อิเหนาเป็นเอง

15 มิ.ย. 2568 | 04:30 น.

อิเหนาเป็นเอง คอลัมน์ Cat out of the box โดย พีรภัทร์ เกียรติภิญโญ

อันเนื่องมาจากกรณีของพระลอตามไก่ในฉบับก่อนว่าด้วยการณ์อันที่สัตว์สวยงามต่างๆเป็นที่ติดตาต้องใจของมนุษย์จนกระทั่งต้องไล่ล่าเอาตัวมันมาจะเอาไว้เชยชมก็ตาม เอาไว้กินก็ตาม เอาไว้ประดับบารมีก็ตาม รู้สึกจะเป็นเรื่องธรรมดาในสังคมแห่งยุคสมัย

หากว่าพระลอรูปหล่อแกคอยตามไก่แก้วพยนต์ซึ่งแปลงร่างมาโดยคาถาเสกของปู่เจ้าสมิงพรายแล้ว ในเรื่องอิเหนาซึ่งเป็นวรรณคดีเชิงนิทานของฝ่ายบ้านแขกเมืองชวาเขาก็มีสัตว์แปลงมาล่อลวงคนเหมือนกัน ของเขานั้นเป็นตัวกวางสีทอง ออกมาหลอกมาล่อเจ้าชายหนุ่ม ให้หลงใหลในรูปวาดของหญิงสาว

กวางในเรื่องอิเหนานี้แปลงกายลงมาดื้อๆจากเทวดาชั้นสูงตามท้องเรื่องซึ่งเป็นบรรพชนของตัวละครเอกในนิทาน ด้วยเหตุรำคาญการเป็นคนตัดสินใจกลับไปกลับมาของลูกหลานคนหนึ่งนามว่าอิเหนา

ส่วนผู้ที่ถูกกวางทองล่อลวงไปนั้น เปนเจ้าชายหนุ่มอายุน้อยมีชื่อว่า_วิหยาสะกำ อันคำว่าวิหยานี้ มันมาจาก วิชยะ คือ วิชัย=ผู้ชนะ ส่วนสะกำ นี่คือ รุมสกรัม เอ๊ย ไม่ใช่ คือ สุขุม ใช้ต่อท้ายชื่อวิชยะเพื่อสำแดงความเป็นคนใช้ได้มีหลักมีฐาน โดยเนื้อแท้แล้ววิหยาสะกำเป็นคนอ่อนไหวและมีจิตใจค่อนข้างตามใจตัว ตามประสาลูกคนดีมีสตางค์

 

อิเหนาเป็นเอง

 

ตามบทแล้วกำหนดให้แกเป็นผู้ที่ความหลงใหลในงานศิลปะอย่างแรงกล้า กล่าวคือว่าตัวกวางทองนั้นเขามีภารกิจมาล่อให้วิหยาสะกำติดตามไปเพื่อไปเจอรูปวาดของนางบุษบานางเอกของเรื่อง

ซึ่งอันนี้ก็เป็นเทคโนโลยีสมัยโบราณที่จะยิง Feed ไปหาใครหรือยิงแอดไปหาใครให้ได้ภาพปรากฏขึ้นในเครื่องรับอย่างโทรศัพท์มือถือนั้น ทำได้ยากก็ต้องใช้วิธีวาดลงกระดาษก่อน แล้วเอากวางล่อให้เดินทางตามกวางมาจนพบเห็นรูป

วิหยาสะกำของเราเมื่อเห็นรูปอันสวยงามนั้นก็ตกตะลึงตึงตราอยู่ในมนต์สะกดทั้งนั้น ของ ทั้งงานศิลปะและตัวนางผู้เป็นแบบ (เปนเจ้าหญิงอีกแล้ว) ถึงขั้นคลั่งไคล้ใหลหลงอยากจะได้ตัวจริงของผู้ที่อยู่ในรูปมาครอบครองชื่นเชย

