ประเทศไทย ถึงคราวต้องยกเครื่องใหญ่รับมือ'ภัยพิบัติ'

20 ธ.ค. 2568 | 02:45 น.
อัปเดตล่าสุด :20 ธ.ค. 2568 | 02:56 น.

ประเทศไทย ถึงคราวต้องยกเครื่องใหญ่รับมือภัยพิบัติ นอกจากแผ่นดินไหว มหาอุทกภัย รากฏการณ์ลานีญา ทวีความรุนแรงขึ้นทุกปี

KEY

POINTS

  • สาเหตุหลักของปัญหาน้ำท่วมเกิดจากปัจจัยทางธรรมชาติ เช่น ปรากฏการณ์ลานีญา ประกอบกับการเปลี่ยนแปลงโครงสร้างและผังเมืองที่ขวางเส้นทางน้ำตามธรรมชาติ
  • ปัญหาน้ำท่วมส่งผลกระทบเป็นวงกว้างในหลายภูมิภาคทั่วประเทศ ตั้งแต่น้ำท่วมซ้ำซากในภาคกลาง น้ำป่าในภาคเหนือ ไปจนถึงน้ำท่วมฉับพลันในภาคใต้
  • ประชาชนในพื้นที่เสี่ยงจำเป็นต้องปรับตัวและรูปแบบที่อยู่อาศัย เช่น การสร้างบ้านสองชั้น หรือยกปลั๊กไฟให้สูงขึ้น เพื่อลดความเสียหายเมื่อเกิดอุทกภัย
  • การแก้ปัญหาในระยะยาวต้องอาศัยความร่วมมือระหว่างหน่วยงานภาครัฐและท้องถิ่นในการปรับปรุงโครงสร้างพื้นฐานเพื่อสร้างทางระบายน้ำชดเชย

นอกจากแผ่นดินไหวที่มองข้ามไม่ได้ ประเทศไทยกับปัญหาน้ำท่วมเป็นอะไรที่อยู่คู่กันมานาน ทั้งจากปัญหาเรื่องของสภาพอากาศที่เปลี่ยนแปลงไป หรือปรากฏการณ์ทางธรรมชาติบางอย่าง เช่น ปรากฏการณ์ลานีญา (La Niña) ที่จะทำให้ประเทศไทยมีปริมาณฝนที่มากขึ้นโดยเฉพาะในภาคเหนือ อีสาน ภาคกลาง และภาคใต้ของประเทศไทย ซึ่งเข้ามามีอิทธิพลในประเทศไทยตั้งแต่ปี 2567

พื้นที่หลายๆ ส่วนของหลายจังหวัดมีการเปลี่ยนแปลงเชิงโครงสร้าง และกายภาพ เพราะการพัฒนาระบบโครงสร้างพื้นฐาน หรือการเปลี่ยนแปลงของผังเมือง การก่อสร้างหมู่บ้านจัดสรรหรือโครงการอสังหาริมทรัพย์ที่อาจจะมีการถมพื้นที่ขึ้นมาสูงจากที่ผ่านมาทำให้เส้นทางน้ำไหลตามธรรมชาติลดน้อยลงไป และไม่มีการสร้างหรือเตรียมทางน้ำไหลใหม่ๆ ที่หายไป

ดังนั้น เมื่อเกิดปัญหาฝนตกหนักในพื้นที่ต่อเนื่องยาวนานการระบายน้ำในพื้นที่จึงไม่มีประสิทธิภาพเพียงพอนากรระบายน้ำ และทำให้เกิดปัญหาน้ำท่วมขังในพื้นที่ได้ทันทีแบบที่เห็นในปีนี้ (2568)

บางพื้นที่ประสบปัญหานี้กันมายาวนานมากกว่า 20 - 30 ปี คนในพื้นที่รับรู้และหาทางรับมือรวมไปถึงปรับรูปแบบการใช้ชีวิตกันได้แล้ว เพราะมีปัญหาน้ำท่วมเกือบทุกปีระดับน้ำสูงหรือต่ำแค่นั้นในแต่ละปี ซึ่งอาจจะเกิดจากปัญหาฝนตกต่อเนื่องยาวนาน และมีผลให้ระดับน้ำในแม่น้ำบางสาย เช่น แม่น้ำยม แม่น้ำเจ้าพระยา สูงขึ้นกว่าปกติแล้วเข้าท่วมพื้นที่ริมฝั่งแม่น้ำ หรือพื้นที่ตามคลองหรือลำน้ำที่แยกออกจากแม่น้ำ

