ในช่วงหลายปีหลัง จีนสามารถสร้างความตื่นตะลึงด้วยนวัตกรรมล้ำสมัยมาอย่างต่อเนื่องในหลายรูปแบบ ทั้งพาหนะใต้น้ำ บนผิวน้ำ พื้นดิน อากาศ และ อวกาศ เราอาจตื่นเต้นกับเรือสำรวจใต้ท้องทะเลลึก (Deep-Sea Submarine) รถไฟความเร็วสูง (High-Speed Train) รถไฟแม่เหล็กไฟฟ้า (Maglev) และ รถไฟฟ้า (Electric Vehicle) สารพัดยี่ห้อและรุ่น
ผ่านไปไม่นาน จีนก็นำร่องการใช้ “รถไร้คนขับ” (Driverless Vehicle) หลากรูปแบบในเชิงพาณิชย์
ทั้งนี้ ขณะที่โลกกำลังวุ่นวายกับการจัดการวิกฤติโควิด จีนก็เปิดนำร่องให้หัวเมืองใหญ่ได้เริ่มใช้ “แท๊กซี่ไร้คนขับ” (Driverless Taxi) และขยายไปเป็นราว 30 หัวเมืองของจีนในปัจจุบัน
นอกจากนี้ จีนยังสร้างสีสันในงาน Auto Shanghai 2025 ที่จัดขึ้นในช่วงปลายเดือนเมษายน ต่อต้นเดือนพฤษภาคม ที่ผ่านมาด้วยการนำเสนอ “รถบินได้” (Flying Car) ที่สามารถเรียกความสนใจจากผู้เยี่ยมชมงานแสดงสินค้าดังกล่าวได้เป็นอย่างมาก
คู่ขนานไปกับการเติบใหญ่ของ “ยานยนต์อัจฉริยะ” (Smart Vehicle) จีนก็เดินหน้าพัฒนา “โดรน” (Drone) หรือ “อากาศยานไร้คนขับ” (Unmanned Aerial Vehicle)
ทั้งสองส่วนต่างอยู่ในลิสต์ 10 อุตสาหกรรมเป้าหมายภายใต้นโยบาย “Made in China 2025” และคาดว่า จะเป็นอุตสาหกรรมเป้าหมายภายใต้นโยบาย “New Quality Productive Forces” ที่จะเข้ามายกระดับภาคการผลิตของจีน สู่อุตสาหกรรมแห่งโลกอนาคตในช่วงปี 2026-2035
ประการสำคัญ เมื่อหลายวันก่อน ขณะให้สัมภาษณ์เกี่ยวกับเรื่องการพัฒนาพื้นที่ชนบทของจีน พี่สมยศ แช่มช้อย พิธีกรอาวุโสของสถานีวิทยุ 96.5 คลื่นความคิด ก็เหลือบไปเห็นข่าวนวัตกรรมโดรนที่เผยโฉมในงาน Drone World Congress ครั้งที่ 9 ที่เมืองเซินเจิ้น ศูนย์กลาง Greater Bay Area ผมเห็นว่า พัฒนาการของโดรนจะสร้างประโยชน์ในวงกว้าง เลยอยากชวนคุยเรื่องนี้กัน ...
อย่างที่ทุกท่านทราบกันดี ภาครัฐนับว่า มีบทบาทยิ่งต่อการพัฒนาอุตสาหกรรมของประเทศ โดยจีนสนับสนุนส่งเสริมอุตสาหกรรมโดรนผ่านการกำหนดนโยบาย Made in China 2025 และกำหนดไว้ในแผนพัฒนา 5 ปี ฉบับที่ 14 (2021-2025) ผ่านคำกว้างๆ ที่ครอบคลุมว่า “เศรษฐกิจระดับความสูงต่ำ” (Low-Altitude Economy)
จีนตระหนักดีว่า โดรนจะก่อประโยชน์ต่อการพัฒนาอุตสาหกรรมลอจิสติกส์ เราจึงเห็นการออกมาตรการส่งเสริมและการผ่อนคลายกฎระเบียบการใช้โดรนในเชิงพาณิชย์ การตอบสนองเหตุฉุกเฉิน ความมั่นคง และอื่นๆ
เราจึงเห็นอุตสาหกรรมโดรนของจีนเติบโตอย่างรวดเร็ว ในช่วงทศวรรษที่ผ่านมา ทําให้จีนเป็นผู้นําโลกทั้งในด้านการผลิต และนวัตกรรมโดรนสําหรับผู้บริโภคและเชิงพาณิชย์ในหลากหลายด้าน
ในภาพใหญ่ การเปลี่ยนพาหนะการขนส่งดังกล่าว ช่วยลดเวลาและต้นทุนค่าใช้จ่ายในการดำเนินงาน ข้อมูลจากการวิจัยในปี 2024 ของ McKinsey & Co. บริษัทที่ปรึกษาด้านธุรกิจระดับโลก ระบุว่า การใช้โดรนช่วยลดการใช้เชื้อเพลิง ค่าจ้างแรงงาน และอื่นๆ ในการจัดส่งระยะสุดท้าย (Last-Mile Delivery) ได้ถึง 30-50% เมื่อเทียบกับพาหนะแบบดั้งเดิม
ขณะเดียวกัน โดรนก็ขยายการเข้าถึงและประสิทธิภาพในการให้บริการ รวมทั้งยังอำนวยความสะดวกสำหรับการขนส่งสินค้า ไปยังจุดที่มีอุปสรรคทางภูมิศาสตร์และเข้าถึงยาก อาทิ เกาะ ภูเขา และหมู่บ้านห่างไกล
