกอบพิธีสมโภชฯ ให้ผู้คนได้กราบไหว้บูชาชื่นชมพุทธศิลปะจากเหล่าช่างศิลปิน
ส่วนกรณีหัวใจทองคำของพระพุทธรูปเก่าแก่นั้น มีคดีบางคดีที่น่าสลดใจเกิดขึ้นที่จังหวัดพะเยา กล่าวคือฝูงคนที่รู้ความลับว่าบรรดาพระปฏิมาเมืองเหนือนั้นจะมีหัวใจเป็นทองคำใส่ไว้ในหน้าอกพระก็จะพยายามลักขโมยโดยการเจาะหน้าอกล้วงเอาหัวใจทองคำพร้อมทั้งเครื่องประดับบูชาซึ่งเป็นอัญมณีมีค่าต่างๆออกไปขาย เกิดหลายที่หลายกรณีตั้งแต่ในอดีตกาลผ่านมา บางที่หัวขโมยไม่ต้องเจาะเพราะนายช่างทำช่องเอาไว้ให้สำหรับบรรจุหัวใจมีฝาปิดแบบเปิดเข้าออกได้ หยิบสบายกันเลยทีเดียว แต่ที่แปลกออกไปเหตุเกิดที่เวียงลอซึ่งเป็นเมืองโบราณปัจจุบันสังกัดอยู่ในอำเภอจุนของจังหวัดพะเยามีวัดแห่งหนึ่ง ซึ่งไปสร้างทับอยู่บนเขตเมืองเก่าอีกทีนึง ซึ่งก็อาจจะเป็นเขตวัดเก่าโบราณ
สมภารเจ้าอาวาสปรารถนาจะสร้างโบสถ์ให้สำเร็จหลังจากที่ยืดเยื้อค้างคามานานแต่ทุนทรัพย์ปัจจัยไม่มีมีแต่ ความฝืดเคือง วันหนึ่งเห็นท่าไม่ดีจึงยกมือขึ้นอธิษฐานถึงบรรดาเทพยดาฟ้าดินว่าขอให้ได้มีปัจจัยสะตุ้งสตางค์หนุนเนื่องเข้ามาเพื่อจะได้ทำโบสถ์ได้สักที ตกกลางคืนก็ได้ฝันไปว่าเห็นตนเองนั้นแต่งตัวเป็นทหารโบราณได้ร่วมกันกับเหล่าทหารโบราณหลาย 10 ทำแคร่หามแห่พระพุทธรูปทองคำ ไปบรรจุเอาไว้ในสถานที่แห่งหนึ่งเมื่อสะดุ้งตื่นเข้าพยายามปะติดปะต่อเรื่องราวเพราะคิดน่าจะเป็นลางบอกเหตุบางประการถึงที่มาของทรัพย์ที่อยู่ในที่ตั้งวัดแต่หนหลังซึ่งอาจจะเป็นอดีตชาติของสมภารเอง
บ่ายวันนั้น ระหว่างที่คุมงานก่อสร้างโดยมีรถแบ็คโฮ (แปลว่าตักไปข้างหลัง ไม่ใช่แมคโครที่แปลว่าของใหญ่) คุ้ยเขี่ยหน้าดินอยู่นั้นก็พบกับวัสดุรูปทรงหัวใจขนาดเท่ากับปั้นคนเด็ก เป็นวัตถุโลหะมีน้ำหนัก อยู่ในดิน พิจารณาดูแล้วคือหัวใจทองคำของพระพุทธรูปนั่นเอง
ชาวบ้านได้ทราบข่าวก็พากันดีใจจะมานมัสการ สมภารก็ระหว่างแอบดำเนินการแกเอาไปขายที่ต่างอำเภอ พร้อมทั้งให้ส่วนแบ่งกับคนขุดรถตัก และผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน
โดยตัวเองก็เอาเงินไปซื้อรถส่วนตัวมาใช้งานแล้วก็ลาสิกขาสึกออกไป ไม่ได้นำเงินมาใช้ในการสร้างโบสถ์แต่อย่างใด !?! อ้าว_เห้ย_ธัมโม สังโฆ หาย ชาวบ้านต่างเสียใจตามหาใครก็ไม่ได้จับมือใครดมก็ไม่ได้กลิ่น จนเมื่อเทพยดาดลใจโจรผู้ร้ายให้ออกมาสารภาพผิดโดยใช้ระบบอิเล็กทรอนิกส์คือกลุ่ม LINE ในการบอกความชั่วของตัวเอง ก็ปรากฏว่าเป็นอธิการเจ้าวัดที่ลาเพศไปนั่นเอง รับสารภาพ ด้วยระบบอิเล็กทรอนิกส์ ว่าเปนผู้เอาไปร้านทองเอง เขาหั่นครึ่งตรวจเปอร์เซ็นต์แล้วก็ให้ราคามา 1,160,000 บาท เงินก็ใช้ไปแล้วพระก็ไม่ได้เป็นแล้วส่วนรูปหัวใจนั้นก็ถูกหั่น ถูกหลอมสูญหายไปตลอดกาล
