อิสราเอลประกาศภาวะสงคราม "ขั้นที่สอง" ส่งสัญญาณการรบรุนแรงยิ่งขึ้น 

29 ต.ค. 2566 | 23:16 น.

“เนทันยาฮู” นายกรัฐมนตรีอิสราเอล ประกาศเดินหน้าเข้าสู่สงครามขั้นที่สองกับกลุ่มฮามาส ขณะที่สถานการณ์ในฉนวนกาซากลายสภาพเป็นกลียุค โกดังเก็บอาหารและของใช้บรรเทาทุกข์ของยูเอ็นถูกประชาชนที่อดอยากปล้นสะดม ตัวประกันชาวไทยเพิ่มเป็น 22 คน

 

กองทัพอิสราเอล เดินหน้า ปฏิบัติการสงครามขั้นที่สอง กับ กลุ่มฮามาส โดย นายเบนจามิน เนทันยาฮู นายกรัฐมนตรีอิสราเอลได้ประกาศต่อประชาชนเมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมานี้ว่า ปฏิบัติการสงครามเพื่อกวาดล้างกลุ่มฮามาสได้เข้าสู่ขั้นที่สอง หรือ ช่วงที่สองแล้ว ซึ่งหมายถึงการยกระดับการโจมตีภาคพื้นและทางอากาศในภาคเหนือของฉนวนกาซา

"สงครามในฉนวนกาซาจะยาวนานและยากลำบาก และเราพร้อมสำหรับเรื่องนี้" นายเนทันยาฮูประกาศเมื่อวันเสาร์ (28 ต.ค.) พร้อมระบุว่า รัฐบาลอิสราเอลมีเป้าหมายที่จะทำลายขีดความสามารถทางการปกครองและทางการทหารของกลุ่มฮามาสในฉนวนกาซา และจะเร่งช่วยเหลือตัวประกันกว่า 200 คนที่ถูกจับตัวเอาไว้

นายเบนจามิน เนทันยาฮู นายกรัฐมนตรีอิสราเอลได้ประกาศยกระดับปฏิบัติการสงครามกับกลุ่มฮามาส

ทั้งนี้ รัฐบาลอิสราเอลได้ส่งกำลังพลบุกภาคพื้นดินเข้าเขตกาซาและขยายการโจมตีทั้งทางภาคพื้นดิน ทางทะเลเเละทางอากาศ “ต่อไปจะมีแต่การยกระดับเพิ่มขึ้น ก่อนที่จะมีการบุกขนานใหญ่และกว้างขวางนับจากนี้ไป” นายเนทันยาฮูประกาศออกสื่อ "มันจะเป็นปฏิบัติการที่ยากและยาวนาน แต่เราก็พร้อมเเล้ว"

สงครามในฉนวนกาซาจะยาวนานและยากลำบาก

สาธารณูปโภคพื้นฐานในฉนวนกาซาถูกทำลายย่อยยับ

ก่อนหน้านั้น หัวหน้าโฆษกกองทัพอิสราเอลเปิดเผยเมื่อวันศุกร์ว่า ได้ยกระดับการโจมตีทางอากาศและปฏิบัติการภาคพื้นดินในฉนวนกาซา ซึ่งพื้นที่ดังกล่าวเป็นเขตอยู่อาศัยของชาวปาเลสไตน์จำนวนราว 2.3 ล้านคน ขณะนี้พื้นที่ส่วนใหญ่ถูกตัดขาดจากบริการอินเตอร์เน็ตและโทรศัพท์มือถือ หลังจากที่ระบบพื้นสาธารณูปโภคพื้นฐานถูกกองทัพอิสราเอลโจมตีอย่างหนัก โดยเฉพาะการใช้เครื่องบินโจมตีทางอากาศ

พลเรือตรีเเดเนียล ฮาการิ กล่าวแถลงข่าวที่เผยเเพร่ทางโทรทัศน์ว่า การโจมตีทางอากาศของอิสราเอลพุ่งเป้าหมายการโจมตีไปที่อุโมงค์ใต้ดินของกลุ่มฮามาสและระบบสาธารณูปโภคพื้นฐานในกาซา เขายังกล่าวด้วยว่า กองกำลังภาคพื้นดินกำลังขยายปฏิบัติการนับตั้งแต่สุดสัปดาห์ที่ผ่านมา ซึ่งท่าทีดังกล่าวทำให้เกิดการคาดหมายว่า การบุกภาคพื้นดินของกองทัพอิสราเอลที่เคยถูกชะลอไว้ กำลังเริ่มต้นขึ้นแล้วหรือไม่

