สหรัฐฯ สกัดเรือบรรทุกน้ำมันนอกชายฝั่งเวเนซุเอลา หลัง 'ทรัมป์' ประกาศ การปิดล้อม

คริสตี โนเอม รัฐมนตรีว่าการกระทรวงความมั่นคงแห่งมาตุภูมิของสหรัฐฯ ยืนยันว่า สหรัฐฯ ได้สกัดกั้นเรือบรรทุกน้ำมันลำหนึ่งนอกชายฝั่งเวเนซุเอลาในน่านน้ำสากล ซึ่งการเคลื่อนไหวนี้เกิดขึ้นเพียงไม่กี่วันหลังจากที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ประกาศ "การปิดล้อม" เรือบรรทุกน้ำมันที่ถูกคว่ำบาตรทั้งหมดที่เข้าและออกจากเวเนซุเอลา

นี่เป็นครั้งที่สองในรอบไม่กี่สัปดาห์ที่สหรัฐฯ ไล่ล่าเรือบรรทุกน้ำมันใกล้กับเวเนซุเอลา ท่ามกลางการระดมกำลังทหารครั้งใหญ่ของสหรัฐฯ ในภูมิภาคนี้

โนเอมยืนยันว่าหน่วยยามฝั่งสกัดกั้นเรือบรรทุกน้ำมันลำหนึ่งซึ่งจอดเทียบท่าครั้งสุดท้ายอยู่ที่เวเนซุเอลา

“สหรัฐอเมริกาจะยังคงดำเนินการติดตามการเคลื่อนย้ายน้ำมันที่ถูกคว่ำบาตรอย่างผิดกฎหมาย ซึ่งถูกนำไปใช้เป็นทุนสนับสนุนการก่อการร้ายยาเสพติดในภูมิภาคนี้” เธอกล่าวในแถลงการณ์ที่โพสต์ลงโซเชียลมีเดีย “เราจะตามหาคุณให้เจอ และเราจะหยุดคุณให้ได้”

ก่อนหน้านี้ในวันเสาร์ เจ้าหน้าที่สหรัฐฯ 3 คนได้แจ้งกับสำนักข่าวรอยเตอร์ว่า เรือลำดังกล่าวถูกสกัดกั้นแล้วหน่วยยามฝั่งและกระทรวงกลาโหมได้ส่งต่อคำถามไปยังทำเนียบขาว

แอนนา เคลลี โฆษกทำเนียบขาวกล่าวว่า เรือบรรทุกน้ำมันลำดังกล่าวบรรทุกน้ำมันที่อยู่ภายใต้มาตรการคว่ำบาตร

"เรือลำนั้นติดธงปลอมและปฏิบัติการเป็นส่วนหนึ่งของกองเรือลับของเวเนซุเอลาเพื่อลักลอบขนน้ำมันที่ถูกขโมยมาและนำเงินไปสนับสนุนระบอบมาดูโรซึ่งเป็นผู้ก่อการร้ายยาเสพติด" เธอเขียนไว้ใน Xกระทรวงน้ำมันของเวเนซุเอลาและบริษัทน้ำมันของรัฐ PDVSA ยังไม่ตอบคำขอความคิดเห็นในทันทีรัฐบาลเวเนซุเอลาเรียกการสกัดกั้นเรือบรรทุกน้ำมันครั้งนี้ว่า "เป็นการกระทำที่ร้ายแรงของการโจรสลัดระหว่างประเทศ"

 

แถลงการณ์ระบุว่า "เวเนซุเอลาขอประณามและปฏิเสธการโจรกรรมและการยึดเรือบรรทุกน้ำมันส่วนตัวลำใหม่ รวมถึงการบังคับให้ลูกเรือหายตัวไป ซึ่งกระทำโดยเจ้าหน้าที่ทหารของสหรัฐอเมริกาในน่านน้ำสากล"

