‘เหรียญ’ แรกของ WINTER OLYMPICS

24 ม.ค. 2565 | 09:10 น.

แบรนด์ สตอรีส์ กฤษณ์ ศิรประภาศิริ [email protected]

4 กุมภาพันธ์ หลังไหว้เทศกาลปีใหม่ เมืองจีนก็ได้เฉลิมฉลองอีกครั้งกับการเป็น “เจ้าภาพ” กีฬาโอลิมปิก ครั้งนี้เป็น WINTER OLYMPICS กีฬาฤดูหนาวที่ผู้คนในประเทศที่มี “หิมะ” ชื่นชอบ

 

ถือเป็น “ประวัติศาสตร์” ไม่ง่ายนักที่ประเทศหนึ่งจะได้เป็นเจ้าภาพทั้ง SUMMER OLYMPICS และ WINTER OLYMPICS

 

จีน ประเทศ “มหาอำนาจ” ที่เป็น “ยักษ์หลับ” ไปนาน ตื่นแล้ว ทำได้

 

ปีคศ. 2008 จีนได้แสดงผลงานการจัดการกับการเป็นเจ้าภาพ SUMMER OLYMPICS ได้อย่างสมบูรณ์แบบไม่มีที่ติ สนามกีฬาที่ได้ออกแบบและสร้างใหม่หลายสนาม ถือเป็นงานชิ้นเอกทางสถาปัตยกรรมของโลก

 

อันที่จริง จีนต้องการเป็นเจ้าภาพ SUMMER OLYMPICS ในปีคศ. 2000 เพราะ “เลขสวย” แต่คณะกรรมการโอลิมปิกสากล ซึ่งประกอบไปด้วยกรรมการ IOC ในประเทศต่างๆ ลงมติยกให้ ประเทศออสเตรเลีย ได้รับเกียรตินั้นไป

 

หลังการเป็นเจ้าภาพ SUMMER OLYMPICS ในปีคศ. 2008 จีนติดใจใน “ผลสำเร็จ” และต้องการใช้ “การกีฬา” ในการพัฒนาประเทศ (ญี่ปุ่นเคยทำได้ดีก่อนหน้านี้)

 

ในปีคศ. 2014 จีนดำเนินการขอเป็นเจ้าภาพ WINTER OLYMPICS ทั้งที่ความนิยมกีฬาฤดูหนาว และ “การเล่นสกี” ยังไม่แพร่หลายในประเทศที่ดูนิยมกีฬา “ในร่ม” มากกว่าอยู่ “กลางแจ้ง”

แบรนด์ สตอรีส์

การขอเป็น “เจ้าภาพ” ไม่ง่ายนัก

 

“ปักกิ่ง” โดนติงที่เมืองอาจไม่มี “หิมะ” เพียงพอ ด้วยฤดูกาลของจีนไม่น่าไว้วางใจว่า “หิมะ” จะตกต้องตามฤดูกาลในหน้าหนาว

 

กีฬาฤดูหนาวที่ไร้ซึ่ง “หิมะ” น่าจะเหมือนจัดแข่งเรือในแม่น้ำที่แห้งเหือด ไม่น่าจะมีอรรถรส

 

ถ้าจะแก้ปัญหาขาด “หิมะ” ธรรมชาติ อาศัย “น้ำแข็งประดิษฐ์” ขนส่งไปยังสนามแข่งขัน ซึ่งเป็นป่าไม้ทึบภูเขาสูง ค่าใช้จ่ายคงแพงมหาศาล ที่สำคัญอาจเกิดปัญหา “สิ่งแวดล้อม” ตามมา

 

อีก “ปัญหา” ที่คณะกรรมการติงไว้ คือ เพลงโปรโมตการแข่งขัน WINTER OLYMPICS 2022 ชื่อเพลง “THE SNOW AND ICE DANCE” ที่ขับร้องโดย SUN NAN และ TAN JING ไปคล้ายกับเพลง “LET IT GO” เพลงเอกในภาพยนตร์ดัง FROZEN ของดิสนีย์ที่ผู้คนทั่วโลกรู้จักดีและชื่นชอบ

 

เพลงของจีนเรียกได้ว่า ลอกเลียนทุกอิริยาบถ ตั้งแต่เครื่องเล่นเอก เปียโน ท่วงทำนอง เนื้อร้อง ฯลฯ

 

ในประเทศที่พัฒนา เรื่องนี้เขาถือกันมาก

 

แม้จะมี “อุปสรรค” แต่คณะกรรมการโอลิมปิกสากลก็ตัดสินใจมอบการเป็นเจ้าภาพ WINTER OLYMPICS 2022 ให้กับ “ปักกิ่ง” และ “จางเจียโขว่” ร่วมกัน (เมืองสำคัญของมณฑลเหอเป่ย์ ทางภาคเหนือของจีน”

