KEY
POINTS
ราชกิจจานุเบกษา ได้เผยแพร่ พระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ พระราชกฤษฎีกา ยุบสภาผู้แทนราษฎร พ.ศ. ๒๕๖๘ ซึ่งลงวันที่ ๑๑ ธันวาคม พ.ศ. ๒๕๖๘ โดยพระราชกฤษฎีกานี้ได้อาศัยอำนาจตามความในมาตรา ๑๐๓ และมาตรา ๑๗๘ ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย
เนื้อหาในพระราชกฤษฎีกาชี้แจงถึงเหตุผลในการยุบสภาว่า พระบาทสมเด็จพระปรเมนทรรามาธิบดีศรีสินทรมหาวชิราลงกรณ พระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ ให้ประกาศว่า
ด้วยนายกรัฐมนตรีได้นำความกราบบังคมทูลฯ ว่า ตามที่รัฐบาลได้เข้ารับหน้าที่ในการบริหาร ราชการแผ่นดิน ตั้งแต่เดือนกันยายน พ.ศ. 2568 โดยเป็นรัฐบาลเสียงข้างน้อย ซึ่งประกอบด้วย พรรคการเมืองหลายพรรคเข้ามาร่วมจัดตั้งรัฐบาล แต่มิได้มีเสียงข้างมากในสภาผู้แทนราษฎร ในระหว่างที่ประเทศได้เผชิญความท้าทายหลายประการเพราะความไม่แน่นอนรอบด้านทั้งทางเศรษฐกิจ สังคม การเมือง ความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ และภูมิรัฐศาสตร์ของโลก รวมทั้งสถานการณ์ความไม่สงบ บริเวณชายแดนไทย - กัมพูชา
แม้ว่ารัฐบาลได้เร่งดำเนินการจนสามารถแก้ไขปัญหาเร่งด่วนของประเทศ สร้างความมั่นคง สงบเรียบร้อย และสันติสุขให้เกิดขึ้นกับชาติบ้านเมือง รวมถึงนำการเมืองการปกครองของประเทศให้ก้าวหน้าเพื่อประโยชน์สุขของประชาชน เช่น การผลักดันการแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญ และการเร่งแก้ไขปัญหาเศรษฐกิ
แต่เพื่อการบริหารราชการแผ่นดินที่ต้องมีเสถียรภาพ รัฐบาลเห็นว่าจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องมี เสถียรภาพทางการเมือง และมีประสิทธิภาพ
ดังนั้น การยุบสภาผู้แทนราษฎรเพื่อให้มีการเลือกตั้งทั่วไป จึงเป็นการดำเนินการที่เหมาะสม เพื่อเป็นการคืนอำนาจการตัดสินใจทางการเมืองให้แก่ประชาชนเจ้าของอำนาจสูงสุด โดยเร็ว
ทั้งนี้ เพื่อให้การปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุขดำเนินไปได้อย่างต่อเนื่อง และเพื่อให้ได้มาซึ่งรัฐบาลที่มีเสถียรภาพและมีประสิทธิภาพที่ได้รับอาณัติชอบธรรมจากประชาชน
มาตรา 3 ของพระราชกฤษฎีกานี้ได้กำหนดให้ ยุบสภาผู้แทนราษฎรเพื่อให้มีการเลือกตั้งทั่วไป และมีผลใช้บังคับตั้งแต่วันประกาศในราชกิจจานุเบกษาเป็นต้นไป
ที่มา - ราชกิจจานุเบกษา