การากัสกล่าวว่า การกระทำดังกล่าวจะถูกรายงานไปยังคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ องค์กรพหุภาคีอื่น ๆ และรัฐบาลต่าง ๆบริษัทแวนการ์ด ซึ่งเป็นบริษัทบริหารความเสี่ยงทางทะเลของอังกฤษ กล่าวว่า เชื่อว่าเรือลำดังกล่าวคือเรือเซนทูรีส์ ซึ่งจดทะเบียนในปานามา และถูกสกัดกั้นทางตะวันออกของบาร์เบโดสในทะเลแคริบเบียน

เจเรมี พาเนอร์ หุ้นส่วนของบริษัทกฎหมายฮิวส์ ฮับบาร์ด ในกรุงวอชิงตัน ดี.ซี. และอดีตผู้ตรวจสอบของ OFAC กล่าวว่า เรือลำดังกล่าวไม่ได้รับการคว่ำบาตรจากสหรัฐฯ

 

"การยึดเรือที่ไม่ถูกสหรัฐฯ คว่ำบาตร ถือเป็นการเพิ่มแรงกดดันของทรัมป์ต่อเวเนซุเอลาอีกขั้น" พาเนอร์กล่าว "นอกจากนี้ยังขัดแย้งกับคำแถลงของทรัมป์ที่ว่าสหรัฐฯ จะปิดล้อมเรือบรรทุกน้ำมันที่ถูกคว่ำบาตรทั้งหมด"

 

 

ทั้งนี้เมื่อวันอังคารที่ผ่านมา ทรัมป์กล่าวว่าเขาได้สั่งการให้ "ปิดล้อมเรือบรรทุกน้ำมันที่ถูกคว่ำบาตรทั้งหมดที่เข้าและออกจากเวเนซุเอลาอย่างเบ็ดเสร็จและสมบูรณ์"

นับตั้งแต่กองกำลังสหรัฐฯ ยึดเรือบรรทุกน้ำมันที่ถูกคว่ำบาตรนอกชายฝั่งเวเนซุเอลาเมื่อสัปดาห์ที่แล้วการคว่ำบาตรก็มีผลบังคับใช้จริง โดยเรือบรรทุกน้ำมันหลายล้านบาร์เรลต่างจอดอยู่ในน่านน้ำเวเนซุเอลาแทนที่จะเสี่ยงต่อการถูกยึด

นับตั้งแต่การยึดครั้งแรก การส่งออกน้ำมันดิบของเวเนซุเอลาลดลงอย่างมาก

ในขณะที่เรือหลายลำที่ขนส่งน้ำมันในเวเนซุเอลาอยู่ภายใต้มาตรการคว่ำบาตร แต่เรือลำอื่นๆ ที่ขนส่งน้ำมันของประเทศและน้ำมันดิบจากอิหร่านและรัสเซียกลับไม่ถูกคว่ำบาตร และบางบริษัท โดยเฉพาะเชฟรอน (CVX.N)ของสหรัฐฯเปิดแท็บใหม่ขนส่งน้ำมันจากเวเนซุเอลาด้วยเรือที่ได้รับอนุญาตของตนเอง

จีนเป็นผู้ซื้อน้ำมันดิบจากเวเนซุเอลา มากที่สุด โดยคิดเป็นประมาณ 4% ของการนำเข้าทั้งหมด และนักวิเคราะห์ระบุว่า การขนส่งในเดือนธันวาคมคาดว่าจะเฉลี่ยมากกว่า 600,000 บาร์เรลต่อวัน

ในขณะนี้ ตลาดน้ำมันมีปริมาณน้ำมันเพียงพอ และมีน้ำมันหลายล้านบาร์เรลอยู่บนเรือบรรทุกน้ำมันนอกชายฝั่งประเทศจีนรอการขนถ่าย หากการคว่ำบาตรยังคงดำเนินต่อไปอีกระยะหนึ่ง การสูญเสียปริมาณน้ำมันดิบเกือบหนึ่งล้านบาร์เรลต่อวันก็มีแนวโน้มที่จะผลักดันราคาน้ำมันให้สูงขึ้น

