เพิ่ม thansettakij
ลงในหน้าจอหลักของคุณ
สำนักข่าว CNBC เปิดเผย รายชื่อบริษัทจดทะเบียนในตลาดวอลล์สตรีท ที่มี มูลค่าตลาดไม่ต่ำกว่า 1 ล้านล้านดอลลาร์ พบว่ามี 5 บริษัท ดังนี้
โดย CNBC รายงานว่า เอ็นวิเดีย คอร์ป (Nvidia Corp) ซึ่งเป็นบริษัทเซมิคอนดักเตอร์ที่มีมูลค่าสูงที่สุดในโลก ได้ขึ้นแท่นเป็นบริษัทจดทะเบียนที่มีมูลค่าตลาดแตะ 1 ล้านล้านดอลลาร์เมื่อวันอังคาร (30 พ.ค.) ณ เวลา 20.48 น.ตามเวลาไทย หุ้น Nvidia พุ่งขึ้น 5.89% สู่ระดับ 412.40 ดอลลาร์
CNBC ระบุว่า หากราคาหุ้น Nvidia อยู่เหนือระดับ 404.86 ดอลลาร์ ก็จะช่วยหนุนให้บริษัทมีมูลค่าตลาดไม่ต่ำกว่า 1 ล้านล้านดอลลาร์
ทั้งนี้ ราคาหุ้น Nvidia พุ่งขึ้นตั้งแต่สัปดาห์ที่แล้ว ขานรับผลประกอบการที่แข็งแกร่งในเดือนก.พ.-เม.ย. ซึ่งเป็นไตรมาส 1 ของปีงบการเงิน 2567
Nvidia รายงานผลกำไรที่ระดับ 1.09 ดอลลาร์/หุ้น สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 0.92 ดอลลาร์/หุ้น นอกจากนี้ บริษัทยังมีรายได้ 7.19 พันล้านดอลลาร์ สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 6.52 พันล้านดอลลาร์
เอ็นวิเดีย ดาวรุ่งพุ่งแรง รับตลาด AI บูม
เอ็นวิเดีย เป็นบริษัทผลิตชิปคอมพิวเตอร์รายใหญ่ของสหรัฐ กลายเป็นบริษัทที่มีมูลค่าถึง 1ล้านล้านดอลลาร์รายล่าสุดเมื่อวันอังคาร (30 พ.ค.) ท่ามกลางการเติบโตอย่างรวดเร็วของเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ หรือ เอไอ ในปัจจุบัน
ราคาหุ้นของผู้ผลิตชิปคอมพิวเตอร์สำหรับเกมและเอไอรายนี้พุ่งขึ้นในช่วงเช้าของการซื้อขายในวันอังคารต่อเนื่องจากสัปดาห์ที่แล้ว และทำให้ราคาหุ้นของบริษัทเอไออื่น ๆ ดีดขึ้นตามไปด้วย
การพุ่งทะยานของราคาหุ้น Nvidia ล่าสุดนี้เกิดขึ้นหลังจากที่บริษัทเปิดเผยคาดการณ์ผลประกอบการเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ซึ่งสูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดไว้มากกว่า 50% จนถูกเรียกว่า "เกินการหยั่งรู้" และ "ยิ่งใหญ่อย่างที่สุด" ในวงการตลาดหุ้น
ปรากฎการณ์ที่เกิดขึ้นทำให้มูลค่าหุ้นของ Nvidia พุ่งสูงอย่างรวดเร็ว 25% เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมาจนแตะระดับ 411 ดอลลาร์ต่อหุ้นในขณะนี้ และทำให้มูลค่าบริษัทพุ่งขึ้นไปแตะระดับ 1.6 ล้านล้านดอลลาร์ ซึ่งพอ ๆ กับบริษัทเทคโนโลยี อัลฟาเบ็ต (Alphabet) เจ้าของกูเกิล (Google)
และหากจะเทียบกับบริษัทชิปคอมพิวเตอร์รายใหญ่อันดับสองของโลก คือ TSM (Taiwan Semiconductor Manufacturing) ก็นับว่าห่างกันหลายขุม เพราะมูลค่าตลาดของ TSM น้อยกว่า Nvidia เกินครึ่งหนึ่ง คือประมาณ 535,000 ล้านดอลลาร์เท่านั้น
ด้วยเหตุนี้ Nvidia จึงทะยานขึ้นเป็นบริษัทเทคโนโลยีรายที่ 5 ที่มีมูลค่าแตะระดับ 1 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ ต่อจาก แอปเปิล (Apple) อัลฟาเบ็ต (Alphabet) ไมโครซอฟต์ (Microsoft) และแอมะซอน (Amazon) ตามลำดับ
นักวิเคราะห์เชื่อว่า ธุรกิจชิปเอไอของ Nvidia ยังสามารถเติบโตได้อีกมาก เนื่องจากตลาดเทคโนโลยีเอไอในปัจจุบันยังคงอยู่ในระดับเริ่มต้นเท่านั้น
ธุรกิจของบริษัทเทคโนโลยีแห่งนี้ขยายตัวอย่างรวดเร็วในช่วงการระบาดของโควิด-19 เมื่อผู้คนจำนวนมากใช้ชีวิตอยู่ภายในบ้านและเกมคอมพิวเตอร์กลายเป็นสิ่งที่ขาดไม่ได้ รวมทั้งการเติบโตของระบบคลาวน์คอมพิวเตอร์และเงินดิจิทัล
นอกจากนี้ ความสำเร็จอันน่าทึ่งของ ChatGPT ก็ยิ่งทำให้บริษัทเทคโนโลยีรายใหญ่กระโจนเข้าสู่ตลาดเอไอ ทำให้ความต้องการชิปคอมพิวเตอร์ที่มีระบบการประมวลผลขั้นสูง ยิ่งขยายตัวตามไปด้วยเช่นกัน