สื่อนอกจับตาไทยยุบสภา เปิดทางเลือกตั้ง ท่ามกลางแรงกดดันการเมือง–เศรษฐกิจ

12 ธ.ค. 2568 | 01:12 น.
อัปเดตล่าสุด :12 ธ.ค. 2568 | 01:25 น.

สื่อต่างประเทศจับตา 'อนุทิน' ประกาศยุบสภา คืนอำนาจให้ประชาชน หลังรัฐบาลไม่สามารถเดินหน้าต่อในรัฐสภา เปิดทางจัดการเลือกตั้งภายใน 45–60 วัน ท่ามกลางแรงกดดันจากสถานการณ์การเมือง เหตุปะทะตามแนวชายแดนไทย–กัมพูชา เศรษฐกิจที่เผชิญหนี้ครัวเรือนสูง การบริโภคซบเซา ผลกระทบจากภาษีของสหรัฐ

KEY

POINTS

  • สื่อต่างประเทศจับตารัฐบาลไทยประกาศยุบสภาเพื่อเปิดทางให้มีการเลือกตั้งก่อนกำหนด ซึ่งต้องจัดขึ้นภายใน 45-60 วัน
  • สาเหตุหลักมาจากการที่รัฐบาลเป็นเสียงข้างน้อยและเกิดความขัดแย้งทางการเมืองกับพรรคฝ่ายค้าน ทำให้ไม่สามารถบริหารประเทศได้อย่างมีเสถียรภาพ
  • การตัดสินใจยุบสภาเกิดขึ้นท่ามกลางแรงกดดันหลายด้าน ทั้งปัญหาเศรษฐกิจ หนี้ครัวเรือนสูง และสถานการณ์ความขัดแย้งบริเวณชายแดนกับกัมพูชา

สำนักข่าวรอยเตอร์เเละสำนักข่าวอัลจาซีรา เกาะติดความเคลื่อนไหวทางการเมืองของประเทศไทยหลัง นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีของไทย ประกาศคืนอำนาจให้ประชาชน พร้อมยุบสภา เพื่อเปิดทางให้มีการเลือกตั้งก่อนกำหนด ซึ่งเร็วกว่ากรอบเวลาที่วางไว้ก่อนหน้านี้

รายงานระบุว่า นายอนุทิน ได้นำความกราบบังคมทูลฯ ว่า รัฐบาลเป็นรัฐบาลเสียงข้างน้อย ประกอบกับสถานการณ์ทางการเมืองภายในประเทศที่มีปัญหารุมเร้าในหลาย ๆ ด้าน ส่งผลให้รัฐบาลไม่อาจบริหารราชการแผ่นดินได้อย่างต่อเนื่อง มีประสิทธิภาพ และมีเสถียรภาพหากปล่อยให้สภาวการณ์เป็นอยู่เช่นนี้ย่อมจะเกิดความไม่มั่นคงทางการเมืองและกระทบต่อความเชื่อมั่นของนานาประเทศ ตามประกาศในราชกิจจานุเบกษาอย่างเป็นทางการ ส่งผลให้การเลือกตั้งก่อนกำหนดสามารถเดินหน้าได้ ซึ่งตามกฎหมายจะต้องจัดขึ้นภายใน 45 ถึง 60 วัน

นายสิริพงศ์ อังคสกุลเกียรติ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยกับสำนักข่าวรอยเตอร์ว่า การตัดสินใจยุบสภาเกิดขึ้นหลังจากความขัดแย้งกับพรรคประชาชน พรรคฝ่ายค้าน ซึ่งเป็นกลุ่มการเมืองที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในสภานิติบัญญัติ

เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นเพราะไม่สามารถเดินหน้าต่อในรัฐสภาได้ ภาวะทางตันทางนิติบัญญัติได้ทำให้วาระการทำงานของรัฐบาลไม่สามารถขับเคลื่อนได้

ด้านนายณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ หัวหน้าพรรคประชาชน แสดงความเห็นในทิศทางเดียวกัน โดยกล่าวว่าพรรคภูมิใจไทยไม่ปฏิบัติตามเงื่อนไขที่ตกลงกันไว้ และระบุว่า พรรคฝ่ายค้านได้พยายามใช้เสียงในสภาเพื่อผลักดันการแก้ไขรัฐธรรมนูญ

รายงานยังระบุว่า ความร้าวฉานทางการเมืองดังกล่าวเกิดขึ้นในช่วงที่ประเทศไทยเผชิญการสู้รบอย่างหนักต่อเนื่องเป็นวันที่ 4 กับกัมพูชาตามแนวชายแดน โดยมีรายงานผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 20 คนในทั้งสองประเทศ และผู้บาดเจ็บเกือบ 200 คน จากการปะทะในมากกว่าสิบจุด ซึ่งเกี่ยวข้องกับการยิงปืนใหญ่และการโจมตีทางอากาศ

 

 

สื่อยังรายงานว่า นับตั้งแต่เดือนสิงหาคม 2023 และเผชิญความท้าทายในการรักษาเสถียรภาพของเศรษฐกิจไทย ซึ่งถูกกดดันจากระดับหนี้ครัวเรือนที่สูง การบริโภคภายในประเทศที่ซบเซา และแรงกดดันจากมาตรการภาษีของสหรัฐ ความไม่แน่นอนทางการเมืองได้เพิ่มภาระต่อเศรษฐกิจไทย ซึ่งเป็นเศรษฐกิจขนาดใหญ่อันดับ 2 ของเอเชียตะวันออกเฉียงใต้

ก่อนหน้านี้ นายอนุทินเคยระบุว่า มีแผนจะยุบสภาภายในสิ้นเดือนมกราคม และจัดการเลือกตั้งในเดือนมีนาคมหรือต้นเดือนเมษายน แต่การตัดสินใจครั้งนี้ได้เร่งกรอบเวลาดังกล่าวให้เร็วขึ้น

การขึ้นสู่อำนาจของนายอนุทินเกิดขึ้นหลังจากพรรคภูมิใจไทยถอนตัวออกจากรัฐบาลผสม และทำข้อตกลงใหม่กับพรรคประชาชน ซึ่งเรียกร้องเงื่อนไขหลายประการ รวมถึงการจัดประชามติว่าด้วยการแก้ไขรัฐธรรมนูญ เพื่อแลกกับการสนับสนุน