ความหลงใหลคลั่งไคล้ซึ่งปนไปด้วยความรักใคร่เสน่หาชนิดนี้ส่งผลให้ แก_ล้มป่วย ทั้งทางกายและจิตใจ คุณพ่อซึ่งเป็นกษัตริย์ชื่อ ท้าวกระหมังกุหนิงเห็นดังนั้นจึงพยายามส่งสาส์น ไปให้ถึง ราชสำนักของนางบุษบาผู้ปรากฏตัวในรูป หวังใจจะสู่ขอให้ได้สมรสแต่งงานกันองค์บิดาของนางบุษบาชื่อท้าวดาหา ได้รับพระราชสาส์น จากฝ่ายพ่อวิหยาสะกำแล้ว ได้ตอบปฏิเสธเนื่องจากได้ยกนางบุษบาให้กับ ผู้ชายอื่นไปแล้ว โดยผู้ชายนั้นรูปชั่วตัวดำนามว่า_จรกา ซึ่งมีสถานะเป็นเจ้าเมืองจรกา เรียกกันตามยศว่า ‘ระตู’ ตามบทว่าระตูจรกามีรูปร่างอัปลักษณ์

และเสียงแหบสั่น แต่ต้องการหญิงงามเป็นคู่ครอง จรกาให้ช่างเขียนไปวาดรูปธิดาเมืองต่าง ๆ มาดูหน่อย หวังใจจะมีสาวโดนใจบ้างสักคนหนึ่งแต่ไม่มีหญิงใดงามถูกใจเลย

จนเมื่อช่างเขียนไปพบแล้ววาดรูปนางบุษบามาได้ 2 รูป รูปหนึ่งเป็นรูปที่เพิ่งตื่นบรรทมยังไม่ได้ทรงเครื่อง อีกรูปหนึ่งทรงเครื่องเต็มที่ จรกานั้นเพียงเห็นภาพนางบุษบาตื่นบรรทมก็ถึงแก่สลบ (สวยจัด) เมื่อฟื้นขึ้นก็ขอให้ระตูล่าสำผู้พี่ชายส่งสาส์นไปขอนางบุษบา

 

อิเหนาเป็นเอง

 

เรื่องสำคัญมันก็เกิดเหตุมาจากตรงนี้! กล่าวคือว่า นางบุษบานั้นแต่เริ่มเดิมทีเป็นคู่หมั้นคู่หมายของอิเหนา โดยหมั้นหมายกันให้เปนคู่ตุนาหงันตามความเห็นชอบของบรรพชนผู้ซึ่งเป็นเทวาโดยสองฝ่ายยังไม่ทันเห็นหน้ากันเพื่อรักษาความบริสุทธิ์แก่วงศ์ตระกูลสายเลือดเอาไว้ อันนี้ในนิทานเรียกว่าวงศ์เทวา_อสัญแดหวา

แต่อยู่มาวันหนึ่งเมื่ออิเหนาเติบใหญ่กลายเป็นหนุ่มฮอร์โมนก็ร้อนรุ่มไปเจอนางจินตหราผู้มีความสวยงามในระดับที่น่าพอใจอิเหนาก็ไปหลงใหลในตัวของนางจินตหราเปนอันมาก ถึงขั้นบอกเลิกการแต่งงานหมั้นหมายกับบุษบาคนงาม ซึ่งอันนี้ทำให้ครอบครัวของบุษบาโกรธแค้นนัก พอเมื่อฝ่ายจรกามาขอ คุณพ่อของบุษบาก็ยกให้ไปง่ายๆ

ส่วนบ้านเมืองไทยเรายุคหนึ่งมีการดัดแปลงคำเรียกทหารกลุ่มหนึ่งว่าวงศ์เทวัญ บ่งนิยามความหมายถึงทหาที่รับราชการอยู่ในกรมที่รับใช้ใกล้ชิดราชสำนักและมีบุคลากรซึ่งเป็นลูกท่านหลานเธอสืบสายตระกูลทำงานต่อเนื่องรุ่นต่อรุ่น

วงศ์เทวัญนี้ครั้งหนึ่งเคยมีประเด็นเรื่องการชิงพื้นที่กันครองอำนาจระดับสูงในกองทัพกับกลุ่มบูรพาพยัคฆ์ ซึ่งเป็นหน่วยทหารที่มีการรับราชการอยู่ตามแนวชายแดนภาคตะวันออก ตั้งแต่ชลบุรี สระแก้ว ปราจีนบุรี ฯลฯ

