กรมที่ดินชี้แจงรถไฟทางคู่ บ้านไผ่–มุกดาหาร–นครพนม เร่งแก้ปัญหาเอกสารสิทธิ

21 ธ.ค. 2568 | 00:52 น.
อัปเดตล่าสุด :21 ธ.ค. 2568 | 01:01 น.

กรมที่ดินชี้แจงกรณี โครงการรถไฟทางคู่ 'บ้านไผ่–มุกดาหาร–นครพนม' เร่งแก้ปัญหาเอกสารสิทธิ ยืนยันเดินหน้าอย่างต่อเนื่อง

KEY

POINTS

  • กรมที่ดินชี้แจงว่าได้ดำเนินการรังวัดและจัดทำเอกสารสิทธิ (ร.ว.9) ในส่วนที่รับผิดชอบเสร็จสิ้นแล้ว และไม่ได้เป็นสาเหตุของความล่าช้าในโครงการ
  • ความล่าช้าที่เกิดขึ้นมีสาเหตุมาจากขั้นตอนการเวนคืนที่ดินประเภทพิเศษของรัฐ เช่น ที่ดินป่าไม้ ส.ป.ก. และอุทยานแห่งชาติ ซึ่งต้องผ่านกระบวนการทางกฎหมายจากหลายหน่วยงาน
  • การรถไฟฯ และผู้รับเหมาเกิดความเข้าใจคลาดเคลื่อนเกี่ยวกับขอบเขตความรับผิดชอบ โดยเข้าใจว่ากรมที่ดินดูแลกระบวนการเวนคืนทั้งหมด ทั้งที่จริงแล้วเกี่ยวข้องเฉพาะการออกเอกสารสิทธิเท่านั้น

 

ตามที่สื่อมวลชนได้นำเสนอข่าวกรณีรถไฟทางคู่บ้านไผ่-นครพนม 5.5 หมื่นล้าน สะดุด เวนคืนที่ดินดีเลย์ นั้นกรมที่ดิน ได้ตรวจสอบข้อเท็จจริงในเบื้องต้นแล้ว ขอชี้แจงว่า โครงการก่อสร้างรถไฟทางคู่สายใหม่ ช่วงบ้านไผ่–มุกดาหาร–นครพนม ระยะทางประมาณ 355 กิโลเมตร วงเงินก่อสร้างกว่า 55,401 ล้านบาท ถือเป็นโครงสร้างพื้นฐานสำคัญในการเชื่อมโยง 6 จังหวัด ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ได้แก่ ขอนแก่น มหาสารคาม ร้อยเอ็ด ยโสธร มุกดาหาร และนครพนม เพื่อยกระดับระบบคมนาคมและเศรษฐกิจของภูมิภาค

 

 

อย่างไรก็ตาม ตลอดแนวเส้นทางโครงการมีแปลงที่ดินที่ต้องเวนคืนมากกว่า 8,760 แปลง ส่งผลให้เกิดประเด็น ด้านการรังวัด การออกเอกสารสิทธิ และการจัดกรรมสิทธิ์ที่ดิน โดยเฉพาะเอกสาร ร.ว.9 และ ส.ร.5 ซึ่งในบางช่วงมีความล่าช้าและพบข้อมูลคลาดเคลื่อน ทำให้เกิดความเข้าใจคลาดเคลื่อนในสังคมว่าโครงการอาจติดขัดจากการดำเนินงานของกรมที่ดินซึ่งกรณีดังกล่าวกรมที่ดินได้ประสานแก้ปัญหาอย่างใกล้ชิด

ข้อเท็จจริงปรากฏว่า การรังวัดเวนคืนได้ดำเนินการโดย               

กรมที่ดินชี้แจง

โดยการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) ร่วมกับสำนักงานที่ดินในพื้นที่รวม 5 สำนักงาน โดยบางแห่งดำเนินการรังวัดเอง 100% และบางแห่งเป็นการรังวัดร่วมกัน ซึ่งผลการรังวัดโดยรวมสามารถดำเนินการได้ครบถ้วนไม่มีปัญหาในการจัดทำและส่งเอกสาร ร.ว.9 แต่อย่างใด และกรมที่ดินได้ปิดงานในส่วนที่รับผิดชอบแล้ว พร้อมส่งคืนงบประมาณที่เหลือทั้งหมดให้แก่การรถไฟฯตั้งแต่ต้นปีงบประมาณ 2568 โดยหากมีการดำเนินงานเพิ่มเติม เจ้าของที่ดินจะต้องยื่นคำขอรายแปลงต่อสำนักงานที่ดินในพื้นที่ ตามขั้นตอน

สำหรับประเด็นการประชุมติดตามงานกับทีมรังวัดของสำนักมาตรฐานและส่งเสริมการรังวัดที่ถูกกล่าวอ้างว่า เป็นการหารือเพื่อแก้ปัญหาความล่าช้าในการออกเอกสารสิทธินั้น ข้อเท็จจริงคือการประชุมดังกล่าวจัดขึ้นโดยสำนักงาน ป.ป.ท. เมื่อวันที่ 23 เมษายน 2568

เพื่อหารือภาพรวมความก้าวหน้าโครงการ ซึ่งไม่ได้มีการกล่าวถึงหรือกล่าวโทษว่ากรมที่ดินส่งเอกสารล่าช้า   แต่อย่างใด ความล่าช้าเกิดจากขั้นตอนเวนคืนพื้นที่พิเศษ โดยสาเหตุของความล่าช้าในบางช่วง เกิดจากกระบวนการเวนคืนที่ดินของรัฐในเขตป่าไม้ ส.ป.ก. อุทยานแห่งชาติ และพื้นที่หนังสือสำคัญสำหรับที่หลวง ซึ่งต้องดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมายหลายหน่วยงาน

ขณะที่เจ้าหน้าที่การรถไฟและผู้รับเหมาไม่ได้ติดตามหรือประสานงานในส่วนนี้อย่างต่อเนื่อง โดยเข้าใจคลาดเคลื่อนว่าเป็นหน้าที่ของกรมที่ดินทั้งหมด ทั้งที่กรมที่ดินเกี่ยวข้องเฉพาะขั้นตอนด้านเอกสารสิทธิเท่านั้น

กรมที่ดินชี้แจง โครงการรถไฟทางคู่