ประธานาธิบดีศรีลังกา หนีออกประเทศไปมัลดีฟส์แล้ว

13 ก.ค. 2565 | 02:08 น.

ประธานาธิบดีศรีลังกา หลบหนีออกนอกประเทศด้วยเครื่องบินทหารในช่วงเช้าวันนี้ (13 ก.ค.) เนื่องจากไม่สามารถทนแรงกดดันจากประชาชน โดยรายงานระบุว่าขณะนี้ นายราชปักษะ พร้อมภริยา ได้เดินทางถึงประเทศมัลดีฟส์แล้ว

สำนักข่าวเอเอฟพีรายงานอ้างแหล่งข่าวเจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมือง ระบุว่า ประธานาธิบดีโคฐาภยะ ราชปักษะ ของศรีลังกา พร้อมภริยา และบอดี้การ์ดหนึ่งคน อยู่ในกลุ่มผู้โดยสารสี่คนบนเครื่องบินทหาร Antonov-32 นำพวกเขาออกจากสนามบินนานานาชาติหลักของประเทศมุ่งหน้าสู่มัลดีฟส์ ประเทศเพื่อนบ้าน

 

“หนังสือเดินทางของพวกเขาได้รับการตรวจลงตรา พวกเขาขึ้นเครื่องบินพิเศษของกองทัพอากาศ” เจ้าหน้าที่ตม.คนหนึ่งที่เกี่ยวข้องกับกระบวนการ กล่าวกับเอเอฟพี

ก่อนหน้านี้ นายราชปักษะ ยืนยันว่าเขาจะลาออกจากตำแหน่งในวันนี้ หลังจากที่กลุ่มผู้ประท้วงได้บุกเข้าไปยังบ้านพักในทำเนียบประธานาธิบดี รวมทั้งได้จุดไฟเผาบ้านพักของนายกรัฐมนตรีรานิล วิกรมสิงเห เนื่องจากไม่พอใจต่อการบริหารประเทศ ท่ามกลางวิกฤตเศรษฐกิจที่ตกต่ำ
          

รัฐสภาศรีลังกาจะจัดการประชุมในวันที่ 15 ก.ค.นี้ เนื่องจากตำแหน่งประธานาธิบดีได้ว่างลง และจะมีการเสนอชื่อผู้สมัครชิงตำแหน่งประธานาธิบดีในวันที่ 19 ก.ค. ส่วนการลงคะแนนเพื่อสรรหาประธานาธิบดีคนใหม่จะมีขึ้นในวันที่ 20 ก.ค.

 

อ่านเพิ่มเติม :  ตม.ศรีลังกาขวางลำ ห้ามคนตระกูล "ราชปักษะ" ที่ใกล้ชิดปธน.หนีออกนอกประเทศ

รายงานระบุว่า กลุ่มสมาชิกรัฐสภาของพรรคสามัคคีชนะพละเวกายา (Samagi Jana Balawegaya) เตรียมเสนอชื่อนายสาชิต เปรมทาส ผู้นำพรรคเข้าชิงตำแหน่งประธานาธิบดีคนต่อไป
         

ทั้งนี้ ความผิดพลาดในการบริหารจัดการเศรษฐกิจ และผลกระทบจากการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ได้ทำให้ศรีลังกาซึ่งมีประชากร 22 ล้านคนไม่สามารถชำระเงินเพื่อการนำเข้าสินค้าที่จำเป็น เช่น อาหาร ปุ๋ย ยารักษาโรค และเชื้อเพลิง เนื่องจากรัฐบาลขาดแคลนสกุลเงินดอลลาร์อย่างรุนแรง และต้องพิมพ์เงินรูปีเพื่อจ่ายเงินเดือนให้กับข้าราชการ จนทำให้เงินเฟ้อพุ่งขึ้นถึง 54.6% ในเดือนมิ.ย.ที่ผ่านมา ขณะที่ต้นทุนค่าขนส่งทะยานขึ้นถึง 128% และค่าอาหารพุ่งขึ้น 80% อันเป็นผลจากการขาดแคลนพืชผลและน้ำมันดิบ