น้ำท่วมหาดใหญ่

ทั้งสอง โดยพื้นที่ที่อาจจะได้รับผลกระทบ เช่น  จังหวัดสุโขทัย พิษณุโลก พระนครศรีอยุธยา, อ่างทอง, สิงห์บุรี จังหวัดเหล่านี้อาจจะเจอปัญหาน้ำท่วมเกือบทุกปีโดยเฉพาะในพื้นที่ริมแม่น้ำลำคลองพื้นที่, และบางพื้นที่ในจังหวัดปทุมธานี และ นครปฐมที่อาจจะเกิดจากน้ำล้นตลิ่งบ้าง กรุงเทพมหานครและปริมณฑลอาจจะไม่ได้เจอปัญหานี้มากนักเมื่อเทียบกับจังหวัดที่กล่าวไปแล้ว แต่ก็ควรระวังด้วยเช่นกัน

จังหวัดริมแม่น้ำโขง และแม่น้ำที่เชื่อมต่อกับแม่น้ำโขงบางสายก็สร้างปัญหาน้ำท่วมได้เช่นกัน แต่อาจจะไม่มากนักและมีบางจังหวัดที่เคยได้รับผลกระทบจากปัญหานี้มาก่อน เช่น จังหวัดหนองคาย, บึงกาฬ, นครพนม, มุกดาหาร และบางอำเภอของจังหวัดอุบลราชธานี และร้อยเอ็ดซึ่งทางภาคอีสาน

เมื่อเกิดปัญหาน้ำท่วมอาจจะใช้เวลาในการแก้ปัญหา หรือระบายน้ำออกที่นานเพราะเป็นพื้นที่ราบต่ำ หรือในบางพื้นที่ที่จะมีปัญหาน้ำท่วมเมื่อเกิดฝนตกหนักและต่อเนื่องยาวนานทำให้เกิดปัญหาน้ำป่าและดินโคลนถล่มซึ่งจะเกิดปัญหาในบางจังหวัดทางภาคเหนือ หรือจังหวัดที่อยู่ในพื้นที่ที่มีภูเขาสูง เช่น บางจังหวัดในภาคเหนือ

ภาคใต้เป็นอีกพื้นที่ที่มีความเสี่ยงในเรื่องของน้ำท่วม ซึ่งปัญหาน้ำท่วมภาคใต้อาจจะแตกต่างจากภาคอื่นๆ นอกเหนือจากช่วงเวลาที่แตกต่างกันแล้ว เพราะฤดูฝนของภาคใต้จะอยู่ช่วงปลายปี ถ้าปีไหนเกิดฝนตกหนักและต่อเนื่อยาวนานก็จะเกิดปัญหาน้ำท่วมได้ แต่น้ำไม่ได้ท่วมขังนานเมื่อเทียบกับภาคอื่นๆ ของประเทศไทย แต่เมื่อเกิดน้ำท่วมขึ้นมาในภาคใจ้ระดับน้ำจะขึ้นสูงมากอีกทั้งกระแสน้ำค่อนข้างแรง เพราะน้ำไหลจากที่สูงลงที่ต่ำ จังหวัดที่มีปัญหาน้ำท่วมในภาคใต้ เช่น จังหวัดนครศรีธรรมราช, พัทลุง, สงขลา (โดยเฉพาะในอำเภอซึ่งเป็นพื้นที่เศรษฐกิจ และเมืองท่องเที่ยวของจังหวัด), ปัตตานี, ยะลา และนราธิวาส หรืออาจจะกล่าวได้ว่าทุกจังหวัด แม้แต่จังหวัดที่เป็นเกาะอย่างภูเก็ตก็ยังมีปัญหาน้ำท่วมเช่นกัน

ปัญหาน้ำท่วมที่ผ่านมาโดยเฉพาะในภาคเหนือ กลาง และใต้ จะเห็นได้ชัดเจนเลยว่าบ้านหรือที่อยู่อาศัยที่เป็นที่อยู่อาศัย 1 ชั้น ประสบปัญหาหนักมาก ไม่ว่าระดับน้ำจะสูงมากหรือน้อย ที่อยู่อาศัย 1 ชั้น ที่จะประสบปัญหาน้ำท่วมทันที และถ้าระดับน้ำท่วมสูงเกินกว่าจะใช้ชีวิตในบ้านได้ยิ่งสร้างปัญหาในการอยู่อาศัยมากขึ้นไปอีก

ดังนั้น ในพื้นที่ที่มีปัญหาน้ำท่วมซ้ำซาก หรือพื้นที่ที่มีปัญหาน้ำท่วมระดับสูงในทุกๆ 5 ปี 10 ปีอาจจะต้องเลี่ยงบ้านแบบ 1 ชั้นเพื่อบรรเทาปัญหาเมื่อเกิดภาวะน้ำท่วมสูงไม่ว่าจะท่วมขังนานหรือในระยะเวลาสั้นๆ ก็ตาม เพราะเมื่อเกิดน้ำท่วมแล้วปัญหาที่ตามมายังมีอีกมากโดยเฉพาะเมื่อน้ำลดลงแล้ว เช่น ปัญหาดินโคลนในพื้นที่บ้าน การซ่อมแซมบ้าน เครื่องใช้ไฟฟ้า ยานพาหนะต่างๆ รวมไปถึงระบบไฟฟ้า น้ำประปาด้วย