ผู้บาดเจ็บล้มตายส่วนใหญ่เป็นพลเรือนในกาซา ซึ่งรวมถึงเด็กๆ

อิสราเอลประกาศภาวะสงคราม \"ขั้นที่สอง\" ส่งสัญญาณการรบรุนแรงยิ่งขึ้น 

ปาเลสไตน์อดอยาก เริ่มปล้นอาหารและสิ่งจำเป็น

สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า องค์การสหประชาชาติ (ยูเอ็น) ได้ออกมาเตือนเมื่อวันอาทิตย์ (29 ต.ค.) ว่า สถานการณ์ในฉนวนกาซาเริ่มเข้าสู่ภาวะไร้กฎระเบียบการปกครองอย่างสิ้นเชิง หลังจากมีรายงานว่า กลุ่มชาวปาเลสไตน์จำนวนนับพันได้บุกปล้นสะดมโกดังเก็บสินค้าของยูเอ็น เพื่ออาหารและของจำเป็นต่อการดำรงชีวิต เช่นแป้งสำหรับทำอาหารและของใช้สำหรับทำความสะอาดท่ามกลางภาวะขาดแคลนอย่างหนัก

ทั้งนี้ สำนักงานช่วยเหลือผู้ลี้ภัยปาเลสไตน์ในตะวันออกใกล้แห่งสหประชาชาติ (UNRWA) ได้ออกแถลงการณ์ใจความว่า โกดังของยูเอ็นในเมือง เดียร์ อัล บาลาห์ ทางตอนกลางของฉนวนกาซา ที่ใช้เก็บสิ่งของที่ขบวนรถขนเสบียงเพื่อมนุษยธรรมขนเข้ามาจากประเทศอียิปต์เมื่อสัปดาห์ก่อน ได้ถูกบุกรุกและสิ่งของเหล่านั้นได้ถูกปล้นเอาไป

ขณะที่โครงการอาหารโลก (WFP) เปิดเผยว่า สิ่งของช่วยเหลือบรรเทาทุกข์ส่วนหนึ่งถูกขโมยไปเช่นกัน พร้อมเตือนว่า  “ความหิวโหย” ในหมู่ชาวปาเลสไตน์กำลังทวีมากขึ้น "นี่เป็นสัญญาณที่น่ากังวลว่า ระเบียบการปกครองในพื้นที่กาซากำลังพังทลาย” โธมัส ไวท์ ผู้อำนวยการขอ UNRWA ในกาซากล่าว และว่า หลังสงครามเปิดฉากและมีการปิดล้อมฉนวนกาซามายาวนานถึง 3 สัปดาห์ ผู้คนต่างตกอยู่ท่ามกลางความหวาดกลัว ท้อแท้ และหมดหวัง ชาวกาซาจำนวนหลายแสนจากภาคเหนือต้องอพยพลงใต้ตามคำเตือนของกองทัพอิสราเอล แต่การเคลื่อนย้ายของคนจำนวนมากเพื่อหนีภัยสงครามได้สร้างแรงกดดันอย่างหนักแก่ชุมชนชาวกาซาที่บริการสาธารณะทุกด้านใกล้ล่มสลายอยู่แล้ว พวกเขาไม่มีน้ำประปา ไฟฟ้า หรือแม้กระทั่งสัญญาณโทรศัพท์และถูกตัดขาดจากการติดต่อกับโลกภายนอก

นายจอห์น เคอร์บี โฆษกทำเนียบขาวฝ่ายความมั่นคง

สหรัฐหนุนหยุดยิงชั่วคราวเพื่อมนุษยธรรม

นายจอห์น เคอร์บี โฆษกทำเนียบขาว กล่าวว่าเขาได้เห็นรายงานหลายฉบับเกี่ยวกับการขยายปฏิบัติการภาคพื้นดินของอิสราเอลในกาซา แต่ไม่ขอออกความเห็นใดๆ อย่างไรก็ตาม เขากล่าวว่า สหรัฐอเมริกาสนับสนุนให้เกิดการหยุดโจมตีชั่วคราวเพื่อเปิดทางให้กับการลำเลียงสิ่งของยังชีพและบรรเทาทุกข์ รวมทั้งน้ำมันเพื่อการผลิตไฟฟ้าเข้าสู่ฉนวนกาซา “ถ้าการหยุดโจมตีชั่วคราว คือหนึ่งในเงื่อนไขของการปล่อยตัวประกันที่ฮามาสจับไว้ออกมาจากกาซ่าได้ สหรัฐก็สนับสนุนทางเลือกนั้นเช่นกัน”

สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า อิสราเอลเตรียมการมาตลอดสำหรับการบุกภาคพื้นดิน แต่สหรัฐและประเทศอาหรับ ได้ทัดทานไว้และขอร้องให้เลื่อนปฏิบัติการดังกล่าวออกไป เพราะเกรงว่าการกระทำเช่นนั้นอาจจะทำให้มีพลเรือนบาดเจ็บล้มตายมากขึ้น และอาจเป็นชนวนให้ความขัดเเย้งขยายวงกว้างออกไป