นัยยะว่าฝ่ายหนึ่งเปนทหาร urban อีกฝ่ายเปน country เกิดเป็นการตั้งคำถามกันขึ้นเวลาผู้บริหารในรัฐบาลจะแต่งตั้งใครขึ้นดำรงตำแหน่งสำคัญๆ ในกองทัพจะต้องถามกันว่าคนไหนกำเนิดมาเปนบูรพาพยัคฆ์คนไหนกำเนิดมาสายวงศ์เทวัญ ได้ตำแหน่งแล้วจะคุมกันอยู่ไหม จะทะเลาะกันรึเปล่า ฯลฯ

กลับมาที่กรณีวงศ์เทวาในนิทานเรื่องอิเหนา ก็จะกล่าวถึงว่าต้นวงศ์เทวาที่เล่ามาแต่ต้นเรื่อง โดยท่านคอยควบคุมดูแลสไตล์ชีวิตของลูกหลานใกล้ชิด มีชื่อว่า องค์ปะตาระกาหลา (ซึ่งท่านขึ้นชั้นฟ้าเป็นระดับเทวดามานานแล้ว) ท่านต้องการจะลงโทษอิเหนา ที่เอาแต่ใจตัดรอนโครงสร้างอำนาจที่ท่านถักทอไว้ ท่านจึงมาลักรูปที่นางบุษบารูปที่สองที่แต่งกายทรงเครื่องไปทิ้งไว้ในป่า แล้วแปลงกายเป็นกวางทองมาล่อเพื่อบันดาลให้วิหยาสะกำได้พบรูปนั้น จนเกิดเหตุบ้านวิหยาฯส่งสาส์นมาขอแต่งกับบุษบาแล้วถูกปฏิเสธ

ฝ่ายเมืองของวิหยาสะกำทราบข่าวน่าผิดหวังดังนั้น ก็อึดอัดใจเป็นอันมากว่ามันเรื่องอะไรกันยกลูกสาวซึ่งสวยงามขนาดนั้นไปให้กับผู้มีชาติตระกูลด้อยกว่าแถมยังอัปลักษณ์ ใช้ อะไรคิด?

ฝ่ายของเราดีกว่าเยอะชอบธรรมทั้งด้วยรูปลักษณ์และเหตุผลลำดับศักดิ์ชั้นสูง (ไม่สนใจเรื่องใครมาก่อนมาหลัง55) จึงตัดสินใจทำศึกชิงนาง ก็คือนางบุษบานี่แหละ โดยการแต่งทัพนั้น ท่านบิดากระหมังกุหนิงตั้งให้วิหยาสะกำเป็นแม่ทัพหน้า บุกตีเขตอำนาจราชธานีของพ่อบุษบาได้เมืองบุหราหงันและเมืองอื่นๆ รายทางไปจนประชิดถึงกรุงดาหาเมืองหลวง

ซึ่งท่านท้าวดาหาก็ต้องแสวงหาความช่วยเหลือจากบรรดาวงศ์เทวัญด้วยกัน มารบยันศึกศัตรู ครอบครัวของบ้านอิเหนาได้ทราบข่าวก็ขัดไม่ได้ จำเป็นที่จะต้องส่งกองทัพมาช่วย

ในการศึกครั้งนี้ วิหยาสะกำซึ่งเป็นคนเก่งเรื่องการใช้ทวนต่อสู้ ต้องมาปะทะกับขุนพลเอกอายุน้อยอีกคนหนึ่งของอิเหนา ชื่อสังคามาระตา (สังคา คือคำว่า “สังขะ” หอยสังข์อันเป็นของสูงฝ่ายพราหมณ์ ส่วน “มาระตา” หมายถึง “ผู้มีกำลัง”)

ข้างฝ่ายจรกาไม่มีโอกาสแสดงฝีมือในการรบเพราะยกทัพไปไม่ทัน ทัพอิเหนารบชนะท้าวกะหมังกุหนิงเสียก่อนโดยวิหยาสะกำแพ้พ่ายได้เสียชีวิตลง ความงามของวิหยาสะกำทำให้อิเหนา ซึ่งแม้จะเป็นศัตรูก็ยังรำพึงว่า

 

“หนุ่มน้อยโสภาน่าเสียดาย

ควรจะนับว่าชายโฉมยง

ทนต์แดงดังแสงทับทิม

เพริศพริ้มเพรารับกับขนง

เกศาปลายงอนงามทรง

เอวองค์สารพัดไม่ขัดตา

กระนี้หรือบิดามิพิศวาส

จนพินาศด้วยโอรสา..”

