สำนักข่าวบลูมเบิร์ก รายงานโดยอ้างแหล่งข่าวถึงการพบกันระหว่าง นายกรัฐมนตรี หลี่ เค่อ เฉียงของจีน และ วิลเบอร์ รอส รมว.พาณิชย์ หารือกันในเวทีอาเซียนที่ประเทศไทยเป็นเจ้าภาพ โดยกล่าวถึงความคืบหน้าในการเจรจาว่า ประธานาธิบดีของจีนอาจจะเดินทางไปสหรัฐฯเพื่อทำการลงนามในข้อตกลงการค้าขั้นต้นกับประธานาธิบดีโดนัล ทรัมป์ แต่การไปครั้งนี้จะเป็นส่วนหนึ่งของการไปเยี่ยมในฐานะแขกของรัฐบาลสหรัฐฯ ซึ่งทั้งหมดนี้ยังไม่ได้มีการตัดสินใจใดๆทั้งสิ้น ขณะที่วิลเลอร์ รอสส์ รมว.พาณิชย์สหรัฐฯกล่าวว่าการเจรจานั้น ดำเนินไปได้ด้วยดี ไม่มีเหตุผลอะไรที่จะหยุดชะงักและทำให้ไม่สามารถลงนามข้อตกลงได้
นอกจากนี้สำนักข่าวซินหัวยังรายงานถึงการพบกันระหว่าง นาย หลี่เค่อเฉียง นายกรัฐมนตรีจีน และนายโรเบิร์ต ซี.โอไบรอัน ที่ปรึหษาด้านความมั่นคงของสหรัฐฯ ตัวแทนประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ โดยกล่าวว่า ทั้งสองประเทศสนับสนุนจัดการความแตกต่างบนพื้นฐานของความเท่าเทียมและความเคารพซึ่งกันและกัน เพื่อผลักดันสายสัมพันธ์ทวิภาคีสู่ทิศทางการพัฒนาที่ถูกต้อง เหมาะสม
หลี่เผยว่าการสถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูตจีน-สหรัฐฯ ครบ 40 ปี ในปี 2019 ซึ่งการไปมาหาสู่และความร่วมมือ ตลอดระยะเวลาดังกล่าวนํามาซึ่งผลลัพธ์อันเป็นรูปธรรมและผลดีต่อโลก ที่เผชิญการเปลี่ยนแปลงและความสลับซับ ซ้อนในปัจจุบัน
“การพัฒนาความสัมพันธ์จีน-สหรัฐฯ ให้มีเสถียรภาพ ซึ่งเป็นสิ่งที่ประชาคมนานาชาติเฝ้ารอ จําเป็นต้องก้าวไปข้างหน้า เสมอ ทั้งสองฝ่ายควรยึดมั่นฉันทามติที่ผู้นําประเทศได้บรรลุ เดินหน้าความสัมพันธ์ด้วยการประสานงาน ความร่วมมือ และความมั่นคงเป็นปัจจัยหลัก”
ด้านโอไบรอันกล่าวว่าความสัมพันธ์สหรัฐฯ-จีน มีความสําคัญยิ่งยวดต่อทั้งสองประเทศและโลก โดยการเจรจาทางการ ค้าของทั้งสองฝ่ายมีความคืบหน้า สอดคล้องกับผลประโยชน์ร่วมของสองประเทศและประเทศต่างๆ ทั่วโลก
โอไบรอันเสริมว่าแม้จะเกิดความแตกต่างระหว่างสหรัฐฯ และจีน แต่ทั้งสองฝ่ายควรจัดการประเด็นเหล่านั้นอย่างเหมาะ สมด้วยวิธีการที่สร้างสรรค์ เพื่อผลักดันการพัฒนาความสัมพันธ์ของสองประเทศ