ชาวบ้าน ผู้ซึ่งเข้าใจกฎของไตรลักษณ์ว่าเกิดขึ้นตั้งอยู่แล้วก็ดับไปแล้วก็เกิดขึ้นใหม่ได้ ก็ว่าไม่เป็นไรขอให้ชี้เป้ามาเพราะแม้จะหลอมไปแล้ว ทองก็ยังคงเป็นทอง สามารถนำกลับมาสร้างเป็นหัวใจพระไว้ใหม่ได้ ส่วนตัวพระจะอยู่ที่ใดหาไม่เจอก็ไม่เป็นไร ก็ตีพระขึ้นมาใหม่แล้วก็เอาหัวใจแขวนเข้าไว้อย่างนี้ ก็เป็นแผนการแก้ไขปัญหาตามสถานการณ์ได้อย่างเหมาะสม สื่อมวลชนก็ลงข่าวกันครึกโครมน่าอเน็จอนาถใจ ลำดับถัดไปก็ต้องให้เป็นหน้าที่ของตำรวจตรวจจับผู้เกี่ยวข้องทั้งหลายกันต่อไป
เร็วๆ นี้ก็เพิ่งมีกรณีที่ยังไม่เป็นคดี ที่พะเยาอีกเช่นกันมีพระพุทธรูปทรงเครื่องโบราณสวยงามหนักหนา ไหล่กว้างเอวคอดทรงสร้อยจักรพรรดิหายไปจากวัด ราว 60 ปีบัดนี้มาปรากฏขึ้นในมือของนักค้าของเก่าย่านสี่พระยาต่อท่าพระจันทร์ ก็กำลังตรวจสอบหาความถูกต้องซึ่งนักค้าของเก่าผู้นี้ก็ถือว่ามีจรรยาบรรณอยู่ ได้ประกาศเอาไว้ว่าหากกรมศิลปากรชี้ชัด
ชี้ชัวร์ว่าเป็นพระองค์ที่เคยหายไปก็พร้อมที่จะทำให้ถูกต้องตามกระบวนการซึ่งชาวบ้านได้ฟังก็คงงงว่าตกลงจะคืนหรือไม่คืน แต่แกก็ต้องพูดอย่างนั้นไปก่อนเพราะยังไม่แน่ใจว่ากระบวนการที่ถูกต้องมันคืออะไรกันแน่ 55
ในกรณีของพระแสนแซ่องค์ใหญ่ที่พบเป็นแต่พระเศียรที่วัดยางกวงนั้น ในยุคหนึ่งได้เชิญมาที่กรุงเทพแต่ว่าองค์เศียรพระใหญ่เกินไปเข้าวัดไม่ได้ จึงวางไว้นอกระเบียงใต้ต้นมะขาม ฝรั่งเห็นว่าสวยดีก็ไปยืนถ่ายรูปด้วย คำนวณตามหลักสรีระศาสตร์แล้วจากพระเศียรของท่านเชื่อว่าถ้าเป็นองค์พระขนาดเต็มตัวจะต้องสูงไม่ต่ำกว่า 6 เมตรหรือเท่ากับตึกสองชั้น แต่เหตุประหลาดก็มีเกิดขึ้นว่าท่านแม้มีแต่พระเศียรและพระเศียรก็ไม่สมบูรณ์ ท่านก็ให้หวยแม่นและแม่นมาตั้งแต่สมัยรัชกาลที่หกซึ่งหวยยังเป็นลักษณะ หวยกอขอ แล้วก็ออกถี่ ไม่ใช่รอให้ครึ่งเดือนแล้วออกทีอย่างในปัจจุบัน
คนใจร้ายใจบาปสำคัญว่าพระปฏิมามีฤทธิ์แก่กล้านักก็ขอเอาตะปูตอกเย็บปากท่าน เพื่อไม่ให้ท่านพูดหวยใบ้หวยได้อีก ความอุบาทว์นี้ปรากฏอยู่ที่ริมฝีปากพระโอษฐ์บนล่างของท่านเป็นรอยเจาะมีตะปูอย่างไม่น่าให้อภัย ปัจจุบันท่านที่สนใจแวะไปกราบสักการะได้ที่พิพิธภัณฑ์ฑสถานแห่งชาติจังหวัดเชียงใหม่
ส่วนคณะสมภารวัดยางกวงพร้อมพุทธบริษัทได้ตกลง เททองหล่อพระวรกายและพระเศียรให้เต็มสมบูรณ์ไว้เรียบร้อยที่วัดยางกวงปิดทองอลังการสวยงามนักและทำพิธีมาเชิญเทวดาซึ่งสถิตอยู่ที่เศียรพระเก่าในพิพิธภัณฑ์เชียงใหม่ ให้กลับวัดยางกวงสำเร็จไปไม่นานนี้ กรณีพระคืนเมืองเช่นนี้ชาวบ้านเจ้าถิ่นทั้งหลายย่อมเป็นที่ชื่นชมโสมนัส ปลาบปลื้มใจ เปนหนักหนา
ส่วนในกรณีพระเจ้าตอง เวียงลอเมืองพะเยาองค์ที่ไม่ได้ทรงเครื่องซึ่งได้หายไปจากวัดศรีปิงเมืองก็มีอีกแล้วที่ชาวไทยไปเจอในการประมูลที่สวิตเซอร์แลนด์บริเวณรอยต่อเยอรมนีได้พยายามดิ้นรนหาทางนำกลับมาคืนเมืองได้เป็นผลสำเร็จ เมื่อปีกลาย โดยพบว่าวิธีลักขโมยนั้นโจรใช้เลื่อยตัดองค์พระออกจากฐานแล้วยกไปสรุปรวมเวลาหายไปทั้งสิ้น 36 ปี