นอกจากนี้ การบุกภาคพื้นดินอาจยิ่งสร้างความยากลำบากให้กับการส่งมอบสิ่งของบรรเทาทุกข์ไปยังฉนวนกาซา ซึ่งกำลังเผชิญเกิดวิกฤตด้านความเป็นอยู่ของประชาชนในพื้นที่มากขึ้นเรื่อยๆ

กระทรวงสาธารณสุขปาเลสไตน์ในกาซาซึ่งอยู่ใต้การควบคุมของฮามาสเปิดเผยว่า การโจมตีทางอากาศของอิสราเอลได้ทำให้มีผู้เสียชีวิตชาวปาเลสไตน์ในกาซาไปแล้วกว่า 7,000 คน

อย่างไรก็ตาม อิสราเอลอ้างว่า การโจมตีของอิสราเอลนั้น เกิดขึ้นเพื่อเป็นการตอบโต้การที่กองกำลังติดอาวุธของฮามาสบุกถล่มโจมตีชุมชนของอิสราเอลใกล้ ๆ กับฉนวนกาซาเมื่อเช้าตรู่ของวันที่ 7 ต.ค.ที่ผ่านมา ซึ่งการโจมตีครั้งนั้นทำให้มีผู้เสียชีวิต 1,400 คนในส่วนของอิสราเอล และมีผู้ถูกฮามาสจับไปเป็นตัวประกันอีกกว่า 200 คนซึ่งรวมถึงชาวต่างชาติจำนวนมากรวมทั้งคนไทย

กต.ปรับเพิ่มยอดตัวประกันคนไทยเป็น 22 คน

ช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา กระทรวงการต่างประเทศ (กต.) ของไทยได้เรียกร้องให้คนไทยในอิสราเอลเร่งตัดสินใจเดินทางกลับสู่ประเทศไทยโดยเร็วที่สุดเนื่องจากสถานการณ์การสู้รบที่ทวีความรุนแรงมากขึ้นและมีแนวโน้มขยายวงกว้าง โดยเมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา ( 29 ต.ค. 2566) ทางกต.ได้ปรับยอดตัวเลขคนไทยในอิสราเอลที่ได้รับผลกระทบจากสงคราม ดังนี้

เสียชีวิต - 32 ราย (คงเดิม)

บาดเจ็บ - 19 ราย (คงเดิม)

ถูกควบคุมเป็นตัวประกัน - 22 ราย (เพิ่มขึ้น 3 ราย จากเมื่อวันเสาร์ที่มีเพียง 19 ราย) 

นอกจากนี้ กต.ยังได้แถลงไม่เห็นด้วย ที่มีการเผยแพร่ภาพคนไทยถูกทำร้ายขณะถูกจับเป็นตัวประกันโดยไม่คำนึงถึงและไม่เคารพต่อผู้เสียชีวิตและครอบครัว เนื้อหาแถลงการณ์ระบุว่า 

ตามที่เมื่อเร็วๆ นี้ ในการประชุมสหประชาชาติได้มีการแสดงคลิปภาพของเหยื่อที่ถูกสังหารอย่างเหี้ยมโหด โดยอ้างว่าเป็นคนไทยนั้น ภาพการสังหารดังกล่าวได้สร้างความสะเทือนใจอย่างยิ่ง ไม่ใช่เฉพาะต่อประชาชนคนไทยเท่านั้น แต่ต่อคนทั่วโลกด้วย

กระทรวงการต่างประเทศรู้สึกสะเทือนใจเป็นอย่างยิ่งที่ได้เห็นรายงานคลิปภาพของเหยื่อ และไม่เห็นด้วยกับการเผยแพร่ภาพที่ไม่คำนึงถึงและไม่เคารพต่อผู้เสียชีวิตและครอบครัว

กระทรวงการต่างประเทศประณามการเข่นฆ่าประชาชนผู้บริสุทธิ์ ไม่ว่าจะกระทำต่อคนชาติใด โดยฝ่ายใด และด้วยเหตุผลใดก็ตาม

กระทรวงต่างประเทศเสียใจเป็นอย่างยิ่งที่มีพี่น้องคนไทยเสียชีวิตจากเหตุการณ์ความไม่สงบนี้แล้วถึง 32 คน บาดเจ็บ 19 คน และถูกจับไป 19 คน (ตัวเลขสถานะคืนวันที่ 28 ตุลาคม ต่อมาวันที่ 29 ต.ค.2566 ได้ปรับเพิ่มเป็น 22 คน) และขอเรียกร้องให้มีการปล่อยตัวประกันทุกสัญชาติทุกคนในทันที