นับตั้งแต่สหรัฐฯ ประกาศมาตรการคว่ำบาตรด้านพลังงานต่อเวเนซุเอลาในปี 2019 ผู้ค้าและโรงกลั่นที่ซื้อน้ำมันจากเวเนซุเอลาจึงหันไปใช้ "กองเรือลับ" ของเรือบรรทุกน้ำมันที่ปกปิดที่ตั้ง และเรือที่ถูกคว่ำบาตรเนื่องจากขนส่งน้ำมันจากอิหร่านหรือรัสเซีย

นักวิเคราะห์ด้านการขนส่งทางทะเลกล่าวว่า กองเรือลับหรือกองเรือแฝงอาจถูกสหรัฐฯ ลงโทษได้เรือเซนทูรีส์ ซึ่งบรรทุกน้ำมันในเวเนซุเอลาโดยใช้ชื่อปลอมว่า "แคร็ก" และเป็นส่วนหนึ่งของกองเรือลับ กำลังขนส่งน้ำมันดิบเมเรย์ของเวเนซุเอลาประมาณ 1.8 ล้านบาร์เรลไปยังประเทศจีน ตามเอกสารภายในจากบริษัทน้ำมันแห่งรัฐ PDVSA ซึ่งเป็นผู้ขายน้ำมัน

แหล่งข่าวจากบริษัทและภาพถ่ายดาวเทียมที่ TankerTrackers.com ได้รับมา ระบุว่า เรือลำดังกล่าวออกจากน่านน้ำเวเนซุเอลาเมื่อวันพุธ หลังจากถูกกองทัพเรือเวเนซุเอลาคุ้มกันเป็นเวลาสั้นๆ

เอกสารระบุว่า น้ำมันดิบดังกล่าวถูกซื้อโดยบริษัท Satau Tijana Oil Trading ซึ่งเป็นหนึ่งในตัวกลางหลายรายที่เกี่ยวข้องกับการขายน้ำมันของ PDVSA ให้กับโรงกลั่นอิสระของจีน

ข้อมูลจาก TankerTrackers.com ระบุว่า ณ สัปดาห์นี้ จากเรือบรรทุกน้ำมันกว่า 70 ลำในน่านน้ำเวเนซุเอลาที่เป็นส่วนหนึ่งของกองเรือลับ มีประมาณ 38 ลำที่อยู่ภายใต้มาตรการคว่ำบาตรของกระทรวงการคลังสหรัฐฯ และในจำนวนนั้นอย่างน้อย 15 ลำบรรทุกน้ำมันดิบและเชื้อเพลิง

การกดดันของทรัมป์ต่อประธานาธิบดีนิโคลัส มาดูโร แห่งเวเนซุเอลา รวมถึงการเพิ่มกำลังทหารในภูมิภาค และการโจมตีทางทะเลมากกว่า 24 ครั้งต่อเรือในมหาสมุทรแปซิฟิกและทะเลแคริบเบียนใกล้กับเวเนซุเอลา ซึ่งส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 100 คนโดยทรัมป์ยังกล่าวอีกว่า การโจมตีทางบกของสหรัฐฯ ต่อประเทศในอเมริกาใต้จะเริ่มขึ้นในเร็วๆ นี้

ด้านมาดูโร ประธานาธิบดีเวเนซุเอลากล่าวหาว่าการเสริมกำลังทางทหารของสหรัฐฯ มีเป้าหมายเพื่อโค่นล้มเขาและเข้าควบคุมทรัพยากรน้ำมันของประเทศสมาชิกโอเปก ซึ่งเป็นแหล่งสำรองน้ำมันดิบที่ใหญ่ที่สุดในโลก