 

เรื่องนี้ตัดสินกันในปีคศ. 2014 แปดปีที่แล้ว โดยหลังรู้ผลการเป็นเจ้าภาพ เกิดการประท้วงจากชนกลุ่มน้อยในจีนตามมาเป็นลำดับ

 

เริ่มตั้งแต่ ชาวธิเบต ชาวอุยกูร์ ฮ่องกง เรียกร้องไปถึงขั้นให้ BOYCOTT กีฬาโอลิมปิกฤดูหนาวปี 2022 ที่ “ปักกิ่ง” เป็นเจ้าภาพ เรียกร้องให้สถานีโทรทัศน์ใหญ่ๆ ของโลกหยุดการถ่ายทอดหรือแพร่ภาพข่าว ฯลฯ

 

ก่อนการแข่งขันซึ่งจะเริ่มขึ้นในอีกไม่กี่วัน สหรัฐก็เป็นตัวตั้งตัวตีในการ BOYCOTT โดยเป็น DIPLOMATIC BOYCOTT เข้าร่วมการแข่งขัน แต่จะไม่มีการส่ง “เจ้าหน้าที่ระดับสูง” ไปร่วมด้วย ประเทศบริวารที่เข้ามาร่วมงานประท้วงนี้ก็มี แคนาดา สหราชอาณาจักร ออสเตรเลีย

 

ชนกลุ่มน้อยที่คัดค้านหนักแต่แรกถึงกับไม่ให้มีการจัดการแข่งขัน เกิด “คิดใหม่ ทำใหม่” OK GO AHEAD “ปักกิ่ง” จัดไป แข่งไป แต่หวังว่า “นักกีฬา” จะมี “น้ำใจ” แสดงให้โลกปรากฏถึงพิษความร้ายแรงของการละเมิดสิทธิมนุษยชน การฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ เหมือนอย่างที่ “นักกีฬา” ได้ทำสำเร็จมาแล้วกับ BLACK LIVES MATTER (อย่ารังแก “คนผิวดำ” “คนผิวสี”)

 

เมื่อปีพ.ศ. 2451 นิตยสาร TRANJIN YOUTH ของจีน ได้ตั้งคำถามว่า “จีนจะได้เป็นเจ้าภาพโอลิมปิก เมื่อไร”

 

“ยักษ์” มหาอำนาจ ตนนี้ “หลับ” ลึกยาวนาน

 

จีนได้เป็นเจ้าภาพ SUMMER OLYMPIC ในปีพ.ศ. 2551 อีก 100 ปีต่อมา

 

“WINTER DREAM” กำลังจะเริ่มอย่างเป็นทางการ

 

ประธานาธิบดี สี จิ้น ผิง ผู้มีวิสัยทัศน์ต้องการใช้ “การกีฬา” สร้างชาติโดยเฉพาะกีฬาฤดูหนาวที่ชาวจีนไม่ค่อยสนใจ “ท่านผู้นำ” ต้องการกระตุ้นให้ชาวจีน 1.3 พันล้านคนสนใจกีฬาฤดูหนาวและต่างชาติมี “จีน” เป็นจุดหมายสำหรับการเล่นสกี

 

“ท่านผู้นำ” ได้แสดงวาทะสำคัญ “รากฐานของการสร้างมหาอำนาจด้านกีฬา คือ การทำให้กีฬามีความแพร่หลาย”

 

“โอลิมปิกฤดูหนาว 2022” จะเป็น “กลไก” ขับเคลื่อนการพัฒนาร่วมกันของ “ปักกิ่ง เทียนจิน และเหอเป่ย์”

 

“ฉงหลี่” อำเภอในเมืองจางเจียโขว่ เคยเป็นอำเภอที่ยากจนมาก แต่ตอนนี้ถูกพัฒนาเป็น “แดนสวรรค์” ของนักสกี NEW YORK TIMES ยกย่อง “ฉงหลี่” ให้เป็น 1 ใน 52 จุดหมายปลายทางที่ “นักสกี” ห้ามพลาด

 

THOMAS BACH ประธาน IOC ถึงกับยกย่องให้ “เหรียญทอง” แก่ประธานาธิบดี สี จิ้น ผิง เป็น “แชมป์ตัวจริง” เพราะ “ท่าน” มีวิสัยทัศน์ชัดเจน เห็นความสำคัญของกีฬาที่มีต่อ “สังคม” ต่อการศึกษาของ “เด็ก” และ “เยาวชน”

 

น่าจะดูเป็น “ตัวอย่าง” นะ “ท่านผู้นำ” บางประเทศที่ถนัดกับงาน “เต้น จี้ ลั่น สั่ง กำชับ” (นะจ๊ะ)

 

หน้า 15 หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 41 ฉบับที่ 3,750 วันที่ 20 - 22 มกราคม พ.ศ. 2565