สถานการณ์ น้ำมันรั่วมากกว่า 1,000 ตัน จากเรือบรรทุกน้ำมัน “เอ็มวี วากะชิโอะ” (MV Wakashio) ของบริษัทมิตซุย โอเอสเค ไลนส์ จากประเทศญี่ปุ่น(แต่จดทะเบียนเรือสัญชาติปานามา) ซึ่งประสบอุบัติเหตุเกยตื้นบริเวณแนวปะการังนอกชายฝั่งหมู่เกาะมอริเชียส ประเทศหมู่เกาะในมหาสมุทรอินเดีย เขตทวีปแอฟริกาฝั่งตะวันออก ตั้งแต่เมื่อวันที่ 7 ส.ค. ที่ผ่านมา ได้เข้าขั้นเลวร้ายลงเรื่อย ๆ ซึ่งจากภาพถ่ายทางอากาศพบว่า ขณะนี้คราบน้ำมันได้แผ่กระจายไปทั่วบริเวณหมู่เกาะที่มีแนวปะการังสวยงามของมอริเชียส
นายประวินด์ กุมาร จักนาธ นายกรัฐมนตรีมอริเชียส เปิดเผยว่า สถานการณ์น้ำมันรั่วครั้งนี้เป็นอันตรายอย่างยิ่งต่อประเทศมอริเชียส ที่มีประชากร 1.3 ล้านคนและเศรษฐกิจต้องพึ่งพาอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวเป็นหลัก ขณะนี้ รัฐบาลได้ประกาศภาวะพิบัติภัยฉุกเฉินด้านสิ่งแวดล้อมแล้ว
ทั้งนี้ เศรษฐกิจของมอริเชียสประสบภาวะย่ำแย่อยู่แล้วจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ที่ทำให้อุตสาหกรรมการเดินทางและการท่องเที่ยวชะงักงัน แต่สถานการณ์ก็ยังมาถูกซ้ำเติมด้วยเหตุการณ์น้ำมันรั่วครั้งนี้ “ประเทศเราไม่มีความเชี่ยวชาญและไม่มีผู้ชำนาญการเพียงพอที่จะจัดการปัญหาเรือเกยตื้นอยู่นอกชายฝั่ง สภาพอากาศที่เลวร้ายยังทำให้เราไม่สามารถดำเนินการในเรื่องนี้ ผมเกรงว่าเมื่อสภาพอากาศเลวร้ายลงไปกว่านี้ อะไรจะเกิดขึ้นได้อีก”
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
ช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา กระแสลมที่พัดแรงทำให้คราบน้ำมันกระจายตัวกว้างไกลออกไปรอบ ๆ ชายฝั่งของหมู่เกาะมอริเชียส ภาพถ่ายวิดีโอที่ถูกบันทึกไว้แสดงให้เห็นผิวน้ำที่เต็มไปด้วยคราบน้ำมันบริเวณชายฝั่งเกาะใหญ่ เมื่อมีผู้นำท่อนไม้จุ่มลงในน้ำทะเลแล้วยกขึ้นมา ไขมันข้นสีดำก็หยดลง มูลนิธิคุ้มครองสัตว์ของมอริเชียสต้องเร่งช่วยกันออกทำการช่วยเหลือนกทะเลและเต่าที่ถูกคราบน้ำมันข้นๆ เคลือบเกาะขนและผิวของพวกมัน ขณะที่ประชาชนพากันนำวัสดุอุปกรณ์เท่าที่จะพอหาได้ เช่น ถุงกระสอบบรรจุใบอ้อย นำมาใช้ซับคราบน้ำมันออกจากผิวน้ำ
กลุ่มกรีนพีซแอฟริกาได้ออกมาเตือนว่าน้ำมันที่รั่วไหลออกมานี้กำลังปนเปื้อนเป็นวงกว้างและทำให้ระบบนิเวศของชายฝั่งหลายแห่งได้รับผลกระทบ และจะส่งผลให้เศรษฐกิจของมอริเชียส แหล่งอาหารของประชาชน รวมทั้งสุขภาพอนามัยของพวกเขา ต้องจมดิ่งลงสู่มลภาวะทางทะเลที่เกิดขึ้น นายเควี รามาโน รัฐมนตรีสิ่งแวดล้อมของมอริเชียส กล่าวว่า ได้ขอความช่วยเหลือฉุกเฉินไปยังสหประชาชาติ (ยูเอ็น) แล้ว ซึ่งรวมถึงความช่วยเหลือในรูปเจ้าหน้าที่เทคนิคที่สามารถเข้าควบคุมการแพร่กระจายของคราบน้ำมันในทะเลรวมทั้งเจ้าหน้าที่ผู้เชี่ยวชาญด้านสิ่งแวดล้อม
นายเอ็มมานูเอล มาครง ประธานาธิบดีฝรั่งเศส ประกาศพร้อมให้ความช่วยเหลือขั้นต้นจากหมู่เกาะ “รียูเนียน” ซึ่งอยู่ในอาณัติของฝรั่งเศส โดยจะส่งเครื่องบินของกองทัพนำอุปกรณ์กำจัดคราบน้ำมันไปมอบให้กับมอริเชียส จากนั้นจะมีเรือของทัพเรือฝรั่งเศสนำอุปกรณ์และของจำเป็นเพิ่มเติมไปมอบให้ “เมื่อความหลากหลายทางชีวภาพตกอยู่ในอันตราย เราต้องลงมือแก้ไขอย่างเร่งด่วน และฝรั่งเศสจะอยู่เคียงข้างกับชาวมอริเชียส” ผู้นำฝรั่งเศสระบุในทวิตเตอร์
ด้านนายอาคิฮิโตะ โอโนะ รองประธานบริษัท มิตซุยฯ ให้สัมภาษณ์ที่กรุงโตเกียวว่า บริษัทรู้สึกเสียใจอย่างที่สุด และจะพยายามทุกหนทางเพื่อแก้ไขปัญหานี้ รายงานข่าวระบุว่า เรือดังกล่าวซึ่งบรรทุกน้ำมันราว 4,000 ตันได้แล่นเข้าใกล้แนวปะการังของหมู่เกาะมอริเชียสตั้งแต่วันที่ 25 ก.ค.ที่ผ่านมา ก่อนจะเกยตื้นและไปต่อไม่ได้ แต่หลังจากนั้นลำเรือได้เกิดรอยแตกทำให้น้ำมันเริ่มรั่วไหลออกมาไม่หยุด นับเป็นครั้งแรกของประเทศมอริเชียสที่เผชิญภัยพิบัติในลักษณะนี้
ข้อมูลอ้างอิง
Satellite images show oil spill disaster unfolding in Mauritius: "We will never be able to recover"
Mauritius PM warns damaged ship leaking oil could split