 

มาถึงบรรทัดนี้ก็ต้องแวะพักเพื่ออนุสรณ์คำนึงถึงว่า การที่ว่าคณะท่านนายกรัฐมนตรีจะมีแนวทางในการส่งเสริมซอฟพาวเวอร์เป็นสินค้าสร้างรายได้ให้กับประเทศชาติเพิ่มเติมนั้น มันยังมีจุดสำคัญอีกจุดหนึ่งที่เกิดเป็นกระแสไปทั่วโลกก็คือการที่โลกส่วนหนึ่งให้การยอมรับความรักของคนเพศเดียวกัน และประเทศไทยเองก็ผ่านกฎหมายการสมรสเพศเดียวกันภายใต้หลักการความเท่าเทียมมาแล้ว ก็ควรจะฉวยใช้โอกาสจังหวะนี้ ดึงเอาเรื่องประโลมโลกย์ ออกมาจากวรรณคดีไทยไปใช้ในประเด็นดังกล่าวให้เกิดประโยชน์

 

อิเหนาเป็นเอง

 

ฝ่ายญี่ปุ่นเขาเดินหน้าแล้วใช้คำว่า yaoi สาวสาวทั้งไทยเทศชอบดูชอบอ่านละคร yaoi เรียกย่อว่า สาว y เมื่อเห็นฉากความตายของวิหยาสะกำที่เป็นคนรูปงามถูกชื่นชมโดยคนหล่อขั้นเทพอย่างอิเหนา เขาก็มีอิเมจิ้นเนชั่น_จิ้น และยินดีที่จะจ่ายสตางค์เพื่อเสพเนื้อหาและคอนเทนท์ดังกล่าว อันนี้อย่าได้ดูเบาไป มิใช่มีแต่ตลาดของฝ่ายชายที่ชื่นชอบชายเท่านั้น ในวรรณคดีอิเหนานี้มีการปรากฏของลักษณะการ yaoi ดังกล่าวอีกมาก

เช่น กรณีของสังคามาระตาแม่ทัพน้อยของอิเหนา ที่กล่าวถึงข้างต้น ซึ่งเปนน้องชายของแฟนอิเหนาคนที่ชื่อมาหยารัศมี โดยเบื้องแรก อิเหนารับเอามาเป็นเสมือนพระอนุชา ไว้รับใช้ใกล้ตัว อยู่มาวันหนึ่งอิเหนาเกิดคิดถึงแฟน แต่แฟนไม่อยู่ สังคามาระตานั้นมีรูปร่างหน้าตาสวยสะอรชรเหมือนมาหยารัศมีผู้พี่สาว ทำให้อิเหนาหักห้ามใจแทบไม่ไหว

 

‘พิศดูรูปทรงส่งศรี เหมือนมาหยารัศมีไม่เพี้ยนผิด

พระเชยปรางพลางอุ้มขึ้นจุมพิต ฤทัยคิดสำคัญว่ากัลยา

เอวองค์อรชรอ้อนแอ้น เหมือนแม้นพี่นางเป็นหนักหนา

พิศทรงขนงเนตรอนุชา ละม้ายเหมือนนัยนานางเทวี

ชมพลางพิศวงหลงโลม นึกว่าโฉมมาหยารัศมี

สัพยอกแย้มสรวลชวนพาที จนเข้าที่บรรทมหลับไปฯ’

 

นี่! ฉากนี้เขาต้องพากัน อิมเมจิ้น!ได้ยอดไลค์ยอดแชร์มหาศาล ซึ่งไม่เพียงแต่สังคามาระตาแม่ทัพน้อยเท่านั้น ชายหนุ่มอีกคนที่เข้าฉากกับอิเหนา คือ “สียะตรา” พระอนุชาของ “บุษบา” โดยสียะตราคอยช่วยเหลืออิเหนาต่างๆ จนทำให้อิเหนาสนิทสนมกับสียะตรามาก เมื่ออิเหนายังไม่ได้บุษบามาชื่นเชย อิเหนาจึงเข้าหาสียะตราไปพลางก่อน_นั่น!

 

‘เมื่อนั้นระเด่นมนตรีเกษมศานต์ กอดประทับรับขวัญพระกุมารแสนสำราญภิรมย์ชมเชย

พาไปให้บรรทมบนแท่นทอง เอนแอบแนบประองเคียงเขนย

เสสรวลชวนพลอดกอดก่ายเกย พระชื่นเชยชมต่างนางบุษบา

ครั้นพระกุมารหลับสนิท พระโอบอุ้มจุมพิตขนิษฐา

โลมเล้าลูบไล้ไปมา สำคัญว่าบุษบานารี

พระกอดจูบลูบไล้เกี่ยวพัน จนบรรทมหลับสนิทไป’

 

ส่วนอีตอนที่อิเหนาเขาแต่งทัพ แล้วไม่มีเพศสตรีผู้หญิงเข้าไปอยู่ในวงส่วนหน้า สียะตราก็ไม่อยู่ ตกค่ำ อิเหนาก็เรียกหาสังคามาระตามาแทน !

 

‘…พระจึงชวนสังคามาระตา เข้าที่ไสยาพิสมัย

บรรทมบนแท่นแก้วแววไว สองกษัตริย์ชาญชัยก็นิทราฯ

เวลาเงียบสงัดกำดัดดึก พระรู้สึกขึ้นแล้วก็คว้าหา

ประสบองค์สังคามาระตาพระราชาอุ้มสะพักใส่ตักไว้

กรเกี่ยวเกลียวกลมชมเชยตามเคยทุกวันไม่สงสัย

พลางพลอดกอดจูบลูบไล้ มิได้ลืมเนตรขึ้นแลดู’

 

มันก็มีเยอะแยะไปในส่วนวัตถุดิบทำ soft power จากวรรณคดีไทยๆ

บรรทัดนี้เราก็มาดูผลงานศิลปะทั้งภาพวาดภาพเขียน ของศิลปินรุ่นใหม่กันดูบ้าง โอ วิภาส ตันเจริญ สำเร็จปริญญาจากมหาวิทยาลัยศิลปากร ทำคะแนนการเรียนได้ดีเยี่ยม รับพระราชทานรางวัลทุนภูมิพล เป็นผู้หลงใหลในงานวรรณคดีของไทยอีกคนหนึ่ง ซึ่งมิได้แต่เพียงอ่านโดยซาบซึ้งเอาเรื่อง แต่ยังทำแต่ยังทำงานวิจัยเป็นศิลปะนิพนธ์โดยถอดรหัส ความลึกซึ้งในเรื่องอิเหนาออกมา เป็นโครงการวิจัยขนาดย่อมชื่อว่าสัมมามนุษย์

เขียนภาพขนาดใหญ่ ใช้เทคนิค สีฝุ่นบนพื้นดินสอพองกาวเมล็ดมะขาม ปิดทองคำเปลว ดำเนินเนื้อความตั้งแต่อิเหนาลานางจินตหรา มาหยารัศมี สะการวาตี จนลงสรงทรงเครื่อง จัดทัพมารับศึกท้าวกระหมังกุหนิง อีกรูปเขียนภาพ “อิเหนารำบวงสรวงท้าวปะตาระกาหลา” ให้รายละเอียดสอดคล้องต้องตามที่ปรากฏในวรรณคดีอย่างน่าเหลือเชื่อ ท่านผู้ใหญ่ที่นิยมภาพงามตามแบบประเพณีน่าจะเริ่มสนใจงานของวิภาส บ้าง

ในเวลาเดียวกันองค์ความรู้ที่เขาศึกษาเรื่องอิเหนาอย่างลึกซึ้งอาจจะแปลงเป็นธุรกิจจากซอฟพาวเวอร์ขึ้นมาได้อีกแขนงหนึ่งคือการจัดทริปจัดทัวร์เชิงศิลปะให้เขาพาไปเกาะชวาเพื่อตามรอยวรรณคดีสำคัญเรื่องนี้ ให้มันมีความสนุกสนานกันไปสักสามวันสี่คืน แล้วแวะเยี่ยมสักการะมหาเจดีย์บุโรพุทโธกันระหว่างทาง จึงค่อยเลยไปต่อเกาะบาหลี ก็น่าสนใจไม่เลวเลย