บริษัทแอร์บัส เอสอี ผู้ผลิตเครื่องบินรายใหญ่ของฝรั่งเศส คาดการณ์ว่า บรรดาผู้ผลิตเครื่องบินจะสามารถส่งมอบเครื่องบินรุ่นใหม่ได้ถึง 40,850 ลำในช่วง 20 ปีข้างหน้า
สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานวานนี้ (14 มิ.ย.) ว่า สาเหตุหลักเนื่องจากลูกค้าโดยเฉพาะอย่างยิ่งในเอเชีย จะขยายฝูงบินและเปลี่ยนเครื่องบินใหม่เป็นรุ่นที่ประหยัดพลังงานมากขึ้น
ทั้งนี้ แอร์บัส เอสอี ระบุใน รายงานการคาดการณ์ตลาดโลก (Global Market Forecast) ว่า ฝูงบินทั่วโลกจะเพิ่มจำนวนขึ้นเป็นเท่าตัวภายในปี 2585 แตะที่ระดับ 46,560 ลำ โดยแบ่งเป็นเครื่องบินลำใหม่ 23,680 ลำ และเครื่องบินที่จะมาแทนที่เครื่องบินลำเก่าอีก 17,170 ลำ
นอกจากนี้ 80% ของเครื่องบินที่ถูกส่งมอบจะเป็นเครื่องบินลำเครื่องแคบ เช่น รุ่น A320neo และรุ่น 737 Max ของโบอิ้ง และการขยายตัวจำนวนมากจะมาจากจีนและประเทศอื่น ๆ ในเอเชีย
อุตสาหกรรมการบินมีอุปสงค์พุ่งสูงขึ้นอย่างมาก หลังจากช่วงการแพร่ระบาดของโควิด-19 โดยจำนวนของเส้นทางการบินภายในประเทศในเดือนพ.ค. 2566 สูงกว่าระดับของปี 2562 ขณะที่การเดินทางระหว่างประเทศกลับมาอยู่ที่ระดับ 89% ของช่วงก่อนการแพร่ระบาด
รายงานระบุว่า การคาดการณ์ของแอร์บัสมีขึ้นหนึ่งวันหลังจากที่ อโวลอน โฮลดิงส์ (Avolon Holdings Ltd) บริษัทเช่าเครื่องบิน เปิดเผยการคาดการณ์ที่ออกมาในทิศทางเดียวกัน ซึ่งเป็นการตอกย้ำความเชื่อมั่นว่า อุตสาหกรรมการบินได้กลับเข้าสู่เส้นทางการเติบโตอีกครั้ง
ทั้งนี้ แอร์บัสระบุว่า เฉพาะจีนประเทศเดียวจะมีเครื่องบิน 9,440 ลำภายในปี 2585 โดยที่ 85% ของทั้งหมดจะเป็นเครื่องบินลำตัวแคบ
นอกจากนี้ จีนก็กำลังพัฒนาเครื่องบินลำตัวแคบแบบมีช่องทางเดินเดียว (Single aisle aircraft) ของตนเอง หรือ Comac C919 โดยมีความพยายามที่จะทลายการผูกขาดผลกำไรโดย 2 บริษัทยักษ์ใหญ่อย่างแอร์บัสและโบอิ้งที่ครองตลาดโลกอยู่ในปัจจุบัน