KEY
POINTS
เครื่องบินแอร์อินเดียตก กระตุ้นปัญหาโบอิ้งอีกครั้ง ตามฐานข้อมูลของ Aviation Safety Network นี่เป็นอุบัติเหตุเสียชีวิตครั้งแรกนับตั้งแต่เครื่องบินดรีมไลเนอร์ของโบอิ้งเริ่มให้บริการในปี 2009
อุบัติเหตุเครื่องบินโดยสารโบอิ้ง 787 ตกในอินเดียเพียงไม่กี่นาทีหลังจากเครื่องขึ้นบินเมื่อวันพฤหัสบดี ทำให้สายตาทั่วโลกหันกลับมาจับจ้องไปยังผู้ผลิตที่กำลังเผชิญปัญหาอย่างต่อเนื่อง แม้ในขณะนี้ยังไม่มีความชัดเจนว่าเหตุใดเครื่องบินจึงตก
ทางการระบุว่า เครื่องบินโบอิ้ง 787 ของสายการบินแอร์อินเดียตกในเมืองอาห์เมดาบาด ทางตะวันตกเฉียงเหนือของประเทศ โดยมีผู้โดยสารมากกว่า 240 คนอยู่บนเครื่องเพียงไม่นานหลังจากบินขึ้น นับเป็นอุบัติเหตุเสียชีวิตครั้งแรกนับตั้งแต่เครื่องบินรุ่นนี้ ซึ่งมีชื่อเรียกอีกชื่อหนึ่งว่า “ดรีมไลเนอร์” เริ่มให้บริการในปี 2009 ตามข้อมูลจาก Aviation Safety Network
ราคาหุ้นของโบอิ้งร่วงลงมากกว่า 4% ในการซื้อขายช่วงบ่ายของวัน
แบตเตอรี่ประเภทนี้มีน้ำหนักเบา ชาร์จได้เร็ว และเก็บพลังงานได้มากกว่าชนิดอื่น อย่างไรก็ตาม ในปี 2013 เครื่องบิน 787 ทั้งฝูงต้องถูกสั่งระงับการบินชั่วคราวเนื่องจากแบตเตอรี่ลิเทียมไอออนมีปัญหาความร้อนสูง ซึ่งในบางกรณีทำให้เกิดไฟไหม้
737 MAX
รุ่นแม็กซ์ของเครื่องบินโบอิ้ง 737 ซึ่งเป็นรุ่นขายดีที่สุดของบริษัท ได้สร้างปัญหาให้โบอิ้งอย่างต่อเนื่อง หลังจากเกิดอุบัติเหตุตกสองครั้ง โดยครั้งแรกเกิดขึ้นในอินโดนีเซียเมื่อปี 2018 และอีกครั้งในเอธิโอเปียในปี 2019 คร่าชีวิตรวม 346 ราย
สาเหตุของปัญหามาจากเซ็นเซอร์ที่ส่งข้อมูลผิดพลาดจนทำให้จมูกเครื่องบินกดต่ำลง ส่งผลให้นักบินไม่สามารถควบคุมเครื่องได้ หลังจากเหตุการณ์ตกครั้งที่สอง เครื่องบินแม็กซ์ทั่วโลกถูกสั่งระงับการบินจนกว่าโบอิ้งจะออกแบบระบบใหม่
เมื่อเดือนที่แล้ว กระทรวงยุติธรรมของสหรัฐฯ บรรลุข้อตกลงที่อนุญาตให้โบอิ้งหลีกเลี่ยงการถูกดำเนินคดีอาญาในข้อหาหลอกลวงหน่วยงานกำกับดูแลของสหรัฐฯ เกี่ยวกับเครื่องบินแม็กซ์ก่อนเกิดอุบัติเหตุทั้งสองครั้ง
ความกังวลเกี่ยวกับเครื่องบินรุ่นนี้กลับมาอีกครั้งหลังจากชิ้นส่วนปิดประตูหลุดออกจากเครื่องบินแม็กซ์ของสายการบินอลาสกาแอร์ไลน์ ส่งผลให้หน่วยงานกำกับดูแลจำกัดการผลิตของโบอิ้งไว้ที่ 38 ลำต่อเดือน
โบอิ้งรายงานผลขาดทุน 1.18 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐ ในปี 2024 ทำให้ยอดขาดทุนรวมของบริษัทนับตั้งแต่ปี 2019 สูงกว่า 3.5 หมื่นล้านดอลลาร์
ปัญหาทางการเงินของบริษัททวีความรุนแรงขึ้นจากการประท้วงหยุดงานของช่างเครื่องที่ทำการประกอบเครื่องบินในโรงงานที่เมืองเรนตันและเอเวอเรตต์ รัฐวอชิงตัน ซึ่งส่งผลให้การผลิตต้องหยุดชะงัก และความสามารถในการส่งมอบเครื่องบินของโบอิ้งได้รับผลกระทบ
ในช่วงสามเดือนแรกของปี 2025 โบอิ้งรายงานผลขาดทุนที่ลดลงเหลือ 31 ล้านดอลลาร์เมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา ซีอีโอ เคลลี่ ออร์ตเบิร์ก กล่าวว่า โบอิ้งมีความคืบหน้าในการทำให้การดำเนินงานมีเสถียรภาพมากขึ้นในไตรมาสดังกล่าว
คำสั่งซื้อและการส่งมอบ
การตรวจสอบอย่างเข้มงวดจากภาครัฐและการนัดหยุดงานของแรงงานส่งผลให้ยอดการส่งมอบเครื่องบินของโบอิ้งลดลงในปีที่แล้ว
โบอิ้งระบุว่า บริษัทส่งมอบเครื่องบินโดยสาร 348 ลำในปี 2024 ลดลงหนึ่งในสามจากปี 2023 ที่มียอดส่งมอบ 528 ลำ
โบอิ้งส่งมอบเครื่องบินพาณิชย์ให้กับลูกค้าได้น้อยกว่าคู่แข่งหลักอย่างแอร์บัสเกินครึ่ง โดยแอร์บัสรายงานว่าส่งมอบเครื่องบินพาณิชย์ 766 ลำในปี 2023
ปัญหาของโบอิ้งยังไม่ทำให้ลูกค้าสายการบินเลิกสนใจเครื่องบินของบริษัท โดยเมื่อเดือนที่แล้ว โบอิ้งสามารถคว้าคำสั่งซื้อครั้งใหญ่จากลูกค้าในตะวันออกกลางสองราย โดยดีลนี้รวมถึงคำสั่งซื้อเครื่องบิน 787 และ 777X มูลค่า 9.6 หมื่นล้านดอลลาร์ จากกาตาร์ ซึ่งโบอิ้งระบุว่า เป็นคำสั่งซื้อเครื่องบินรุ่น 787 และเครื่องบินลำตัวกว้างที่ใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์ของบริษัท