พื้นที่ที่ได้รับผลกระทบจากปัญหาน้ำท่วม เมื่อระดับน้ำลดลงสิ่งที่จะเกิดตามมาหลังจากนั้น คือ เรื่องการฟื้นฟูพื้นที่และสภาพจิตใจของคนที่ประสบปัญหาทันที การทำความสะอาดบ้าน เฟอร์นิเจอร์ ข้าวของเครื่องใช้ต่างๆ จากนั้นก็เป็นการซ่อมแซมส่วนที่ชำรุดเสียหาย วัสดุก่อสร้างในพื้นที่จะขายดีและอาจจะราคาสูงขึ้น เนื่องจากความต้องการสูง สินค้าบางอย่างขาดตลาดและการขนส่งเข้ามาในพื้นที่อาจจะยังไม่สะดวกทำให้ราคาสูงขึ้นทันที การเปลี่ยนแปลงของบ้านเรือนที่อยู่ในพื้นที่ถ้าเปลี่ยนบ้านเป็นแบบ 2 ชั้นไม่ได้ก็อาจจะต้องปรับเปลี่ยนระดับของสวิทช์ไฟ ปลั๊กไฟ ภายในบ้านให้อยู่สูงขึ้นกว่าที่ผ่านมา น้ำอาจจะไม่ท่วมถึง หรือถ้าท่วมถึงก็อาจจะไม่ทุกรายไป

วัสดุบางอย่างในบ้านอาจจะเปลี่ยนเป็นแบบที่ทนน้ำ หรือสามารถยกไปไหนมาไหนได้สะดวกเพื่อที่จะลดการสูญเสียหรือค่าใช้จ่ายในการซ่อมแซม ควรมีการเตรียมความพร้อมในเรื่องของการเสริมความสูงของเฟอร์นิเจอร์ หรือเครื่องใช้ไฟฟ้าขนาดใหญ่ ช่วงเวลาปกติอาจจะใช้ชีวิตแบบปกติ แต่เมื่อถึงฤดูฝนต้องเตรียมพร้อมในการปรับเปลี่ยนรูปแบบการใช้งานได้ทันที

เพื่อหลีกเลี่ยงการสูญเสียให้ได้มากที่สุด หรือถ้ามีคนป่วยผู้สูงอายุ เด็กเล็กอาจจะต้องเตรียมคิดหาทางออกหรือการรับมือในกรณีที่ระดับน้ำสูงด้วย การซื้อประกันภัยก็เป็นอีก 1 ทางเลือกที่น่าสนใจ แต่ไม่รู้ว่าพื้นที่ที่เพิ่งประสบปัญหาน้ำท่วมหรือมีปัญหาน้ำท่วมซ้ำซากจะมีปัญหาในการซื้อประกันภัยนอกจากนี้ ปัญหาที่อาจจะตามมาในอนาคตสำหรับพื้นที่ที่เคยประสบปัญหาน้ำท่วมไม่ว่าจะเป็นการท่วมซ้ำซากหรือนานๆ ปีมีปัญหาสักครั้งก็ตาม คือ การขายต่อ หรือการพัฒนาโครงการที่อยู่อาศัยเพื่อขาย

ที่อยู่อาศัยเก่าก็อาจจะได้รับความสนใจลดลงโครงการใหม่ๆ ที่อาจจะถมพื้นที่ให้สูงขึ้นแต่สุดท้ายแล้วก็อาจจะเจอปัญหาน้ำท่วมแบบที่เห็นในหลายจังหวัดปัจจุบัน เพราะการถมที่ดินอาจจะอ้างอิงจากระดับน้ำท่วมสูงสุดในอดีตเท่านั้นไม่สามารถคาดการณ์ถึงระดับน้ำในอนาคตได้

สุดท้ายแล้ว การร่วมมือกันของหน่วยงานระดับประเทศ และหน่วยงานท้องถิ่นเพื่อเฝ้าระวังเรื่องของอุทกภัยน่าจะเป็นทางออกที่ดีที่สุด อาจจะไม่สามารถแก้ปัญหาน้ำท่วมได้ แต่อาจจะลดการสูญเสียหรือลดปัญหาลง รวมไปถึงการสร้างทางระบายน้ำชดเชย ไม่ว่าจะเป็นคลอง ทางระบายน้ำ หรือการปรับเปลี่ยนถนน ทางรถไฟ เพื่อให้ไม่ขวางเส้นทางการระบายน้ำเมื่อเกิดปัญหาฝนตกต่อเนื่องยาวนานแบบที่ผ่านมา

 

วิเคราะห์ หน้า 8 หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ฉบับที่ 4,159 วันที่ 21 - 24 ธันวาคม พ.ศ. 2568

น้ำท่วมใหญ่