นางจาซินดา อาร์เดิร์น ประกาศลาออกจากตำแหน่ง นายกรัฐมนตรีนิวซีแลนด์ กะทันหัน หลังจากปกครองประเทศมานาน 5 ปี สร้างความตกใจให้กับชาวนิวซีแลนด์และคนทั่วโลกไม่น้อย เธอให้เหตุผลว่าไม่มีกำลังต่อไปที่จะบริหารประเทศ รู้สึกหมดไฟ ไม่ว่าจะเป็นการระบาดของโรคโควิด-19 เหตุก่อการร้ายครั้งร้ายแรงที่สุดของที่มัสยิดในเมืองไครสต์เชิร์ช ภูเขาไฟปะทุใหญ่เดือนธันวาคม 2562 และเธอก็เชื่อว่ามีคนที่ทำหน้าที่นายกรัฐมนตรีนิวซีแลนด์ได้ดีกว่า
ล่าสุดสำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า นายคริส ฮิปกินส์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการนิวซีแลนด์ วัย 44 ปี จะขึ้นดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีคนใหม่ของนิวซีแลนด์ หลังจากได้รับการเสนอชื่อเพียงคนเดียว
การประกาศลงจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรีนิวซีแลน์ด์ครั้งนี้เกิดคำถามขึ้นว่า แท้จริงแล้วสาเหตุมาจากอะไรกันแน่ นักวิเคราะห์ระบุว่า เห็นได้ชัดในคำกล่าวลาออกของเธอ มาจากแรงกดดันที่มีผลกระทบและทำให้เธอสงสัยว่าจะนำพรรคไปสู่การเลือกตั้งที่กำหนดไว้ในเดือนตุลาคมได้หรือไม่
ทั้งนี้ หากย้อนไปเมื่อปี 2022 เธอเคยบอกว่า ความนิยมที่ลดลงคือราคาที่รัฐบาลต้องจ่าย รวมทั้งกระแสความนิยมที่ตกต่ำลงของพรรค ซึ่งส่วนใหญ่มีเหตุผลจากปัญหาต่างๆ ภายในประเทศ โดยบรรดานักวิเคราะห์ออกมาให้ความเห็นที่หลากหลาย
จอฟฟรีย์ มิลเลอร์ นักวิจารณ์การเมืองและนักวิเคราะห์ภูมิรัฐศาสตร์จากโครงการประชาธิปไตย กล่าวว่า 5 ปีที่ยากลำบาก แต่พรรคของเธอก็ทำผลงานได้ค่อนข้างแย่ แม้ว่าพรรคแรงงานจะได้เสียงข้างมากในการเลือกตั้งในปี 2563 แต่ขณะนี้พวกเขาได้คะแนนเสียงมากกว่าร้อยละ 30
สอดคล้องกับ ริชาร์ด ชอว์ จากมหาวิทยาลัยแมสซีย์ ในนิวซีแลนด์ ชี้ให้เห็นว่า การสำรวจความคิดเห็นในปี 2020 เป็นการสนับสนุนความเป็นผู้นำของเธอ หลังจากเหตุการณ์สังหารหมู่ในไครสต์เชิร์ชในปี 2019 และแนวทางที่เธอเป็นผู้นำประเทศในปีแรกของการรับมือการแพร่ระบาดโควิด สิ่งที่เกิดขึ้นตามมาคือรอยร้าวในช่วงต้นปี 2022 ผู้ประท้วงเข้ายึดพื้นที่รัฐสภาของประเทศ ซึ่งนำไปสู่ความรุนแรง
เจน แพตเตอร์สัน บรรณาธิการด้านการเมืองของ Radio New Zealand กล่าวว่า นางอาเดิร์น กำลังถอยห่างด้วยเหตุผลส่วนตัว ซึ่งรวมถึงเป้าหมายสำคัญของชีวิตในฐานะพ่อแม่ ไม่ใช่แค่ในฐานะนักการเมือง เธอมีลูกสาววัย 5 ขวบที่กำลังเข้าโรงเรียน
ในเดือนมิถุนายน 2022 มีข้อมูลชี้ว่า ตำรวจพบการข่มขู่อาร์เดิร์นเพิ่มขึ้นเกือบ 3 เท่าตลอด 3 ปีที่ผ่านมา
อีกทั้งฤดูร้อนที่ผ่านมา อาร์เดิร์นยังเคยถูกคนที่เธอไม่รู้จักลุกขึ้นมาด่าทอและคุกคามกลางที่สาธารณะอีกด้วย
นักวิเคราะห์ให้ความเห็นเพิ่มเติมว่า นางอาร์เดิร์นได้รับการยกย่องจากต่างประเทศในการจัดการวิกฤติของชาติ แต่แม้ว่านโยบายโควิดของเธอจะสร้างชื่อเสียง เเต่กลับเผชิญแรงต่อต้าน การแบ่งฝักฝ่ายในปัญหาภายในหลายอย่าง ไม่ว่าจะเป็นกลุ่มต่อต้านการฉีดวัคซีน ปัญหาค่าครองชีพและราคาบ้านพุ่งสูง และปัญหาเกี่ยวกับชนพื้นเมืองชาวเมารี
“จาซินดา อาร์เดิร์นไม่เคยเรียกใครว่าเป็นศัตรู เธอพยายามแสดงภาพและมีความเป็นผู้ใหญ่ที่มีความปรองดอง” ดร. ชอว์กล่าว
ข้อมูล : channelnewsasia , bbc