ยกตัวอย่างเช่น การใช้เวลาเพียง 4 นาที ในการจัดส่งสินค้าไปยังเหลาซานต่าว (Laoshandao) เกาะเล็กๆ ในทะเลสาบเฉาฮู่ (Chaohu) มณฑลอานฮุย เทียบกับราวเกือบ 2 ชั่วโมงหากใช้เรือข้ามฟาก โดยโดรนสามารถรับน้ำหนักได้ถึง 9 กิโลกรัมต่อครั้ง
ขณะที่ยักษ์ใหญ่ด้านการค้าออนไลน์อย่าง JD.com และ Alibaba โดย JD Logistics ได้ทดสอบเครือข่ายการจัดส่งด้วยโดรน ในหลายพื้นที่ อาทิ มณฑลเจียงซู ส่านซี และ เสฉวน ซึ่งผลปรากฎว่า สามารถลดเวลาในการจัดส่งสินค้าในพื้นที่ชนบทได้ถึง 70%
แม้กระทั่งในชุมชนเมืองที่มีปัญหาด้านการจราจร หรือ สภาพอากาศที่ไม่เอื้ออำนวย โดรนก็สามารถเป็นทางเลือกในการขนส่งที่ดี รวดเร็ว และน่าเชื่อถือ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในสถานการณ์ที่ต้องแข่งกับเวลา เช่น การรักษาพยาบาล บริการสาธารณะ และในช่วงที่เกิดเหตุฉุกเฉิน
นี่อาจเป็นเหตุผลว่า ทำไมเราเห็นเมืองใหญ่ของจีน ต่างกำหนดนโยบายและมาตรการส่งเสริมลอจิสติกส์ด้วยโดรนกันอย่างแข็งขัน ส่งผลให้หลายหัวเมืองของจีน ได้เปิดตัวบริการจัดส่งด้วยโดรนมากมายในปี 2024
ยกตัวอย่างเช่น นครเหอเฝย เมืองเอกของมณฑลอานฮุย ได้เปิดตัว “เส้นทางธรรมชาติ” ทางอากาศในการขนส่งเลือดด้วยโดรนระหว่างศูนย์บริจาค-โรงพยาบาล-ศูนย์โลหิตของมณฑลอานฮุย
ขณะที่ Antwork Technology สตาร์ตอัพด้านลอจิสติกส์โดรนในนครหางโจว เมืองเอกของมณฑลเจ้อเจียง ได้ขยายบริการขนส่งไปยัง 40 เมือง และให้บริการจัดส่งทางการแพทย์ฉุกเฉินมากกว่า 2,500 ครั้งในปีดังกล่าว
นับแต่ได้รับใบอนุญาตในการขนส่งด้วยโดรน นับแต่ปี 2019 บริษัทฯ เปิดให้บริการส่งมอบวัคซีน และเวชภัณฑ์ทางการแพทย์ ซึ่งสร้างประโยชน์อย่างมากในช่วงวิกฤติโควิด และอำนวยความสะดวกในการปลูกถ่ายอวัยวะในพื้นที่ชนบท ที่ลดการใช้บุคลากร เวลา และค่าใช้จ่ายในการขนส่ง รวมทั้งยังช่วยลดช่องว่างด้านการรักษาสุขภาพ
นอกจากนี้ บริษัทฯ ยังสร้างสรรค์บริการจัดส่งอุปกรณ์ช่วยชีวิต อาทิ เครื่องกระตุ้นหัวใจอัตโนมัติ สำหรับการแข่งขันวิ่งมาราธอนและอื่นๆ
ประการสำคัญ โดรนยังถูกใช้ในการบรรเทาภัยพิบัติ เช่น น้ำท่วม แผ่นดินไหว และอื่นๆ มาอย่างต่อเนื่อง
ทั้งนี้ ในปีที่ผ่านมา รัฐบาลปักกิ่งยังได้เปิดตัวบริการจัดส่งด้วยโดรนในบริเวณด่านปาต้าหลิ่ง (Badaling) ของกำแพงเมืองจีน ช่วยให้นักท่องเที่ยวที่ติดค้างอยู่บนภูเขาได้รับน้ำดื่มและเสบียงฉุกเฉินภายในไม่กี่นาที ซึ่งสามารถเพิ่มประสบการณ์เชิงบวกแก่นักท่องเที่ยว และช่วยลดต้นทุนแรงงานในการแบกขนสินค้าไปได้มาก
แม้กระทั่งการตรวจสอบโครงสร้างพื้นฐานและสิ่งอำนวยความสะดวกในยุคหลัง ก็ใช้โดรนเข้ามาช่วย อาทิ โดรนตรวจสอบสายไฟ ท่อ และการก่อสร้าง ซึ่งช่วยผ่อนแรง ประหยัดเวลา และค่าใช้จ่ายที่เกี่ยวข้องได้มาก
นอกจากนี้ กิจการจำนวนมากในหลายอุตสาหกรรม ต่างก็กำลังได้รับประโยชน์จากการใช้โดรน เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพของห่วงโซ่อุปทานและห่วงโซ่แห่งคุณค่า
อุตสาหกรรมใดได้รับประโยชน์จากบริการลอจิสติกส์ด้วยโดรนอีกบ้าง และเศรษฐกิจระดับความสูงต่ำของจีนในภาพย่อยจะเติบใหญ่อย่าง “ก้าวกระโดด” มากน้อยเพียงใด และเกิดนวัตกรรมโดรนอะไรกันบ้าง ติดตามตอนหน้าครับ ...