สื่อนอกเผย “โคฐาภยะ ราชปักษะ” อดีตผู้นำศรีลังกาจ่อมาไทย 11 ส.ค.
รอยเตอร์รายงานอ้างอิงแหล่งข่าวเผย นายโคฐาภยะ ราชปักษะ อดีตประธานาธิบดีศรีลังกาที่กำลังลี้ภัยการเมืองอยู่นอกประเทศหลังถูกประชาชนประท้วงขับไล่ จะเดินทางมาเยือนไทยในวันพรุ่งนี้ (11 ส.ค.) หลังครบกำหนดพำนักในสิงคโปร์ กต.ยันจริง และเป็นการร้องขอจากรัฐบาลศรีลังกา
สำนักข่าวรอยเตอร์ รายงานโดยอ้างอิงข้อมูลจากแหล่งข่าวที่ไม่ประสงค์ออกนามในวันนี้ (9 ส.ค.) ว่า อดีตประธานาธิบดี โคฐาภยะ ราชปักษะ แห่ง ศรีลังกา จะเดินทางจากสิงคโปร์มายัง ประเทศไทย ในวันพฤหัสบดี (11 ส.ค.) เพื่อใช้เป็นสถานที่พักพิงแห่งที่สอง หลังถูกมวลชนประท้วงกดดันให้ต้องลี้ภัยออกจากศรีลังกาเมื่อเดือนก.ค.ที่ผ่านมา
ทั้งนี้ นายราชปักษะได้เดินทางไปยังสิงคโปร์ในวันที่ 14 ก.ค.ผ่านทางมัลดีฟส์ หลังเกิดสถานการณ์ความไม่สงบขึ้นในศรีลังกาจากผลพวงของวิกฤตเศรษฐกิจครั้งใหญ่ที่สุดในรอบ 7 ทศวรรษ และไม่กี่วันหลังจากกลุ่มผู้ประท้วงบุกบ้านพักและทำเนียบประธานาธิบดี
เหตุการณ์ดังกล่าวทำให้นายราชปักษะจำเป็นต้องลาออกจากตำแหน่งประธานาธิบดี และกลายเป็นผู้นำคนแรกของประเทศที่ลาออกจากตำแหน่งกลางเทอม
ก่อนหน้านี้ แหล่งข่าวเปิดเผยว่า สิงคโปร์ได้ขยายใบอนุญาตพำนักระยะสั้นให้กับนายราชปักษะ ทำให้เขาสามารถอยู่ในสิงคโปร์ได้ถึงวันที่ 11 ส.ค.2565
ด้านหนังสือพิมพ์เดอะ วอลล์ สตรีท เจอร์นัลรายงานถ้อยแถลงของประธานาธิบดี รานิล วิกรมสิงเห ผู้นำศรีลังกาคนใหม่ว่า ขณะนี้ยังไม่ใช่เวลาที่เหมาะสมที่จะให้นายราชปักษะเดินทางกลับประเทศศรีลังกา เนื่องจากอาจทำให้ความตึงเครียดทางการเมืองรุนแรงขึ้นอีก
กต. ตอบชี้แจงกรณีอดีตผู้นำศรีลังกาเดินทางเข้าไทย
วันที่ 10 ส.ค. 2565 นายธานี แสงรัตน์ อธิบดีกรมสารนิเทศและโฆษกกระทรวงการต่างประเทศ ชี้แจงกรณีมีรายงานข่าวว่านายโคฐาภยะ ราชปักษะ อดีตประธานาธิบดีศรีลังกาเตรียมเดินทางเข้ามาประเทศไทย ว่า การเดินทางเข้าประเทศไทยของอดีตประธานาธิบดีศรีลังกานั้น เป็นการร้องขอจากรัฐบาลศรีลังกาชุดปัจจุบัน โดยไทยพิจารณาคำขอดังกล่าวบนพื้นฐานของความสัมพันธ์ฉันมิตรระหว่างไทยกับศรีลังกา
ทั้งนี้ อดีตประธานาธิบดีศรีลังกาเป็นผู้ถือหนังสือเดินทางทูต ซึ่งได้รับการยกเว้นการตรวจลงตรา ไม่เกิน 90 วัน ตามความตกลงว่าด้วยการยกเว้นการตรวจลงตราสำหรับผู้ถือหนังสือเดินทางทูต และราชการปี พ.ศ. 2556
การเข้าประเทศไทยของอดีตประธานาธิบดีศรีลังกา เป็นการพำนักชั่วคราว โดยฝ่ายศรีลังกาแจ้งว่า อดีตประธานาธิบดีศรีลังกาไม่ได้มีความประสงค์ที่จะลี้ภัยทางการเมืองในประเทศไทยแต่อย่างใด และจะเดินทางไปยังประเทศอื่นต่อไป
ข้อมูลอ้างอิง