การเมืองกระแทก “แจ็ก หม่า” หล่นอันดับเบอร์ 1 มหาเศรษฐีจีน

03 มี.ค. 2564 | 03:00 น.

รายงานการจัดอันดับ “บุคคลร่ำรวยที่สุดของจีน” ที่เผยแพร่โดยนิตยสารหูรุ่น (Hurun)วานนี้ (2 มี.ค.) เปิดเผยว่า นาย แจ็ก หม่า ผู้ก่อตั้ง บริษัท อาลีบาบา และแอนท์ กรุ๊ป ได้เสียตำแหน่งอันดับหนึ่งบุคคลร่ำรวยที่สุดของจีนไปแล้ว

การหล่น อันดับบุคคลที่ร่ำรวยที่สุดในจีน ของ นายแจ็ก หม่า สวนทางกับนักธุรกิจร่วมวงการหลายคนที่ไต่อันดับสูงขึ้น เนื่องจากเครือข่ายกิจการของนายแจ็ก หม่านั้นได้ถูกเจ้าหน้าที่ฝ่ายกำกับดูแลของจีนเพ่งเล็งอย่างหนักมาตั้งแต่ปลายปีที่ผ่านมา

นายแจ็ก หม่า และครอบครัวเคยอยู่อันดับ 1 ของรายงานการจัดอันดับดังกล่าวในปี 2562 และ 2563 แต่มาในปีนี้กลับร่วงลงมาอยู่ที่อันดับ 4 ตามหลัง นายจง ซานซาน เจ้าของบริษัทผลิตน้ำดื่ม หนงฟูสปริง (Nongfu Spring) นายโพนี หม่า เจ้าของบริษัทเทนเซนต์ โฮลดิ้งส์ (Tencent Holding) และนายคอลลิน หวง เจ้าของบริษัทอีคอมเมิร์ซมาแรงอย่างพินตั่วตัว (Pinduoduo)

ธุรกิจถูกตรวจสอบเข้มข้นทำให้มูลค่าสินทรัพย์ของแจ็ก หม่า วูบตาม

นิตยสารหูรุ่นระบุว่า สาเหตุที่นายแจ็ก หม่าร่วงลงจาก 3 อันดับสูงสุด หรือ ท็อป 3 นั้น มาจากการที่บริษัทอาลีบาบาและแอนท์ กรุ๊ป ถูกเจ้าหน้าที่ฝ่ายกำกับดูแลของจีนดำเนินการตรวจสอบในประเด็นละเมิดกฎหมายต่อต้านการผูกขาด

สถานการณ์ที่น่าเป็นห่วงของ แจ็ก หม่าในขณะนี้เป็นผลมาจากการที่เขากล่าววิพากษ์วิจารณ์อย่างเปิดเผยตรงไปตรงมาเกี่ยวกับระบบกำกับดูแลและกฎระเบียบควบคุมการเงินของจีน จนทำให้แอนท์ กรุ๊ป โดนสั่งระงับการระดมทุนจากการเสนอขายหุ้นต่อสาธารณชนเป็นครั้งแรก (IPO) ที่เดิมตั้งเป้าหมายไว้สูงถึง 37,000 ล้านดอลลาร์ โดยเกิดขึ้นเพียงไม่กี่วันก่อนหน้าที่บริษัทฟินเทครายใหญ่แห่งนี้จะนำหุ้นเข้าซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ฮ่องกงและเซี่ยงไฮ้

สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า เจ้าหน้าที่ฝ่ายกำกับดูแลของจีนได้หันมาตรวจสอบภาคอุตสาหกรรมเทคโนโลยีอย่างเข้มงวดมากขึ้น โดยทำการสอบสวนพุ่งไปที่บริษัทอาลีบาบาเป็นหลัก จากนั้นก็ได้เริ่มดำเนินการตรวจสอบบริษัทอาลีบาบาในประเด็นละเมิดกฎหมายต่อต้านการผูกขาดตั้งแต่เดือนธ.ค. 2563 นอกจากนี้ ยังเพิ่มความเข้มงวดกับภาคอุตสาหกรรมฟินเทค และได้ขอให้แอนท์ กรุ๊ป ปรับโครงสร้างธุรกิจให้มาเป็นบริษัทผู้ประกอบการด้านการเงินแบบทั่ว ๆไปที่จะต้องอยู่ภายใต้กฎเกณฑ์การกำกับดูแลเหมือนบริษัทด้านการเงินรายอื่น ๆ

ตัวแจ็ก หม่า เองก็ห่างหายจากสายตาของสาธารณชนเป็นเวลาราว 3 เดือนก่อนที่จะปรากฏตัวในคลิปวิดีโอความยาว 50 วินาทีเมื่อเดือนม.ค.ที่ผ่านมา

ทั้งนี้ มหาเศรษฐีผู้ได้ครอบครองตำแหน่งร่ำรวยที่สุดเป็นอันดับ1 ของประเทศจีน ในปัจจุบัน คือ นายจง ซานซาน เจ้าของบริษัทผลิตน้ำดื่ม หนงฟูสปริง (Nongfu Spring) โดยเขามีสินทรัพย์มูลค่ารวม 550,000 ล้านหยวน หรือประมาณ 85,000 ล้านดอลลาร์ คิดเป็นเงินไทยราว  2.55 ล้านล้านบาท ซึ่งเป็นผลมาจากราคาหุ้นที่ทะยานขึ้นของหนงฟูสปริง และหุ้นบริษัทผลิตวัคซีน ปักกิ่ง หวันไถ ไบโอโลจิคัล ฟาร์มาซี เอนเทอร์ไพรส์ (Beijing Wantai Biological Pharmacy Enterprise) ที่เขาเป็นเจ้าของอยู่เช่นกัน

จง ซ่านซ่าน เจ้าของบริษัทผลิตน้ำดื่ม หนงฟูสปริง

ส่วนนายโพนี หม่า เจ้าของบริษัทเทนเซนต์ โฮลดิ้งส์ (Tencent Holding) ที่ร่ำรวยเป็นอันดับสองนั้น มีสินทรัพย์เพิ่มขึ้น 70% เป็น 480,000 ล้านหยวน ตามมาด้วยนายคอลลิน หวง เจ้าของบริษัทอีคอมเมิร์ซ พินตั่วตัว (Pinduoduo) ผู้ครองความร่ำรวยอันดับ3 ด้วยสินทรัพย์ที่มีมูลค่าเพิ่มขึ้นอย่างร้อนแรง 283% เป็น 450,000 ล้านหยวน ขณะที่นายแจ็ก หม่า และครอบครัว มีสินทรัพย์เพิ่มขึ้น 22% คิดเป็นมูลค่ารวม 360,000 ล้านหยวน ครองอันดับ4

เศรษฐีจีนที่เข้าอันดับ Top5 เป็นรายใหม่ในทำเนียบมหาเศรษฐีของนิตยสารหูรุ่น คือนายจาง อี้หมิง ผู้ก่อตั้งบริษัทไบท์แดนซ์ (ByteDance) เจ้าของแอปพลิเคชันติ๊กต็อก (TikTok) เข้ามาอยู่ในอันดับที่5 เป็นครั้งแรก

 

ข้อมูลอ้างอิง:

Jack Ma loses title as China's richest man after coming under Beijing's scrutiny

ข่าวที่เกี่ยวข้อง: